Faith in Face | Prestige Platinum Mask มาส์กฟอยล์สุดพรีเมี่ยมจากแดนเกาหลี!!

เราเชื่อว่าเพื่อนๆ ที่ได้ติดตามเรามาตลอดน่าจะเคยชินกับการมาส์กหน้าทุกวันของเราอยู่แล้ว เพราะเรามองว่าการมาส์กหน้าเป็น 1 ในขั้นตอนการบำรุงผิวที่รวดเร็ว เห็นผล และสบายผิวแบบสุดๆ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าเราจะหยิบมาส์กไก่กาอะไรก็ได้มาใช้เน้อ เราค่อนข้างจริงจังในดารเลือกมาส์กที่เหมาะกับผิว และดูที่ส่วนผสมเป็นหลัก

ซึ่งล่าสุดทางแบรนด์Faith in Faceก็ได้ส่งPrestige Platinum Maskมาส์กรูปแบบใหม่ที่ใช้นวัตกรรมมาส์กชนิดฟอยล์ ซึ่งมีกลไก 3rd Layer Structure เพื่อป้องกันการระเหยของเซรั่มและช่วยล็อคอุณหภูมิผิวให้อุ่นขณะมาส์กมาให้เราได้ลองใช้ โดยทางแบรนด์ท้าให้เราลองมาส์ก 3 วันรวด แล้วมาดูผลผลลัพธ์ เอาเป็นว่าเราไปชมพร้อมๆ กันเลยฮะ....

The Claim

Faith in Face | Prestige Platinum Mask(1 Sheet Mask /169.-) :อีกขั้นของการฟื้นฟูผิวด้วยที่สุดของสารสกัดสุดเลอค่าอาทิ แพลทตินั่ม,สารสกัดจากเห็ดทรัฟเฟิล, ผงไข่มุก,ต้น Purslane,ดอกสายน้ำผึ้งญี่ปุ่นและน้ำมันม้าช่วยให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใส กระชับรูขุมขนให้เรียบเนียนและช่วยรับมือกับจุดด่างดำ ด้วยนวัตกรรมมาส์กชนิดฟอยล์ที่มีกลไก 3rd Layer Structure ป้องกันการระเหยของเซรั่มและช่วยล็อคอุณหภูมิผิวให้อุ่นขณะมาส์ก ทำให้ผิวได้รับสารบำรุงถึงขีดสุดและให้ผลลัพธ์ยาวนานยิ่งกว่า

How to use

หลังทำความสะอาดผิวหน้าให้ฉีกซองมาส์กและดึงแผ่นตาขายออก วางแผ่นมาส์กด้านสีขาว(ที่ไม่ใช่ด้านแผ่นฟอยล์)ลงบนผิวหน้า ปรับให้พอดีและไล่ฟองอากาศออก

มาส์กทิ้งไว้ 10-20 นาที โดยอย่าปล่อยให้มาส์กแห้งลงบนผิวหน้า

ดึงแผ่นมาส์กออกแล้วใช้ปลายนิ้วนวดเซรั่มเบาๆลงบนผิวหน้าโดยไม่ต้องล้างออก

แนะนำให้ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีแนะนำให้ใช้ก่อนนอนเพื่อฟื้นฟูผิวยามค่ำคืน

Sheet Mask / Scent / Feeling

Sheet Mask :เป็นแผ่นมาส์กที่แปลก และเราไม่เคยใช้รูปแบบนี้มาก่อน ด้วยความที่ใช้ฟอยล์มาเป็นส่วนนึงของแผ่นมาส์ก เอาจริงๆ แค่เปิดมาเราก็ว้าวแล้วหละ คะแนนความดูดีคือ 10 10 10 ฮะ

Scent :ถึงน้องคนนี้จะมีส่วนผสมของน้ำหอม แต่จากที่เราลองใช้ก็เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวเราแต่อย่างใด

Feeling :ความรู้สึกขณะมาส์กจากภาพจะเห็นว่าเราพยายามปรับแผ่นมาส์กให้พอดีกับรูปหน้า แต่ด้วยความที่แผ่นฟอยล์มีความคงตัวในระดับนึง จึงต้องใช้เวลาซักหน่อยในอีกมุมนึงคือเวลาเราปรับ เลื่อน ดึงทำได้สบาย ไม่ต้องกลัวว่าแผ่นมาส์กจะขาดแต่อย่างใด แต่ก็มีจุดสังเกตุเล็กๆ ด้วยความที่แผ่นมาส์กค่อนข้างหนา ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น ดังนั้นเวลาเราขยับตัวเวลามาส์ก แผ่นมาส์กจะค่อนๆ เลื่อนลงมาทีละน้อย

Key Ingredients

Niacinamide :หรือวิตามิน B3 เป็นวิตามินครอบจักรวาลตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ สามารถคาดหวังผลในเรื่องความกระจ่างใส, การเป็นไวท์เทนนิ่ง, ลดการเกิดอนุมูอิสระและลดการเกิดสิวได้ดี

Ascophyllum Nodosum Extract :เป็นสารสกัดจาก brown seaweed ชนิดหนึ่ง มีส่วนประกอบของ amino acids, vitamins และ minerals มากดังนั้นสาหร่ายชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการเป็น antioxidant ที่ดี อีกทั้งยังช่วยให้นุ่ม ชุ่มชื้นอีกด้วย

Epilobium Angustifolium Flower/Leaf/Stem Extract :ชื่อทางการค้าคือ "Canadian willow herb™" สารสกัดจาก willow herb มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant, Anti acne และ Anti-inflammatory จึงมีคุณสมบัติในการป้องกันสารอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ในการชะลอการเจริญเติบโตของ P.acne สาเหตุของสิวได้ และยังลดอาการระคายเคืองได้ดีทีเดียว

Portulaca Oleracea Extract :อุดมไปด้วย Omega-3 และ Flavonoids ซึ่งมีประสิทธิภาพในการให้ความนุ่ม ชุ่มชื้นแก่ผิว ลดการระคายเคืองและการอักเสบได้ดี นอกจากนี้ยังมี Vitamin A,C,E และ Coenzyme Q10 ที่ช่วยต้านอนุมูอิสระ และชะริ้วรอยได้อีกด้วยฮะ

The Result...

จากที่เราได้ลองมาส์กFaith in Face | Prestige Platinum Maskติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน สิ่งหนึ่งที่เราพบคือ แม้ว่าแบรนด์จะบอกให้มาส์ก 15-20 นาที แต่จากปริมาณ Essence ที่ใส่เข้ามาขนาดนี้ ทำให้เราสามารถมาส์กต่อไปได้อีกจนครบ 25-30 นาทีอย่างสบายๆ เลยเชียวหละ แน่นอนว่าในเราเคยพูดไปแล้วว่าการมาส์กหน้านั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เราไปชมภาพพร้อมๆ กันเลยฮะ....

Day 1- เราเลือกมาส์กก่อนลงสกินแคร์และเมคอัพ เพราะเราอยากให้ผิวเราฉ่ำน้ำ และลดปริมาณการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ในตอนลงสกินแคร์ เพื่อให้ผิวเรามันน้อยลง ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาค่อนข้างดีทีเดียว ผิวโดยรวมชุ่มชื้น และลงเมคอัพติดทนขึ้น ลงง่ายขึ้น ไม่ลอกเป็นขุย

Day 2

- วันนี้เป็นวันอยู่บ้านสบายๆ เราเลือกมาส์กช่วงกลางวัน ที่อากาศค่อนข้างร้อนพอสมควร เลยน้ำมาส์กไปแช่ตู้เย็นแล้วออกมามาส์กก็ได้ความสบายผิวไปอีกแบบ

Day 3- เราลองเปลี่ยนมามาส์ก่อนนอนดูบ้าง ซึ่งจากที่ลองถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว หลังจากประคบเบาๆ เพื่อกดให้เนื้อเอสเซ้นต์ซึมเข้าสู่ผิวจนหมด ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมรับการบำรุงในลำดับถัดไป ที่สำคัญคือตื่นมาแล้วผิวยังนุ่มอยู่เลยหละ

เอาหละเราก็ได้เห็นการใช้มาส์กในแต่ละสถานการณ์กันไปแล้ว ทีนี้เราลองเอาภาพหลังจากที่เรามาส์กเสร็จแล้วมาเปรียบเทียบกันบ้างดีกว่าว่าหลังมาส์กครบ 3 วัน ผิวโดยรวมเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยฮะ....

หลังจากที่เรามาส์กครบ 3 วันสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ความชุ่มชื้นบนผิวที่ทำออกมาได้ดีอย่างไม่มีข้อกังขา ซึ่งในจุดนี้ถือว่าสอบผ่านฉลุยเลยหละฮะ ส่วนในเรื่องความกระจ่างใส หรือ การลดรอยแดง รอยดำ จากสิวนั้น เราคิดว่ายังตอบได้ยาก เนื่องจากระยะเวลาในการทดลองที่ค่อนข้างน้อย

แต่ในเรื่องการลดการระคายเคือง อันนี้เรารู้สึกได้พอสมควร โดยเฉพาะบริเวณจมูกที่จะเห็นว่าในภาพ "Before" เราจะมีการระคายเคืองที่ค่อนข้างชัด แต่พอมาดูในวันที่ 3 พบว่าอาการระคายเคืองดูลดลงจริงๆ ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกจุดนึงที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวฮะ

Conclusion

จากที่เราลองมาส์กFaith in Face | Prestige Platinum Maskในระยะเวลาสั้นๆ คงสรุปให้เห็นภาพชัดๆ เป็นข้อๆ ได้ดังนี้ :

ข้อดี

คาดหวังในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้จริง

มีส่วนช่วยในการลดการระคายเคืองได้ในระดับนึง

แผ่นมาส์กเป็นเอกลักษณ์ โอบอุ่มความชุ่มชื้นในขณะมาส์กได้ดี

ข้อสังเกต

ด้วยความที่แผ่นมาส์กอยู่ในรูปแบบเนื้อฟอยล์ ที่เราไม่เคยใช้ ทำให้การปรับเข้ารับรูปหน้าอาจต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยบ้างเล็กน้อย

แผ่นมาส์กมีน้ำหนักกว่ามาส์กทั่วไปดังนั้นเราไม่แนะนำให้ขยับตัวเยอะๆระหว่างมาส์ก เพราะแผ่นมาส์กจะเคลื่อนที่ได้