ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeทั้งหลาย (☆▽☆)ถึงไม่ใช่คนอะไรกับผมมาก แต่เชื่อว่าในใจลึกๆ ของผู้หญิงทุกคน ก็อยากมีผมสวย ดูมีวอลลุ่มเงางาม เหมือนนางแบบแชมพูสักครั้งนึงในชีวิตทั้งนั้นล่ะน่า!ยิ่งซีนที่เขาสะบัดผมพรึ่บ! เหมือนหัวใจจะหยุดหมุน เห็นแล้วอยากลูบ อยากจับ ยิ่งเป็นผมตัวเองจะต้องนุ่มมือมากแน่ๆ แถมผู้หญิงผมหนาก็ดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ><แต่ถ้าผมบาง แถมยังแห้งกรอบ ชี้ฟู หวีก็ติดสังกะตังแกรกๆ เป็นไม้กวาด จะกู้ชีพขึ้นมายังไงดี???ไม่ต้องบากหน้าไปถึงซาลอนแพงๆ หรือกล้อนผมทิ้งแต่อย่างใด ถึงผมพังแค่ไหน ก็ทำให้นุ่มสลวยขึ้นมาได้ แค่ทำตาม 7 สูตรมาส์กผมที่ทำตามง่าย หาได้ที่บ้าน และทริคอีกเล็กๆ น้อยๆ ด้านล่างนี้เท่านั้น =w=bลองเลื่อนลงมาอ่านเลย ว่ามีสูตรไหนน่าทำตามบ้าง?

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/1wpxKyKAONy98ZhP9G/giphy.gif

1. อะโลเวร่า / ว่านหางจระเข้

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/Zu2ihl.jpg

' อะโลเวร่า ' หรือที่เรียกกันติดปากว่าว่านหางจระเข้ เป็นแหล่งของเอนไซม์ proteolytic ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังศีรษะที่เสียหาย ให้สุขภาพดี รูขุมขนกระชับ เส้นผมยาวเร็วขึ้น!!เนื่องจากอะโลเวร่า มีส่วนผสมที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นค่อนข้างสูง จึงช่วยทำให้เส้นผมไม่แห้งกร้าน นุ่มลื่นเงางาม ไม่ชี้ฟูทั้งวัน ผู้ชายลูบผมแล้วชม ไม่เบะปากหนีแน่นอนจ้าสิ่งที่ต้องใช้> ว่านหางจระเข้ ( อะโลเวร่า )> น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ> ขวดสเปรย์

วิธีทำ1. หั่นอะโลเวร่าให้เห็นเนื้อวุ้นเจล นำช้อนมาบดๆ ขยี้ๆ จนได้เจล 2 ช้อนโต๊ะ ( เอาแค่ส่วนวุ้นใสๆ นะคะ ไม่เอาส่วนที่เป็นสีเหลือง )2. บดเจลจนกลายเป็นเจลเนียนๆ ไม่มีก้อนปนอยู่3. เติมน้ำ 2 ช้อนโต๊ะลงไป ผสมให้เข้ากัน เทใส่ขวดสเปรย์ เขย่าให้เข้ากัน4. สเปรย์เส้นผมให้ทั่วศีรษะ หลังสระผมและเป่าให้แห้งเรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องล้างออกทำบ่อยแค่ไหน :3-4 ครั้ง/ สัปดาห์

2. นวดศีรษะด้วยออยล์ร้อน ( น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะกอก )

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuCQ3a.jpg

' การนวดน้ำมัน ' บนหนังศีรษะ จะช่วยกระตุ้นเกล็ดผม ทำให้ผมยาวเร็วขึ้น เป็นการปรนนิบัติหนังศีรษะที่ดีเยี่ยม ขั้นกว่าของการใช้ทรีทเมนต์ ก็ใช้ออยล์นี่ล่ะค่ะ!แถมยังช่วยขจัดรังแคและอาการคันอีกด้วย บำรุงเส้นผมให้แข็งแรงน้ำมันมะพร้าวจะซึมเข้าไปในเส้นผมอย่างล้ำลึก ทำให้ผมชุ่มชื้นจากภายใน ไม่แตกปลาย ส่วนน้ำมันมะกอกเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันและวิตามินอี จึงช่วยบำรุงและซ่อมแซมเส้นผมที่สึกหรอได้ดีสุดๆ จะเลือกใช้ชนิดไหนก็ได้ทั้งนั้นค่ะสิ่งที่ต้องใช้> น้ำมันมะพร้าว / น้ำมันมะกอก 2-3 ช้อนโต๊ะ> ผ้าขนหนูอุ่น

วิธีทำ

1. ใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าวก็ได้ 2-3 ช้อนโต๊ะ ( ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม ) นำไปอุ่น 2-3 วินาทีแล้วน้ำมันอุ่นนิดๆ

2. นำออยล์ไปนวดหนังศีรษะให้ทั่ว ตั้งแต่โคนจรดปลายผม

3. นวดต่อเนื่องเป็นเวลา 15 นาที แล้วหมักทิ้งไว้บนผมอีก 30 นาที พันด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ เพื่อการหมักให้มีผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น

4. ล้างออกให้สะอาด แล้วสระผมด้วยแชมพู-ครีมนวดตามปกติ

ทำบ่อยแค่ไหน :


2 ครั้ง/ สัปดาห์

3. โยเกิร์ต

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuCbr0.jpg

อย่างที่รู้กันว่า ' โยเกิร์ต ' เป็นอาหารคลีน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยวิตามิน โปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย กินก็ดี พอกผิวก็เริ่ด หมักผมก็ยังได้!โดยโปรตีนในโยเกิร์ต จะเข้าไปซ่อมแซมเกล็ดผม ให้ผมกลับมานุ่มลื่น ไม่แตกปลาย และยังมีกรดแลกติก ที่ทำให้เส้นผผมชุ่มชื้น มีวิตามินบี 12 ลดรังแค ป้องกันผมหงอกก่อนวัยด้วยน้าสิ่งที่ต้องใช้> โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ> กล้วยสุก 1/2 ลูก> น้ำผึ้ง 3 ช้อนชา> น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ1. บดกล้วยให้ละเอียดเป็นเนื้อครีม  เติมน้ำผึ้ง น้ำมะนาวและโยเกิร์ตลงไป คนให้เข้ากันจนได้เนื้อเนียนละเอียด2. นำมาชโลมบนเส้นผม ใช้หมวกคลุมผมหมักทิ้งไว้ 30 นาที3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และสระผมด้วยแชมพูตามปกติทำบ่อยแค่ไหน :1-2 ครั้ง/ สัปดาห์

4. ไข่

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuC2be.jpg

' ไข่ ' คืออาหารคลีนราคาถูก สารพัดประโยชน์ที่กินได้ กินดีทุกเพศทุกวัย แต่รู้ไหมว่า มันยังเอามาหมักผมได้ด้วย!เพราะไข่เป็นแหล่งของโปรตีนที่มีประโยชน์ บำรุงเส้นผมให้สวยนุ่ม เงางาม เป็นประกาย ใครมีผมสากๆ แห้งๆ แค่ลองใช้มาส์กผมสูตรนี้ เส้นผมจะแข็งแรงและนุ่มลื่น จัดทรงง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว อะไม่เชื่อ งั้นไปลอง!สิ่งที่ต้องใช้> ไข่ 1 ฟอง ( ใช้ทั้งไข่แดงและไข่ขาว )> น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ> น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ> หมวกคลุมผม / หมวกอาบน้ำ

วิธีทำ1. ใช้ที่ตีไข่ ผสมทุกอย่างให้เข้ากันในชาม2. นำไปชโลมบนหนังศีรษะและเส้นผมให้ทั่ว ใส่หมวกอาบน้ำ หมักทิ้งไว้ 30 นาที กันส่วนผสมหยดเลอะเทอะ3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และสระผมด้วยแชมพู-ครีมนวดตามปกติ

ทำบ่อยแค่ไหน :1-2 ครั้ง/ สัปดาห์

5. มายองเนส

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/Zuu1ve.jpg

' มายองเนส ' วัตถุดิบนี้ทำสลัดก็ได้ เป็นน้ำจิ้มก็ดี และยังมีประโยชน์กับเส้นผมสุดๆ แค่ผสมน้ำผึ้งกับนม แล้วนำไปหมักผม ก็มีเส้นผมเงางามนุ่มลื่นเหมือนเส้นไหมได้ง่ายๆ แถมหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง วัยเรียนทำได้ไม่ต้องคิดเยอะ


แต่แอบกระซิบว่า ขอเป็นรสธรรมชาติเท่านั้น ไม่เอารสที่ใส่เครื่องปรุงมาแล้วนะคะ เพราะรสพวกนั้นอาจทำลายเส้นผมของเธอแทน

สิ่งที่ต้องใช้

> มายองเนสรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง ( สำหรับผมประบ่า สามารถเพิ่มได้ตามความยาวของเส้นผม )

> น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

> นม 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ผสมมายองเนส น้ำผึ้งและนมเข้าด้วยกันในชาม จนเป็นครีมนุ่มๆ

2. เทน้ำอุ่นใส่ผมให้เปียกหมาดๆ แล้วชโลมมายองเนสให้ทั่วศีรษะ ให้เคลือบเส้นผมทุกเส้น โดยเว้นช่วงหนังศีรษะไว้ ไม่ให้หัวมันเกินไป

3. ใส่หมวกคลุมผม หมักทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วสระผมด้วยแชมพูและครีมนวดตามปกติ

ทำบ่อยแค่ไหน  :


1-2 ครั้ง/ สัปดาห์

6. น้ำหัวหอม

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuuR7E.jpg

อาจจะดูเกินจริง แต่ ' น้ำหัวหอม ' ที่คั้นจากหัวหอมสดๆ เนี่ย ชอบป้องกันผมร่วง เร่งผมยาว และทำให้คนผมบาง ผมขึ้นเยอะขึ้นได้นะเออ!เพราะหัวหอมมีซัลเฟอร์ในปริมาณสูง จึงช่วยเร่งการไหลเวียนของเลือดบนหนังศีรษะ ให้ได้รับสารอาหารมากขึ้น และยังเป็นแหล่งของสารอาหารจำพวกไบโอติน แมงกานีส ฟลาโวนอยด์ วิตามินซี ทองแดง และกรดโฟลิก จึงทำให้เส้นผมสุขภาพดี เปล่งประกายจนราพันเซลยังต้องอาย!สิ่งที่ต้องใช้> หัวหอมขนาดใหญ่ นำไปคั้นเป็นน้ำ> น้ำมันลาเวนเดอร์ 3-4 หยด

วิธีทำ> ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ชโลมให้ทั่วหนังศีรษะ แล้วใช้ปลายนิ้วคลึงๆ นวดเบาๆ ให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยแชมพู-ครีมนวดได้เลยทำบ่อยแค่ไหน :2 ครั้ง/ สัปดาห์

7. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ( Apple Cider Vinegar )

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuuOGg.jpg

นอกจาก ' น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล ' จะนิยมกินกันแพร่หลายในหมู่สาวๆ ที่ลดน้ำหนัก แคลอรี่ต่ำ เป็นส่วนผสมทำสลัดที่เริ่ดสุดๆ แล้ว มันยังมีประโยชน์กับเส้นผมแม้จะไม่ได้ช่วยให้นุ่มมากมาย แต่มันจะกำจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน สิ่งตกค้างต่างๆ จากหนังศีรษะ ให้หลุดออกมาอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้สารเคมีแรงๆ และทำให้ผมเงางามขึ้นค่ะสิ่งที่ต้องใช้> น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล 1 ช้อนโต๊ะ> น้ำเปล่า 1 ถ้วย

วิธีทำ1. เจือจางน้ำส้มสายชู ด้วยน้ำเปล่า 1 ถ้วยซะก่อน ( อย่าใช้น้ำส้มเพียวๆ เพราะกรดแรงมาก เดี๋ยวกัดหนังศีรษะเป็นแผลได้ ) แล้วเทใส่เหยือก หรือขวดเตรียมไว้2. สระผมด้วยแชมพู-ครีมนวดให้เรียบร้อย แล้วชโลมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลลงไปให้ทั่ว โดยไม่ต้องล้างออกทำบ่อยแค่ไหน :1 ครั้ง/ สัปดาห์

**** ทริคอื่นๆ เพื่อเส้นผม 'นุ่มสลวย ดั่งเส้นแพรไหม' ****

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuuoH1.jpg

1. กินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ อยู่เสมอเส้นผมจะสวย เงางามได้ หลักๆ เลยก็มาจากอาหารที่เรากินนี่แหละค่ะ! ถ้าอดอาหาร กินแต่ของหวาน ของทอด ผมจะแห้งกร้านก็ไม่แปลก ดังนั้นควรกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นไขมันดี โปรตีน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เพื่อให้สารอาหารนั้นไปบำรุง ซ่อมแซมเส้นผม และดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ผิว ( รวมถึงผิวหนังศีรษะ ) ชุ่มชื้นอยู่เสมอ2. เลือกแชมพูสูตรอ่อนโยน ไม่ทำร้ายเส้นผมแชมพูก็มีส่วนสำคัญ ว่าผมจะสวยหรือพัง! แนะนำให้ใช้แชมพูสูตรธรรมชาติ จำพวกไมเซลลาร์วอเตอร์ หรือจะเป็นสูตรสมุนไพรก็ได้ หลักๆ คือต้องไม่ใส่สารเคมีลดแรงตึงผิว ( SLS ) หรือซัลเฟต ที่จะทำให้สุขภาพผมแย่ลง ผมร่วงมากขึ้น เพราะสารเหล่านี้จะกำจัดน้ำมันบนศีรษะตามธรรมชาติของเราออกจนหมด ทำให้หนังศีรษะแห้งจนระคายเคืองได้ และอย่าลืมใช้ครีมนวดที่ไม่ใส่ซิลิโคนด้วย เพราะมันจะช่วยทำให้ผมมีประกาย เงางาม มีวอลลุ่ม ไม่แพ้นางแบบโฆษณาแชมพูเลยล่ะ3. นวดเส้นผมและหนังศีรษะด้วย ' น้ำมัน ' อยู่เสมอสาวๆ ควรนวดหนังศีรษะด้วยออยล์บ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง นอกจากช่วยกระตุ้นเลือดให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น เส้นผมสุขภาพดีขึ้นแล้ว การนวดแบบนี้ยังช่วยผ่อนคลายความเครียด เป็นการบำบัดตัวเองหลังจากเจองานหนัก เรียนหนักมาทั้งวันด้วยนะ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuunGa.jpg

4. ลงทุนกับ ' หวีไม้ซี่ห่าง ' และแปรงขนสัตว์ดีๆ สักอันถ้าอยากผมสวยจริงจัง เราแนะนำให้มีหวีไม้ซี่ห่าง กับแปรงขนสัตว์ดีๆ อย่างละอัน เพราะหวีไม้จะช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตบนเส้นผม ทำให้ผมไม่แตกปลาย หวีง่าย ส่วนแปรงขนสัตว์จะช่วยกระตุ้นให้หนังศีรษะ ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมามากขึ้น ทำให้หนังศีรษะได้รับการปกป้องอย่างดี แต่อย่าหวีตอนผมเปียก เพราะช่วงนั้นผมจะอ่อนแอมาก ให้หวีตอนผมแห้งสนิทแล้วจะดีกว่าค่า5. ห้ามขี้เกียจใส่ทรีทเมนต์บำรุงผม!สาวๆ หลายคนไม่ชอบใช้ครีมนวด บางคนไม่มีครีมนวดติดบ้านด้วยซ้ำ อ้างว่ายุ่งยาก ขี้เกียจ แต่ถ้าอยากผมเงาสลวย ยังไงก็ขาดไม่ได้ค่ะซิส! ทรีทเมนต์เหล่านี้จะช่วยให้ผมสุขภาพดี อย่างน้อยก็ควรใช้ 1 ครั้ง/ สัปดาห์หลังสระผมด้วยแชมพูเสร็จ ถ้าไม่อยากซื้อ จะทำมาส์กผมแบบ D.I.Y อย่างมายองเนส หรือโยเกิร์ตก็ได้ และถ้าผมแห้งมาก แนะนำให้ใช้ครีมนวดแบบไม่ต้องล้างออกนะคะ6. ล้างผมด้วย ' น้ำเย็น ' เสมอ

น้ำเย็นจะช่วยปิดเกล็ดผม ทำให้เส้นผมไม่แห้ง ไม่แตกปลาย ทำให้ผมนุ่มสลวยเงางาม กักเก็บความชุ่มชื้นจากเส้นผม ให้ผมยังน่าสัมผัส มีวอลลุ่มค่ะ7. เล็มปลายผมเป็นประจำเล็มปลายผมทุกๆ 6-8 สัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยกำจัดผมแตกปลาย ป้องกันเส้นผมไม่ให้เสียหาย ( ไปมากกว่านี้ ) หรือถ้าผมสุขภาพดีอยู่แล้ว ก็จะไม่ทำให้มีผมแตกปลายเลยล่ะค่ะ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/03/ZuuvCu.jpg

8. งด / เลี่ยงการใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์แบบไหน ก็เสี่ยงต่อสุขภาพเส้นผมเหมือนกัน โดยเฉพาะเครื่องหนีบ ไดร์ หรือเครื่องม้วนผมที่ต้องใช้ความร้อน ทำให้เกล็ดผมเปิด ผมจะแห้งเสีย แตกปลายได้ง่าย ยิ่งถ้าใช้ทุกวัน ผมพังชัวร์! แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้บ่อยจริงๆ ก็เลือกระดับความร้อนต่ำที่สุด และทาออยล์ / สเปรย์น้ำยาบำรุงผมก่อนใช้ทุกครั้งนะคะ

9. ไม่สระผมบ่อยเกินไป!

บางคนติดสะอาดมาก สระผมทุกวันไปเลยจ้า! หารู้ไม่ว่ายิ่งทำให้ผมแห้งเสีย กรอบ ไร้ชีวิตชีวา ความถี่ที่เหมาะสม คือ 2-3 ครั้ง/ สัปดาห์เท่านั้น

10. อย่าใช้ไดร์เป่า ปล่อยให้ผมแห้งเองจะดีกว่าบางคนนอนห้องแอร์ ติดนิสัยต้องใช้ไดร์เป่าผมหลังสระ แต่ที่จริงมันไม่ดีกับเส้นผมอย่างแรง! ลองปรับพฤติกรรมใหม่ แทนที่จะใช้ไดร์เป่าจ่อตลอดเวลา ลองอยู่ห้องลมธรรมชาติ บีบมวยผมให้เปียกหมาดๆ แล้วปล่อยให้ผมแห้งเอง ผมจะแข็งแรงกว่า อย่าใช้ผ้าเช็ดผมแรงเกินไป ผมจะขาด เปราะบางได้ค่ะ

----------------

อยากมีผมเงาวาวสวย เหมือนนางแบบแชมพู ครีมนวดในทีวี ในยูทูป ไม่ต้องเข้าซาลอนไปอบไอน้ำให้เปลืองตังค์เลย! แค่ทำตามวิธีในบทความนี้ ขยันทำมาส์กผมจากของใกล้ตัว แค่มีวินัยกับมันหน่อย ทำเรื่อยๆ ทำต่อเนื่อง เส้นผมที่แห้งเสีย ก็จะเหมือนถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ ทั้งยาวไวขึ้น นุ่มลื่นขึ้น จับแล้วอยากจับอีกบ่อยๆ ได้แน่นอน ><วันนี้ก็ขอไปหมักผมบ้างละค่ะ ไม้กวาดกำลังเรียกพี่แล้ว ;___;

ถ้าชอบก็กด follow กดหัวใจเป็นกำลังใจให้กันด้วยเด้อ เจอกันใหม่ค่าา

----------------