สวัสดีค่าเพื่อนๆ ทุกคน ^___^
วันนี้เราได้มีโอกาสมาที่หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ดูแลเด็กแบบครอบครัวทดแทนถาวรระยะยาว เป็นอีกหนึ่งวันที่เราได้ความรู้สึก Feel Good กลับไปมากๆ จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกันเลยจ้า
หมู่บ้านเด็กโสสะคือ?
หมู่บ้านเด็กโสสะ
หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า
SOS Children's Villages
ภายใต้ในนามของมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ชื่อจดทะเบียนตามกฎหมาย)
ซึ่งดำเนินการในเมืองไทยมากว่า 49 ปีแล้ว
และในปัจจุบันมีหมู่บ้านเด็กโสสะทั้งหมด 5 แห่งในประเทศไทย เป็นองค์กรพัฒนาเด็กเอกชนที่ให้การช่วยเหลือ
เด็กที่สูญเสียพ่อแม่ หรือ เด็กที่ครอบครัวเดิมไม่สามารถทำหน้าที่ดูแลเด็กได้
โดยให้การเลี้ยงดูเด็กในรูปแบบของครอบครัวทดแทนระยะยาว
ซึ่งเด็กจะได้รับการเลี้ยงดูตั้งแต่วัยเด็กจนเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่
โดยมุ่งเน้นพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยเด็กของแต่ละคน ได้รับการศึกษาสูงสุดตามความสามารถ จนออกไปประกอบอาชีพและพึ่งพาตัวเองได้ และอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข
หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู จ.สมุทรปราการ
วันนี้เราได้เดินทางมาที่หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู จ.สมุทรปราการ เดินข้ามสะพานเข้ามาก็จะพบบ้านหลังน้อยหลังใหญ่อยู่สลับกันไป เป็นสัดเป็นส่วน มีต้นไม้ให้ความร่มรื่น มีลานกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมมากมาย ซึ่งในวันนี้เราได้พบกับ คุณพีรญา เจ้าหน้าที่ที่จะพาชมหมู่บ้านเด็กโสสะแห่งนี้ค่ะ
เพื่อความเป็นส่วนตัวของครอบครัวโสสะ เช่นเดียวกับครอบครัวทั่วไป
หากใครที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม บริจาค
หรือติดต่อเรื่องใด
ต้องติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ก่อนเท่านั้นค่ะ
หลักสี่ประการในการดำเนินงาน
• แม่
เด็กทุกคนมีแม่ผู้ให้การเลี้ยงดูด้วยความรักและความอบอุ่น แม่โสสะพร้อมรับลูกทุกคนให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโสสะโดยไม่มีเงื่อนไข ก่อเกิดเป็นสายสัมพันธ์อันแนบแน่นและมั่นคงระหว่างแม่โสสะกับลูกโสสะทุกคน
• พี่น้องชายหญิง
เด็กชายหญิงต่างวัยและที่ได้มาอาศัยอยู่ร่วมกันในครอบครัวโสสะมีสายสัมพันธ์ของความเป็นพี่น้อง อีกทั้งพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกันยังได้อาศัยอยู่และเติบโตมาในครอบครัวโสสะเดียวกันอีกด้วย
• บ้านของครอบครัว
เด็กทุกคนมีบ้านของตัวเองซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยความรัก ความอบอุ่น ความมั่นคงปลอดภัย
• หมู่บ้านเด็ก
ครอบครัวโสสะอาศัยอยู่ร่วมกันในหมู่บ้านเด็กโสสะซึ่งเป็นชุมชนที่ช่วยเหลือและเกื้อกูลกัน อีกทั้งหมู่บ้านเด็กโสสะยังเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนท้องถิ่นที่พึ่งพาอาศัยกัน
ชีวิตประจำวันของคุณแม่
บ้านแต่ละหลังจะมีคุณแม่ 1 คน โดยคุณแม่ 1 คนจะดูแลเด็กประมาณ 10 คน
และต้องดูแล 24 ชม. และทำงานถึง 7 วัน ถือว่าบู๊มากๆ ซึ่งหากใครสงสัยว่าคุณแม่เป็นใคร คุณแม่ก็คือบุคคลธรรมดาที่ไม่มีลูก (หรือหากแต่งงานแล้วก็ต้องแจ้งหย่าเรียบร้อย) มีอายุตั้งแต่ 30-50 ปี ซึ่งการที่จะได้เป็นคุณแม่นั้นก็ไม่ง่ายเพราะต้องมีการทดลองงานดูแลเด็กจนถึง 2 ปี ว่าสามารถผ่านเกณฑ์ในการมาเป็นคุณแม่ได้หรือไม่
ซึ่งวันที่เราไปเป็นวันธรรมดาจึงไม่เจอเด็กๆ เพราะทุกคนไปโรงเรียน ส่วนวันหยุดเด็กบางคนก็มีออกไปเรียนพิเศษ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ เรียกได้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้มี Event ตลอดเลยค่ะ
วันนี้เราได้รับเกียรติมาเจอ
คุณแม่กรองทิพย์
คุณแม่ก็เริ่มเล่าถึงการเลี้ยงดูเด็กแต่ละคน ว่าเจอความยากลำบากอะไรมาบ้าง ซนยังไง เด็กแต่ละคนเก่งด้านอะไร เจอปัญหาอะไรบ้าง จนเขาเติบโต เรียนจบออกไปทำงาน รวมถึงได้เล่าเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันของที่นี่ด้วย ซึ่งฟังแล้วรู้สึกถึงความเหนื่อยยากของคนหนึ่งคนที่ต้องเลี้ยงดูเด็กในมือไม่ต่ำกว่า 10 คนเลยค่ะ
คุณแม่ทำอาหารทุกวันวันละ 3 มื้อเพราะเด็กแต่ละคนมีรายละเอียดในการทานอาหารไม่เหมือนกัน
(บางคนมีโรคประจำตัวก็ต้องเลี่ยงอาหารบางชนิด)
ซึ่งกลายเป็นว่าเราต้องตัดภาพโรงอาหารที่เด็กๆ ทุกคนทานอาหารเหมือนกันออกจากในหัวเลย เพราะที่นี่คุณแม่จะคอยดูแล และทำอาหารให้เด็กๆ แต่ละคน
อย่างของในครัวก็มีทั้งของที่ได้รับบริจาคและของที่ทางคุณแม่ซื้อเอง รวมถึงมีวันที่พาเด็กๆ ออกไปจ่ายตลาด และทำอาหารด้วยกันเพื่อที่เด็กๆ จะได้ทำอาหารเป็นและได้นำไปใช้ในการดำรงชีวิต ^___^
.
ความเป็นอยู่
ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านที่นี่ เราสัมผัสได้ถึงการเป็นครอบครัวจริงๆ เพราะนอกจากเรื่องการศึกษา กิจกรรมต่างๆ รูทีนในการใช้ชีวิตประจำวันของที่นี่คืออบอุ่นมากๆ เพราะทุกคนมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
เนื่องจากวันที่เราไปเป็นวันที่เด็กๆ ไปโรงเรียน เราจึงขอเก็บภาพน้องๆ ในวันอื่นมาฝากค่า
และสำหรับใครที่ติดภาพมูลนิธิที่มีเด็กมากมายรวมตัวกัน แล้วเป็นเราไปป้อนข้าว ส่งมอบเสื้อผ้า และถ่ายภาพร่วมกัน ตัดภาพเหล่านั้นทิ้งไปได้เลยค่ะ เพราะทีนี่ไม่ใช่
สำหรับมูลนิธิโสสะแห่งนี้เขาต้องการให้เด็กๆ ได้ใช้ชีวิตปกติ ทานข้าวเอง ใส่เสื้อผ้าเอง ไปเรียนหนังสือ มีงานอดิเรก ทำกิจกรรมเหมือนเด็กปกติทั่วไป ให้เด็กๆ ได้ใช้ชีวิตของตัวเอง
มีความเป็นส่วนตัวโดยที่เราจะไม่ไปเข้าไปรบกวนน้องๆ ค่ะ
แต่สำหรับใครที่อยากจะเข้าไปจัดกิจกรรมหรือมี Event ให้น้องๆ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ แต่สำหรับสาขาบางปูกิจกรรมค่อนข้างแน่นแล้ว (เนื่องจากอยู่ใกล้เมือง) แต่สำหรับสาขาต่างจังหวัดที่อยู่ไกลออกไป กิจกรรมยังน้อยอยู่ หากใครสนใจก็ลองติดต่อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์นี้เลยนะค้า
https://www.sosthailand.org/corporate-partnership
ช่องทางการสนับสนุน
สำหรับใครที่อยากสนับสนุนมูลนิธินี้สามารถสนับสนุนได้หลายช่องทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
การบริจาคผ่านเว็บไซต์, แอปพลิเคชั่น, โอนผ่านบัญชีธนาคาร, ตัดบัตรเครดิต, เคาน์เตอร์ชำระเงิน หรืออุดหนุนของที่ระลึก
ซึ่งการบริจาคเงินกับมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย เราสามารถนำใบเสร็จยอดเงินที่บริจาคไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยค่ะ^___^
----------------------------• ร่วมบริจาคให้"มูลนิธิเด็กโสสะฯ"ผ่านเว็บไซต์ได้ ดังนี้
https://www.sosthailand.org/donate-via-website
• ร่วมบริจาค
ผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
https://www.sosthailand.org/bank-transfer
• การบริจาคผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือRabbit LINE Pay,SCB Easy,ShopeeและTrueYouhttps://www.sosthailand.org/mobile-application
• ร่วมบริจาคผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11
https://www.sosthailand.org/counter-payment
นอกจากนั้นแล้วยังมีการบริจาคแบบตัดบัตรเครดิตรายเดือน สม่ำเสมอ 1 ปี (หรือบริจาคแค่ครั้งเดียวก็ได้)แต่สำหรับเรา การบริจาคแบบรายเดือนแบบสม่ำเสมอจะทำให้ทางมูลนิธิได้ยอดเงินที่แน่นอน สามารถประเมินงบรายรับได้ ว่าในปีนี้เราจะมียอดเงินประมาณเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้บริหารจัดการค่าใช้จ่ายในแต่ละหมู่บ้านได้เพราะค่าใช้จ่ายแต่ละหมู่บ้านเยอะจริงๆ ค่ะ ไม่ใช่เพื่อการดำรงชีวิตและพัฒนาการน้องๆ อย่างเดียว แต่ยังมีรายจ่ายอื่นๆ ทั้งงานซ่อมแซม ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ที่ทางมูลนิธิต้องดูแลเช่นกันหากใครสนใจบริจาคแบบนี้ก็สามารถดูรายละเอียดได้ที่https://www.sosthailand.org/donateส่วนสิ่งของสามารถบริจาคได้ไหม?สามารถบริจาคได้ค่ะแต่อยากให้ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนว่าสิ่งที่เราจะบริจาคนั้นทางมูลนิธิกำลังขาดหรือมีเพียงพอแล้ว เพื่อที่ทางมูลนิธิจะได้รับสิ่งของบริจาคที่พอดี ไม่ล้นจนเกินความจำเป็นค่ะ
--------------------------------------------------เราไม่เพียงแต่รับเด็กเข้าสู่ครอบครัวหากแต่เราเน้นสร้างครอบครัวที่อบอุ่นให้ทุกคน--------------------------------------------------
การขาดแคลนอาหาร เสื้อผ้า การศึกษา ยังง่ายต่อการเยียวยารักษามากกว่าเด็กที่ต้องเผชิญโลกนี้เพียงลำพัง
.... มูลนิธินี้จึงได้เข้ามาช่วยเติมเต็มและเป็นบ้านที่อบอุ่นของเด็กๆ เหล่านี้ เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอีกครั้ง ในวันนี้ยังมีเด็กไทยอีกจำนวนมาก ที่รอคอยโอกาสที่สองในชีวิต
หากใครสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากรู้จักมูลนิธินี้มากขึ้นก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์
https://www.sosthailand.org/
หรือเพจ
https://www.facebook.com/SOSThailand
ได้เลยนะคะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นพลังที่เราจะได้ช่วยเหลือน้องๆ ทุกคนเลยค่ะ ไว้พบกันใหม่บทความหน้านะคะ บ๊ายบาย //
Special Thanks
Photo by Manoon
Location by SOS Children's Villages Thailand
