กว่า 15 ปีในการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่องของแบรนด์เครื่องสำอางค์ระดับโลกอย่างLancômeที่มุ่งเน้นเรื่องการปรับรากฐานความสมดุลของผิวอย่างMicrobiomeหรือก็คือระบบนิเวศของจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและมีประโยชน์ เป็นส่วนประกอบของผิวชั้นนอก ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อสภาพผิวโดยรวม ด้วยการผสมผสานPrebiotic และ Probiotic Fractions ถึง 7 ชนิดที่โดนเด่นและมีประโยชน์ต่อผิวจนเกิดเป็นLancôme NEW! Advanced Génifiqueสูตรใหม่ ซึ่งเรามีโอกาสได้ลองใช้มาซักพักใหญ่ๆ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ว่าเราใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปชมพร้อมๆ กันเลยฮะ....
The Claim
Lancôme NEW! Advanced Génifiqueเพียง 1 หยด อุดมไปด้วยสารสกัดสูงถึง 30 ล้านไมโครไบโอม! ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยทางแบรนด์เคลมว่าหลังจากใช้ 1 ขวด :
เพิ่มความเปล่งปลั่งถึง 52%ริ้วรอยตื้นขึ้นถึง 42%รอยย่น ร่องลึกลดลงถึง 46%ความสม่ำเสมอของสีผิวเพิ่มขึ้น 42%ความเรียบเนียนของผิวเพิ่มขึ้น 43%ความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น 50%
Texture / Scent / Packaging
Texture :มีความเบาสบายผิว ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเซตตัวแล้วไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวScent :กลิ่นมีความ Luxury เรียบหรู ดูแพง แต่ไม่แรงจนเกินไปนัก ถ้าเป็นอาหารคงเรียกว่ากลมกล่อมกำลังพอดีเลยหละฮะ
Packaging :เซรั่มขวดนี้มาในขวด Dropper แบบ Automatic ที่เมื่อคุณหมุนฝาขวดก็จะดูดเนื้อเซรั่มเข้าสู่หลอด Dropper อัตโนมัติทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลาบีบ และด้วยความที่เค้าดีไซน์ที่เหมาะสมทำให้การกดที่หัวดรอปเปอร์ 1 ครั้ง จะได้ปริมาณ 1 หยดซึ่งเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง
Key Ingredients
- Bifida Ferment Lysate :
เป็นสารที่ได้จากการบ่มของแบคทีเรีย Bifido หรือ Bifida จากการทดลองพบว่า สามารถช่วยซ่อมแซม DNA ของผิวได้ โดยกระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการซ่อมแซม DNA เมื่อถูกแสง UVA ทำลาย
-
Ascorbyl Glucoside :
อนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรค่อนข้างสูง มีประสิทธิภาพทั้งในด้าน Whitening ให้ผิวกระจ่างใส และด้านลดอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
-
Faex Extract/Yeast Extract/Extrait De Levure :
คือสารสกัดจากยีสต์สายพันธ์ Saccharomyces Cerevisiae ทางแบรนด์ว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างสารกลุ่ม Glycosaminoglycans หรือ GAGs ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและอิ่มฟู
-
Salicyloyl Phytosphingosine :
หรือ Phytosphingosine SLC โดยเป็นการเอา Phytosphingosine มาเกี่ยวเข้ากับ Salicylic Acid เพื่อช่วยเสริมการทำงาน ซึ่งคุณสมบัติที่ผู้ผลิตเคลมมาคือการเสริมการทำงานของ Skin Barrier ในการกระตุ้นการสร้าง Ceramide เพื่อให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น และมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบของผิว
Result...
จากที่เราได้ลองใช้Lancôme NEW! Advanced Génifiqueมาประมาณ 1 เดือน เราแอบตกใจกับผลลัพธ์เล็กน้อย เพราะหากย้อนกลับไปในตอนแรกที่ทำลองเทสต์เนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนใบหน้าด้านซ้ายด้านเดียว ซึ่งพอผ่านไป 5 นาที รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นและผิวดูอิ่มฟูอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นอะไรที่เราประทับใจมากตั้งแต่คั้งแรกที่ได้ลองเลยหละ และเมื่อเรามาลองดูผลลัพธ์ที่ได้หลังจากลองใช้เกือบ 1 เดือนพบว่า....
หากสังเกตุบริเวณใต้ตาที่เราวงกลมเอาไว้ จะเห็นว่าก่อนใช้เรามีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ ที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งเมื่อผ่านไปราว 1 เดือน ริ้วรอยเล็กๆ ดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ผิวโดยรวมยังดูละเอียดขึ้น หากเทียบกับก่อนทดลองใช้จะเห็นว่า หลังใช้ผิวเรามีความชุ่มชื้นใต้ผิวที่ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียวหละ
จากที่เราลองใช้มา 1 เดือนLancôme NEW! Advanced Génifiqueเป็น Pre-Serum ที่เราขาดไม่ได้ไปแล้ว เรียกว่าเป็น Pre-Serum ที่เห็นผลชัดเจนมากที่สุดตั้งแต่เคยใช้มาก็ว่าได้ ทั้งในเรื่องริ้วรอยเล็กๆ ที่ดูตื้นขึ้น ผิวที่ดูอิ่มฟูและแข็งแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดรวมถึงตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเราพบว่าผิวเราแทบไม่พบอาการระคายเคืองเลย แม้ว่าสภาพอากาศจะแปรปรวนจนปกติต้องมีสิวผด หรืออาการระคายเคืองให้เห็นบ้างแล้ว อาจเพราะMicrobiomeหรือระบบนิเวศของจุลินทรีย์ใต้ผิวของเราสมดุลมากขึ้น ทำให้โครงสร้างผิวโดยรวมแข็งแรงและมีโอกาสเกิดการแพ้ระคายเคืองได้ยากขึ้นนั่นเองขอรับ
Conclusion
ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหาร และการพักผ่อนของเราด้วยเน้อ แน่นอนว่าในแต่ละคนอาจมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป เอาเป็นว่าใครที่อยากท้าพิสูจน์ลองแว๊ะไปขอเทสเตอร์ที่เคาน์เตอร์ Lancôme มาลองใช้ก่อนได้นะครับ หากใช้แล้วไม่แพ้เราแนะนำให้ไปถอยไซส์จริงโลด!!!
เอาหละวันนี้เราก็ขอจบการป้ายยาแต่เเพียงเท่านี้ บทความหน้าจะเป็นรีวิวอะไรรอติดตามบูมได้ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Fanpage, Instagram และ Youtube เน้อ สำหรับวันนี้เท่านี้ค้าบ แล้วไว้เจอกันใหม่ครับ บ๊ายบาย....