อกหัก...พักตรงนี้

“ ชีวิตแค่โดนทำร้าย…แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย ”

ท่อนฮุกของเพลงยอดฮิตอย่างเพลง...“ อกหัก ”...ของวง...Bodyslam...

ที่เปิดฟังเมื่อไหร่ก็ทำให้ทั้งเจ็บทั้งเข้าใจไปพร้อมๆ กัน


สวัสดีสาวๆชาว

SistaCafe

ที่น่ารักทุกคนค่ะ ย่างเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีกันแล้ว เผลอแป๊บๆ จะปีใหม่อีกซะแล้วสิ ลมหนาวก็เริ่มพัดพาเข้ามา อากาศเริ่มเย็นลง อากาศหนาวในตอนเช้า เที่ยงๆบ่ายๆมานี่แดดแรงเปรี้ยงปร้างมาก มืดเร็วและสว่างช้าซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของซีซันนี้...สิ่งที่บ่งบอกว่า “ เข้าสู่หน้าหนาวแล้วนะ ”ไม่ใช่อากาศหนาวหรอกนะ...แต่เป็น...กลิ่น...กลิ่นของต้นตีนเป็ดต่างหากละ...ฮ่ะ...ฮร่า...ดูแลสุขภาพกันด้วยเน้ออออ

ความรักกับความเจ็บ แน่นอนว่าเป็นของคู่กัน...เชื่อว่าสาวๆหลายๆ คนที่เคยมีความรัก ต้องเคยเผชิญกับความรู้สึกเช่นนี้และช่ว่าทุกคู่จะมีตอนจบแบบสวยๆ เหมือนในซีรีส์ที่สุดแสนจะโรแมนติก...เมื่อความรักเดินมาถึงทางตัน นั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ต้องจบลง...ปัญหาของความสัมพันธ์ที่จบลงนั้น อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และสิ่งที่เราตัดสินใจและทำกันเป็นประจำนั้น ก็คือการหาตัวคนผิด

พักก่อนนน....พิจารณาสักนิด..เรื่องนี้ใครก็ไม่อยากเป็นตัวร้าย

เขาทิ้งเราไปเพราะเราไม่ดีพอ หรือถ้าเหตุผลอย่างหล่อๆ นั้นคงจะเพราะว่าเรานั้นดีเกินไป

รูปภาพ:http://2.bp.blogspot.com/-45Ems9JnsR0/Uaioway9l-I/AAAAAAAAE_0/OosEVsKgoXk/w1200-h630-p-k-no-nu/sad-alone-cute-girl-beach-fall-in-love.jpg

แต่ไม่ว่าเขาจะเดินจากไปด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่มันเกิดขึ้นแล้ว!!.พื้นที่ความสัมพันธ์ที่ผุพังลงตรงนี้ มีความเจ็บปวดแผ่กระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า...เขาเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย...แต่ทำไม...เรายังอาลัยอาวรณ์อยู่ล่ะ?? วันนี้ไรต์จะมาอธิบายเรื่องทฤษฎีความสูญเสียและวิธีรับมือว่าจะอยู่อย่างไรกับความเจ็บปวดที่คั่งค้างอยู่ให้กับสาวๆ ที่กำลังเฮิร์ตหนักๆ ในวินเทอร์ซีซันแบบนี้ ที่นอกจากจะหนาวกายแล้ว ใจก็ยังหนาวและรวดร้าวไม่แพ้กัน...ไรต์อยากให้เพื่อนๆ ที่กำลังเผชิญกับความเจ็บปวดนี้ อยู่โอบกอดมันด้วยความเข้าใจ

นักจิตวิทยาชาวสวิสเซอร์แลนด์Elizabeth Kubler-Rossได้เรียบเรียงขั้นตอนดังกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 1969 โดยทั้ง 5 ปฏิกิริยาอาจเกิดได้แบบไม่มีลำดับขั้น...ระยะไหนเกิดก่อนก็ได้ และไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นครบทุกขั้นตอน แต่ต้องลงท้ายด้วย...Acceptance...ความเข้าใจเสมอ...การอกหักนั้นอาจทำให้เรารู้สึกสูญเสีย มันอาจนำพาซึ่งความโศกเศร้า...แต่มันจะจบลงด้วยความเข้าใจ

5 ระยะของการปรับตัวเมื่อเกิดความสูญเสีย [The 5 Stages of Grieving]

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/26/DenialHandscrossed.jpg

Denial ( shock )

สภาวะช็อคหรือปฎิเสธความจริงที่เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตรงหน้าไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นปกติวิสัย จึงทำให้เรานั้นไม่สามารถแบกรับไว้ได้...แบกรับไม่ไหว...ปฏิเสธการแบกรับ...ในช่วงนี้หากเจออะไรกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกหรือเห็นภาพบาดตาบาดใจ...เราจะหาเหตุผลต่างๆ มาคอยสนับสนุนในสิ่งที่เจอว่าเหล่านั้นล้วนไม่ใช่ความจริง

ยกตัวอย่างเช่น มีเพื่อนเอารูปเขาคนนั้นกำลังไปเดทกับผู้หญิงอีกคนให้เราดู...หรือเราไปเจอกับตาจังๆ ว่าเขาไปกับผู้หญิงคนอื่น....เราอาจปฏิเสธมันออกไป โดยการคิดว่าอาจจะแค่เพื่อนหรือน้องสาว เป็นต้น

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/26/Ofke-2.jpg

Anger

ในระยะนี้...เป็นช่วงแห่งการทวงถามความยุติธรรมจากสิ่งรอบตัวจะเริ่มโทษคนอื่น...โทษสถานการณ์ต่างๆ...ฟ้า...ดิน...สวรรค์...หรือแม้กระทั่งพระเจ้า...โทษทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว...และท้ายที่สุดก็จะเริ่มกลับมาโทษตัวเอง...ถือว่าเป็นภาวะที่อันตรายเหมือนกัน...ความคิดโทษนั่นโทษนี่จะวิ่งพล่านในหัวของคุณ..." ทำไมฟ้าไม่ยุติธรรมกับเราบ้างเลยทำดีขนาดนี้เขายังทิ้งไป "...จะเกิดอาการฟูมฟายเป็นบ้าเป็นหลัง

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/26/14317377_1083677468348845_8575163315695773349_n.jpg

Bargaining

ยอมจำนนและลดคุณค่าตัวเอง...ระยะนี้เราจะเถียงกับสียงในหัวของตัวเอง...เกิดการต่อรองกับตัวเองขึ้น และเริ่มนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาแล้วเจาะจงพุ่งโทษมาที่ตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก...ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เราอยากกลับไปแก้ไขอะไรสักอย่าง

เช่น..ถ้าในวันนั้นเราทำอย่างงั้นวันนี้คงไม่เป็นอย่างนี้หรือถ้าเราไม่เอาแต่ใจขนาดนั้นเขาคงไม่เลิกกับเราอย่างวันนี้...และทุกอย่างก็จะวนอยู่เช่นนี้...หากไม่สามารถพาตัวเองออกมาจากชุดความคิดเหล่านี้ได้ก็อาจนำไปสู่สภาวะซึมเศร้าในที่สุด

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/26/alone-broke-heart-girl-Favim.com-4310468.jpg

Depression

บรรยากาศมาคุของจริงเกิดขึ้นความเศร้าเข้าครอบงำไปทั่วทั้งบริเวณอันเนื่องมาจากเรานั้นได้ค้นพบความจริงไปแล้ว แต่ไม่สามารถกลับไปแก้ได้ สิ่งที่ตามมาหลังจากความรู้สึกสูญเสียและผิดหวังนั้นก็คือความเศร้าในระยะนี้ เราอาจจะไม่อยากทำอะไร เริ่มปลีกตัวจากสังคม จมอยู่กับทุกข์ความเศร้าแทรกซึมอยู่ในทุกอณูของความคิด

แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงช่วงระยะว่าเวลาและกระบวนการหนึ่งในกลไกการเยียวยาเท่านั้น...ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ตกอยู่ในอาการซึมเศร้าจะต้องเป็นโรคซึมเศร้าแต่หากเราเริ่มรู้ว่าตัวเองหรือสังเกตเห็นว่าคนใกล้ตัวจมอยู่กับความเศร้าจากความสูญเสีย เป็นระยะเวลาที่นานเกินไปและล่วงเลยไปหลายเดือน แล้วยังไม่สามารถนำตัวเองออกมาจากความเศร้านั้นได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนก อาจจะต้องขอคำแนะนักนักจิตบำบดหรือจิตแพทย์ เพื่อให้คุณหมอช่วงดึงเราออกมาจากสภาวะความเศร้านี้

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/27/19f670b2b2caef99c226696cd10bcd5f.png

Acceptance

ยอมรับความจริง...ในช่วงนี้คือช่วงที่ปราศจากความโกรธ...หยุดต่อต้าน...และเลิกถามหาความยุติธรรมให้กับตนเอง เป็นเหมือนการถอดบทเรียน...เราสามารถเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาแล้วว่า แท้จริงเหตุของความสัมพันธ์ที่จบลงนั้นเพราะอะไร...มันไม่ใช่ความรู้สึกโอเคหรือหายเจ็บหรอกนะ..ก็ยังเจ็บอยู่ แต่เป็นสภาวะพร้อมเผชิญความจริงและเข้าใจ...เราสามารถอยู่กับความเจ็บนั้นได้

การสูญเสียสิ่งหนึ่งไป...แท้จริงแล้วคือการเปิดโอกาสให้สิ่งใหม่ได้เข้ามา


กว่าจะเดินทางมาสู่ขั้นสุดท้ายของกระบวนการเยียวยาจิตใจตามธรรมชาติ ก็ใช้พลังงานไปไม่น้อย คนข้างกายไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัวอาจให้คำปรึกษาได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องและตลอดเวลา ความเศร้าของเราอาจทำให้พวกเขาหงุดหงิด และไรต์เชื่อว่าสาวๆไม่น้อยที่นอกจากจะเจ็บจากการโดนทิ้งหรืออกหักแล้ว ยังต้องมาเจ็บกับคำพูดคนข้างกายที่เขาคอยให้คำปรึกษาในช่วงแรกๆ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดประมาณว่าเลิกเศร้าสักทีลุกได้แล้วเดินต่อได้แล้ว

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะคะ คำพูดเหล่านั้นล้วนเกิดจากความหวังดีทั้งสิ้น...เนื่องจากว่าพวกเขาสามารถมีความเห็นใจ( Sympathy )แต่ไม่สามารถที่มีความเข้าใจ( Empathy )เราได้จริงๆ ไรต์เชื่อว่าพลังใจที่ดีที่สุดก็คือพลังใจจากตัวเอง...คนรอบข้างเป็นแค่ส่วนที่มาเสริมให้มีแรงลุกเดินต่อมากขึ้น

Reborn

รับมืออย่างไรในวันที่ใจอ่อนแอ...

การเดินทางของการรักษาบาดแผล อาจไม่ใช่แค่สองสามวัน จะคิดอย่างไรให้ผ่านพ้นแต่ละวันไปได้ โดยที่ให้ความเจ็บปวดมีขนาดเล็กลงบ้าง

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/27/73358335_2562873180417933_1558725541039702016_n.jpg

อนุญาตให้ตัวเองเสียใจ

การร้องไห้เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ ทุกคนเชื่อแบบนั้น...และเมื่อเวลาที่เราเจอใครร้องไห้ คำปลอบใจที่จะได้ยินกันจนคุ้นชินเสมอๆ นั่นคือ ” อย่าร้องเลย เสียเวลา ” ไม่ก็ ” หยุดเหอะแล้วเดินต่อ ”คนส่วนใหญ่รวมทั้งตัวเราเอง เข้าใจว่าการร้องไห้เสียใจนั้นนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสียสุขภาพจิต...แต่ไม่เสมอไปหรอกนะคะ

การร้องไห้ออกมาหรือหรืออนุญาตให้ตัวเองได้เสียใจบ้าง ก็เป็นกระบวนการทางการเยียวยาจิตใจอย่างหนึ่ง..เป็นการปลดและคลายความเศร้าออกไป ผ่านหยดน้ำตาของเราเอง...เพื่อนๆ สังเกตไหมคะว่า เวลาที่เราร้องไห้จนร้องต่อไม่ได้แล้ว ทำไมบางครั้งเราพยายามที่จะเค้นน้ำตาให้มันออกมา นั่นก็เพราะว่าลึกๆ แล้วข้างในเราโล่งที่ได้ระบายออกมาก

ฉะนั้นแล้วการอนุญาตให้ตัวเองเสียใจ ไม่ว่าจะแค่นั่งเศร้าหรือมีน้ำตาก็ไม่ใช่สิ่งที่เสียหายแต่อย่างใดเลย...แต่ก็เอาแค่พอเหมาะพอควรเท่านั้น

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/27/72773850_536366586935523_4840765971834601472_n.jpg

สำรวจและทบทวนความรู้สึกของตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น แท้จริงแล้วสาเหตุของความเจ็บปวดคืออะไร

ในข้อนี้เพื่อนๆ อาจจะนั่งลิสต์ความรู้สึกของตัวเองที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ว่า ตอนนี้รู้สึกอะไร ความจริงที่เผชิญคืออะไร ทั้งนี้ก็เพื่อให้รู้ทันใจตัวเอง เป็นการทำให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบัน และเรียกสติให้กลับคืนมาอยู่กับปัจจุบันนั่งทบทวนปัญหาและเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาโดยไม่เข้าไปตัดสินหรือหาคนผิดและคนถูกมองดูความคิดตัวเองอย่างห่างๆ อย่างเงียบๆค่อยๆคิดและไตร่ตรองถึงเหตุผลของปัญหานี้ว่าเรากำลังรู้สึกเช่นไร

" บางทีความจริงไม่ได้ทำให้เราเจ็บเท่าความจำ”. ความจำเป็นเพียงอดีตที่ผ่านไปแล้ว แต่ความจริงคือสิ่งที่เรามีอยู่ เผชิญอยู่ ความจริงไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไรกับเราเลย แต่กลับทำให้เราตาสว่างมากขึ้น...ฉะนั้นแล้วลองทบทวนดูว่า แท้จริงแล้วคุณเจ็บกับความจริงหรือความจำกันแน่

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/27/73321513_578372206267686_9089419364171513856_n.jpg

ยอมรับความจริงและโอบกอดข้อเสียของตัวเอง

แม้ว่าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ดีที่สุดของโลกใบนี้ เขาเองก็ต้องมีข้อเสียเหมือนกับเรา จริงอยู่เราอาจมีข้อผิดพลาด หรือมีข้อเสียบางอย่างที่เราอาจจะคิดว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเลิกรา หรือจบความสัมพันธ์ อย่าว่าแต่คนอื่นจะรับไม่ได้เลย เราเองก็ยากที่จะมองและยอมรับข้อเสียของตนเองบางเรื่องได้เช่นกัน แต่ถ้าหากเราผู้เป็นเจ้าของชีวิต ไม่สามารถอยู่และยอมรับกับข้อเสียของตัวเองให้ได้ แล้วจะมีใครที่ไหนจะมาโอบกอดยอมรับมันได้

ฉะนั้นจงโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองด้วยความเข้าใจว่า บางทีการเว้าแหว่งมันก็ไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวอะไรขนาดนั้น....ความเป็นเราที่มันอาจจะไม่ได้สวยงามไปซะหมด...แต่เราเริ่มทำความเข้าใจ...ยอมรับ...และหาแนวทางแก้ไขมันได้...และการที่จะแก้ไขอะไรสักอย่าง ก็ต้องยอมรับรู้ซะก่อนว่าตรงจุดนั้นมีปัญหา

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/27/6f3b4d4bb341411b68221a12703ec31b.jpg

เปลี่ยนมุมมองความคิดจงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส การมองโลกในแง่ดีเข้าไว้เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง แม้ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด...หากเขาทิ้งคุณไปเพราะอะไรก็แล้วแต่ จงทำตัวเป็นเมล็ดพันธุ์ไม่ใช่เศษขยะที่ไร้ค่าไร้ราคา...และเมื่อคนที่เขาทิ้งคุณไปเขามองกลับมาเห็นคุณ...คุณอยากให้เขาเห็นว่าคุณเป็นเมล็ดพันธ์หรือเศษขยะพลาสติก...เมล็ดพันธุ์เมื่อถูกทิ้งลงดินนั้น สามารถเติบโตขึ้นมาได้และการที่มันจะเติบโตขึ้นมาได้ต้องถูกทิ้งลงดินเท่านั้น...ผิดกับขยะ ที่นอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นแล้ว ยังอันตราย เป็นมลพิษ และไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย...เมื่อขยะพลาสติกถูกทิ้งลงดิน มันไม่สามารถงอกเงยหรือให้คุณค่าใดใดกับใครทั้งนั้น...คุณเลือกที่จะคิดและเปลี่ยนมุมมองจากสถาการณ์เดียวกันนี้ได้...เริ่มและเปลี่ยนมันเพื่อตัวเองซะ!!!

รูปภาพ:https://www.img.live/images/2019/11/27/64806840_597798604043456_7753639953354981376_n.jpg

ตระหนักถึงคุณค่าในตัวเอง


ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้านั้น อาจพัดพาเอาคุณค่าของเราออกไปตามระยะเวลาที่เราใช้เยียวยามัน...เราใช้เวลาทุกข์...เศร้าเสียใจ...ก็เพื่อปลดคลายความทุกข์ออกไป...คล้ายกับสุภาษิตที่ว่า...” หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ”

เราเศร้าเพื่อเยียวยาความเศร้าเรารู้สึกถึงมันเพื่อรักษามัน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาแห่งความเศร้าหมองนั้น มันทำให้เราไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะหยิบจับอะไร...เราจะตกอยู่ในความหมดอาลัยตายยากแบบสุดๆ...แต่ไม่ว่าใครจะจากไป แต่ตัวเรานั้นคงอยู่...ใครบางคนอาจทิ้งคุณไป แต่เขาไม่ได้หยิบเอาคุณค่าในตัวคุณออกไปด้วย

สมมุติว่าคุณเป็นนักเปียโน แล้วคุณเลิกกับแฟนของคุณและทุกอย่างจบลงเขาเดินจากไป ถามว่าสกิลการเล่นเปียโนของคุณติดไปกับผู้เดินจากไปหรือเปล่า คำตอบคือไม่! คุณก็ยังทำมันได้เช่นเคย หากแต่ว่าในช่วงแรกฝีมืออาจจะถดถอยลงบ้าง อันเนื่องมาจากถูกความเศร้ากัดกร่อน แต่ไรต์เชื่อว่าเพียงไม่นานคุณก็จะสามารถกลับมาเล่นมันได้ดีอีกครั้ง

คุณค่าของเราจะลดลงได้ ก็ต่อเมื่อเราอนุญาตให้เป็นเช่นนั้น...ธนบัตรมูลค่าหนึ่งพันบาท แม้จะยับยู่ยี่มากแค่ไหน สุดท้ายแล้วมูลค่าของมันก็สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าได้ในมูลค่าหนึ่งพันบาทของมันเอง...และแม้จะไม่เป็นที่ต้องการของใครบางคนแล้ว นั่นไม่ได้แปลว่าจะไม่เป็นที่ต้องการของทุกๆ คน

ชีวิตคือการเดินทางจากความกลัว เพื่อไปหาความเข้าใจ


Cr:ขุนเขา

ความเข้าอกเข้าใจจากคนอื่น อาจเป็นกำลังใจชั้นดี แต่ความเข้าใจที่เกิดจากการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเผชิญนั้น เป็นสิ่งที่ดีกว่า...หลายคนออกจากกับดักความเจ็บปวดไม่ได้เพราะมองไม่เห็นสภาวะที่เป็นอยู่ หรือคุณอาจจะเห็นมันแล้วแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น...เวลาที่หกล้มยังเกิดบาดแผลทางกาย ซึ่งต้องใช้เวลาและกระบวนการต่างๆ ตามธรรมชาติเพื่อเยียวยาและรักษาไปทีละขั้นตอนความเจ็บปวดทางใจก็เช่นกัน...


พบกับบทความที่น่าสนใจในเชิงจิตวิทยาเช่นนี้กับ..Pinky_Bonbons...นะคะ

ขอขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคำติชมค่ะ