ไฮค่าาาา สาวๆSistaCafeทั้งหลาย (♡°▽°♡)คลิกมาดูบทความนี้ แปลว่าปวดท้องทรมานรวดร้าวจากของเผ็ดกันอยู่ล่ะสิ??แต่ก็เข้าใจได้แหละ อาหารไทยเราของแซ่บๆ เผ็ดๆ มันอร่อยจริงจัง ส้มตำปูปลาร้า ลาบ แจ่ว ยำ ปูดองตั่งต่าง ไหนจะของมันของทอด เฟรนช์ฟรายส์เอย ไก่ทอดเอย ไปต่อคิวร้านคือคิวยาวตลอดปีตลอดชาติแต่บางทีก็กินเยอะไปหน่อย นานไปโรคเริ่มมาเยือนจ้า ทั้งกรดไหลย้อน โรคกระเพาะ ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน ที่สำคัญคืออ้วนขึ้น!!! แงงงง แบบนี้ไม่ดีละ จะทำยังไงดี๊ ต้องไดเอทด่วนล้าวที่เรากำลังจะนำเสนอสาวซิสค่ะเราขอรับรองว่า ถ้าทำสูตรนี้สักพัก กระเพาะที่แสบร้อนจะหายปวดวับ! เหมือนมีเวทมนตร์เลยทีเดียว

รูปภาพ:https://media1.giphy.com/media/mhneIrSJiojNm/giphy.gif

ไดเอทสูตรนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องกินแต่ของจืดๆ ไม่มีรสชาติเหมือนเคี้ยวกระดาษเอสี่เด้อ! แต่ตอนนี้กระเพาะเธอกำลังอ่อนแอ กินของแรงๆ ไม่ได้

เราเลยขอแนะนำอาหารที่ ' อ่อนโยน ' กับอวัยวะภายใน เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เลี่ยงอาหารปรุงรสจัดทุกชนิด ไม่ระคายเคือง คือมันก็คล้ายๆ เซ็ตอาหารในโรงพยาบาลเวลาเราป่วยแหละ แต่ไม่ได้กินจืดสนิทขนาดนั้น ยังพอมีรสชาติได้นิดหน่อยค่ะ

สูตรนี้ยังเหมาะกับคนที่ไม่ชอบรสจัด รสเผ็ด หรือเป็นสิวเพราะกินเผ็ด เพราะไดเอทสไตล์นี้จะช่วยเปลี่ยนจากหน้าสิว เป็นหน้าใสได้ง่ายๆ

เพราะทุกสิ่งล้วนเริ่มจากต้นทาง คืออาหาร! อย่างที่ฝรั่งบอกว่า ' you are what you eat ' นั่นเอง ( แอบกระซิบว่า หลายคนที่เข้าสู่วิถีรสจืดแล้ว ติดใจ ไม่กลับไปกินรสจัดอีกเลยก็มีน้า )

จำง่ายๆ ว่า เผ็ดไม่ได้แปลว่าอร่อย รสอ่อนไม่ได้แปลว่าเคี้ยวกระดาษ เอาแค่นี้ก่อน! แล้วเตรียมกระดาษ ปากกา ไปจดไกด์ไลน์และแนวทางอาหารที่ควรกิน / ควรเลี่ยงกัน พร้อมแล้วก็ Let's Go!!!

**แถมๆ 5 ท่าโยคะด้านล่าง แก้โรคกระเพาะอ่อนๆ แบบไม่ต้องไปหาหมอด้วยนะจ๊ะ อ่านให้จบล่ะ อิอิ***

ไกด์ไลน์ : จะไดเอทสูตรนี้ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvKr6f.jpg

ก่อนอื่นขอให้ทำความเข้าใจไว้เลยว่า : เธอต้องเลี่ยงอาหาร ' ทุกชนิด ' ที่ทำให้กระเพาะระคายเคือง เพราะตอนนี้กระเพาะก็เหมือนอวัยวะที่เป็นแผลอยู่แล้ว เธอคงไม่อยากกินของเผ็ดๆ ให้มันไปกัดแผลซ้ำจนเหวอะหวะใช่ไหมล่ะ??


ในไกด์ไลน์นี้ จะบอกข้อปฏิบัติที่ใช้ได้ทั้งอาหารที่กินที่บ้าน และอาหารที่กินร้านข้างนอกเลยค่ะ ดังนี้!

1. กินอาหารประเภทปรุงสุก, ต้ม, ปิ้ง, ไมโครเวฟ, อบ, สตู, ย่าง หรืออาหารประเภทครีมเท่านั้น ห้าม! กินของทอด ของฟอกขาวและของดิบ

2. เลี่ยงการใส่เกลือ หรือใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ มากเกินไป3. ห้ามกินเปลือกผลไม้ และเปลือกถั่ว

4. น้ำผักผลไม้แยกกาก ( เอาแค่น้ำ ) กรองด้วยกระชอน

5. เลี่ยงกินผลไม้รสเปรี้ยว หรือผลไม้ที่กินแล้วปวดท้อง ทำให้กระเพาะระคายเคืองทุกชนิด6. เลี่ยงกินขนมปังโฮลเกรน มัลติเกรน และโฮลวีต ให้กินแป้งขาว ข้าวขาว พาสต้า ขนมปังขาว เพื่อไม่ให้กระเพาะทำงานหนักจนเกินไป7. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เด็ดขาด8. ห้ามดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีเนื้อผสม และเครื่องดื่มมีคาเฟอีนทุกชนิด

9. ถ้าจะกินอาหารประเภทนม ให้กินแบบไขมันต่ำ ( low-fat ) เท่านั้น

10. กินโปรตีนแบบไม่มีไขมัน ( เช่น อกไก่ลอกหนัง, ปลาต้ม เป็นต้น )11. เลี่ยงการใช้ยาประเภทสเตียรอยด์, ยาแก้อักเสบและแอสไพริน12. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนทุกครั้ง

13. จะซอยย่อยมื้ออาหาร เป็น 3-4 มื้อ/ วันก็ได้ แต่ระวังอย่ากินขนมกินเล่น แคลอรี่จะเกิน ให้กินแค่มื้อหลักๆ ให้เพียงพอกับพลังงานต่อวันก็พอค่ะ

♡ อาหารที่ควรกิน / อาหารที่ควรเลี่ยง ♡

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvKUEN.jpg

ผัก/ผลไม้

หน่วยบริโภคต่อวัน :

2-3

อาหารที่ควรกิน :

มันเทศ, ฟักทอง, แครอท, บีทรูท, มันฝรั่ง, น้ำผักคั้นสด, อะโวคาโด, กล้วย, น้ำผลไม้แยกกาก, ส้มและเกรปฟรุต ( ไม่เอาเนื้อและเมล็ด ), แอปเปิ้ลไม่เอาเปลือก

อาหารที่ควรเลี่ยง :

ผักทอด, ผักใส่เครื่องปรุงรสจัด, มันฝรั่งทอด, บร็อคโคลี่, ผักโขม, มะเขือเทศ, ลูกเบอร์รี่ และผลฟิก ( มะเดื่อฝรั่ง )

โปรตีนและถั่ว

หน่วยบริโภคต่อวัน :2-3

อาหารที่ควรกิน :ถั่วเหลือง, เต้าหู้, นมถั่วเหลือง, โยเกิร์ตถั่วเหลือง, ปลาค้อด, ปลาเทราท์, ปลาเฮอร์ริ่ง, อกไก่ลอกหนัง, เนื้อแกะ, เนื้อหมู, เนยถั่ว, ถั่วป่น, เนื้อที่ปรุงสุกแบบ well-done จนเนื้อนุ่ม

อาหารที่ควรเลี่ยง :เนื้อที่มีไขมันสูง ปรุงรสจัด, ไก่ทอด, ปลาทอด, สัตว์ปีกทอดทุกชนิด, ไข่ดิบ, ถั่วแห้ง, ไส้กรอก, แฮม, เนยถั่วเป็นก้อนนๆ, ถั่วเคลือบ ( เช่น เคลือบช็อกโกแลต เคลือบน้ำตาล ), เมล็ดฟักทอง, เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดแฟล็กซ์ ( flaxseed )

คาร์โบไฮเดรตหน่วยบริโภคต่อวัน :6-10อาหารที่ควรกิน :ขนมปังขาว, พาสต้า, ข้าวขาว, แป้งข้าวเจ้า, สปาเก็ตตี้, บิสกิต, แป้งข้าวโพดอาหารที่ควรเลี่ยง :โฮลวีต, ขนมปังมัลติเกรน, บิสกิตปรุงรส, บิสกิตมัลติเกรน, คุกกี้โฮลวีต, คุกกี้หน้าผลไม้แห้ง, ป๊อบคอร์น และข้าวกล้อง

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvKgwl.jpg

ไขมัน / น้ำมัน

หน่วยบริโภคต่อวัน :ตามปริมาณที่เหมาะสม

อาหารที่ควรกิน :เนย, มาการีน, น้ำมันมะกอก, ครีมชีส, ซาวร์ครีม, ไวท์ซอส, ครีมซอส

อาหารที่ควรเลี่ยง :ไขมันจากสัตว์, น้ำสลัดที่ปรุงรสจัดและแคลอรี่สูง, น้ำมันมะพร้าวอาหารประเภทนมหน่วยบริโภคต่อวัน :2-3อาหารที่ควรกิน :บัตเตอร์มิลค์, นมไขมันต่ำ, โยเกิร์ตไขมันต่ำ, นมข้นหวาน, นมผงไขมันต่ำ, ชีสรสอ่อน, คอตเตจชีส, ริคอตต้าชีสไขมันต่ำอาหารที่ควรเลี่ยง :นมสด full-fat, โยเกิร์ต full-fat, ชีสรสเข้มข้นเครื่องเทศ / สมุนไพรหน่วยบริโภคต่อวัน :ตามปริมาณที่เหมาะสมอาหารที่ควรกิน :เกลือ, น้ำมันมะกอก และเครื่องเทศรสอ่อนๆอาหารที่ควรเลี่ยง :พริกไทยดำ, พริกคาเยนน์, พริกป่น, ซอสพริก, เครื่องเทศรวม, กานพลู, กระเทียม, ขิง, ซอสบาร์บีคิว, ซอสพริกรสหวาน, ซอสรสมะนาวเข้มข้น, เมล็ดมัสตาร์ดและผักดอง

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvKDD2.jpg

ขนมหวาน / ของหวานต่างๆ

หน่วยบริโภคต่อวัน :ตามปริมาณที่เหมาะสม

อาหารที่ควรกิน :น้ำผึ้ง, ไอติม, แยมไม่ใส่เมล็ด, น้ำเชื่อมไซรัป, ช็อกโกแลต, มาร์ชแมลโลว์, คัสตาร์ด, แป้งเค้ก, พุดดิ้ง, เชอร์เบ็ต, ลูกกวาดเนื้อแข็ง, เยลลี่ และเจลาติน

อาหารที่ควรเลี่ยง :แยมส้มมาร์มาเลด, โดนัท, ไอติมทอด, ช็อกโกแลตใส่ถั่ว, ไอติมใส่ถั่ว, ขนมหวานใส่ผลไม้, ขนมหวานใดๆ ที่มีส่วนผสมเป็นนม full-fatเครื่องดื่มหน่วยบริโภคต่อวัน :ตามปริมาณที่เหมาะสมเครื่องดื่มที่ควรดื่ม :น้ำเปล่า, น้ำมะพร้าว, น้ำผักผลไม้คั้นสดแยกกากเครื่องดื่มที่ควรเลี่ยง :กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง, ชา, แอลกอฮอล์, น้ำผลไม้สดแยกกาก และน้ำมะนาว

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvgXAg.jpg

จากตารางอาหารที่ควรกิน / อาหารที่ควรเลี่ยงแล้ว เธอก็น่าจะพอทำตารางอาหารได้คร่าวๆ แล้วใช่ไหมคะซิส? ( ´ ∀ `)ノ~ ♡ที่เราบอกจะเป็นวัตถุดิบหลักๆ เธอจะนำไปดัดแปลง ต่อยอดเป็นเมนูต่างๆ ก็ตามอัธยาศัย แค่อย่าให้มีส่วนผสมต้องห้ามก็พอเด้อถ้าใครยังไม่รู้จะกินอะไรดี เรามีเมนูพรีเมี่ยมสำหรับสูตรไดเอทนี้มาฝากกรุบๆ นั่นก็คือออออ !!!

-- ตัวอย่างเมนูไดเอทสไตล์ 'อาหารรสอ่อน' --

สปาเก็ตตี้ลูกชิ้นเต้าหู้ ( Tofu Balls )

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvU8oP.jpg

ส่วนผสมสปาเก็ตตี้ 85 กรัมน้ำในหม้อขนาดใหญ่

เต้าหู้บด 85 กรัมแป้ง 1 ช้อนชาเนย 1 ช้อนชาไข่ 1 ฟอง

นม 1 ช้อนชาสมุนไพรรวม 1/2 ช้อนชาสเปรย์ทำอาหาร ( cooking spray )

เกลือ 3-4 ช้อนชาเชดดาร์ชีสขูด 2 ช้อนโต๊ะ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvUHJt.jpg

วิธีทำ

1. อุ่นเตาอบอุณหภูมิประมาณ 180 องศาเซลเซียส2. ผสมแป้ง เกลือและสมุนไพรเล็กน้อย กับเต้าหู้บด กวนให้เข้ากัน ปั้นเป็นลูกกลมๆ เหมือนลูกชิ้นก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา3. ใช้สเปรย์ทำอาหาร ฉีดถาดเตาอบให้ไม่ส่วนผสมไม่ติดถาด4. วางลูกชิ้นเต้าหู้บนถาด แล้วฉีดสเปรย์ทับอีกรอบ5. อบ 10-15 นาที ที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส

6. ต้มน้ำในหม้อใหญ่ ใส่เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำมันมะกอกลงไป7. ตามด้วยเส้นสเปาเก็ตตี้ รอ 10 นาทีจนสุก

8. ใช้กระชอนกรองเส้นให้สะเด็ดน้ำ เทเส้นลงไปในชามผสม9. เตรียมซอสด้วยการผสมไข่ นม เนย และสมุนไพรเข้าด้วยกัน10. ผัดในกระทะ ตั้งไฟแรง ผัด 1 นาที ผัดต่อ เทซอสใส่เส้นสปาเก็ตตี้ คนให้เข้ากัน ใส่ลูกชิ้นเต้าหู้ลงไป ท็อปปิ้งด้วยชีสขูด เป็นอันเสร็จ!ดูเหมือนส่วนผสมเยอะ ขั้นตอนแยะ แต่ไม่ได้ทำยากอย่างที่คิดน้า จะทำไว้ปริมาณเยอะๆ ใส่ตู้เย็นไว้ แบ่งเอาออกมากินก็ได้ ^__^ เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์เป็นเต้าหู้แทน เบากระเพาะกว่า เฮลตี้กว่าแน่นอน แต่แค่นี้ยังไม่หมด! เรายังมีโยคะ 5 ท่า ช่วยรักษาโรคกระเพาะมาฝากด้วยน้า ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน มีท่าอะไรบ้างมาดูกันเลย =w=

5 ท่าโยคะ ช่วยรักษา 'โรคกระเพาะ'

1. ท่าลมปราณ ( อปนาสนะ )

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/Zvc0cf.jpg

1. นอนราบลงกับพื้น หลังเหยียดตรง งอเข่าขึ้นมาที่บริเวณอก2. ใช้แขนสองข้างกอดเข่าเอาไว้ให้ชิดหน้าท้อง3. เกร็งท้อง ผงกหัวขึ้นให้คางจรดเข่า หมุนไปทางซ้ายและขวาเพื่อช่วยยืดหลัง หน้าขา และนวดบริเวณช่วงท้อง กระตุ้นอวัยวะภายใน ช่วยย่อยระบบอาหารและขับลม4. หมุนซ้ายและขวา ข้างละ 1-2 นาที แล้วปล่อยมือออก กลับสู่ท่านอนเหยียดตรง5. ทำซ้ำ 5 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต

2. ท่ายืดกระดูกสันหลัง ( ปัศจิโมตานาสนะ )

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvcqgS.jpg

1. นั่งราบลงกับพื้น ขาเหยียดตรงไปด้านหน้าของเธอ

2. ค่อยๆ โน้มช่วงตัวส่วนบน เอื้อมนิ้วมือไปจับนิ้วเท้า

3. เมื่อจับได้แล้ว ปล่อยมือ แล้ววางมือบนพื้นข้างเท้า

4. ค้างท่านั้นไว้ 1-2 นาที

5. ทำซ้ำ 3 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต

**ใครไม่เคยเล่นโยคะมาก่อน อาจยังตัวแข็ง เอื้อมไปจับนิ้วเท้าไม่ถึง ก็ไม่เป็นไร ฝึกบ่อยๆ ตัวจะอ่อนลงเองค่ะ

3. ท่าปั๊มลมหายใจ ( กะปาละบาติ )

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/Zvgd5E.jpg

1. นั่งขัดสมาธิบนพื้น วางมือบนเข่า ให้ฝ่ามือหันหน้าหาท้องฟ้า2. นั่งหลังตรง กระดูกสันหลังไม่งอ หลับตา3. หายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกอย่างหนักหน่วง ให้ช่องท้องยุบลงไปเมื่อเธอหายใจออก

4. ทำใจสบายๆ ระหว่างหายใจออก ให้คิดถึงโรคภัยทั้งหมด ในขณะที่หายใจออก ทำแบบนี้ต่อเนื่อง 5 นาที5. ในเซ็ตต่อไป ค่อยๆ เพิ่มเวลาจนได้สูงสุด 15 นาที

4. ท่ากอดเข่าขับลม

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvgBwg.jpg

1. นอนราบลงบนพื้น หลังเหยียดตรง ผ่อนคลายร่างกาย2. หายใจเข้า งอเข่าสองข้างขึ้น ชันขึ้นมาให้หน้าผากจรดเข่า3. ใช้แขนสองข้างกอดขาเอาไว้ ล็อกนิ้วมือให้การกอดแน่นขึ้น ค้างท่านี้ทิ้งไว้ 30 วินาที4. หายใจออกช้าๆ กลับสู่ท่าเดิม ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง

5. ท่านั่งเพชร ( วัชราสนะ )

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/09/ZvgZMf.jpg

1. นั่งคุกเข่าบนพื้น

2. หลับตา นั่งหลังตรง กระดูกสันหลังไม่งอ

3. วางฝ่ามือคว่ำลงบนหัวเข่า

4. หายใจเข้า-ออก ช้าๆ

5. ทำซ้ำ 5 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต

---------------------------------

สูตรไดเอทแบบ ' Bland Diet ' ก็จบแต่เพียงเท่านี้! อาจจะดูละเอียดนิดนึง แต่ทำตามไม่ยากเลย แถมยังช่วยฮีลกระเพาะพังๆ ปวดท้องหนักก็ช่วยลดความแสบกระเพาะได้ ยิ่งทำอย่างต่อเนื่อง ( และควบคุมแคลอรี่!! ) กระเพาะกับลำไส้ก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ จนหายปวด สุขภาพดีขึ้นในที่สุด


ถ้าเริ่มดีขึ้นถึงจุดที่อยากกินของเผ็ดอีกครั้ง แนะนำให้ไปหาหมอตรวจก่อน ถ้าหมออนุญาตค่อยกิน แต่อย่ากินแหลกจนปวดท้องอีกล่ะ กินนิดหน่อยพอกรุบกริบ พอรู้รสชาติก็พอ และน้ำหนักก็จะค่อยๆ ลดลงด้วย อาจไม่ลงฮวบฮาบ แต่ถ้าทำควบคู่กับการออกกำลังกาย จะรูปร่างเฟิร์ม กระชับแน่นอน

ไม่ต้องปวดท้องตัวบิดตัวงออีกต่อไป! แค่ทำตามสูตรไดเอทรสอ่อนแต่ไม่จืดจนทรมานนี้ ก็มีหุ่นที่สวยงามพร้อมสุขภาพ ( กระเพาะ ) ที่ดีได้อย่างใจ ขอให้สาวๆ หุ่นดี อร่อยกับอาหารกันทุกคนน้า วันนี้ไปละค่า ถ้าชอบก็กดฟอล กดหัวใจกันด้วยน้า >< บ๊ายบายย