รูปภาพ:https://instagram.fbkk22-2.fna.fbcdn.net/v/t51.2885-15/sh0.08/e35/s640x640/54217578_613256022481169_3610580864589889485_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk22-2.fna.fbcdn.net&_nc_cat=105&_nc_ohc=dTiQWZ9xpwYAX8xflek&oh=bbf56224a88ff870843854ff2ca8e7b4&oe=5EF9634A

✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜...ไม่ใช่ไม่อยากรัก แต่มันกลัวที่จะรักใครสักคน...ต๊ายตาย!! พอได้รู้ว่ามีโรคนี้อยู่บนโลกคนโสดอย่างเรา ต้องหันมามองตัวเองแล้วว่าที่โสดอยู่ทุกวันนี้ สาเหตุมันมาจากตรงไหนกันแน่ไม่มีคนมาจีบหรือว่ากลัวความรัก!ซิสรู้จักโรคกลัวการตกหลุมรัก (Philophobia)มั้ย รู้มั้ยว่าโรคนี้มีอยู่จริงๆ นะ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักโรคๆ นี้กัน พร้อมทั้งเช็ตตัวเองสักหน่อย7 สัญญาณ บ่งบอกว่าคุณเป็นโรค Philophobiaถ้าอยากรู้ว่าตัวเราเองเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ ไปเช็คลิสต์พร้อมๆ กันเลยค่ะซิส!✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜

โรคกลัวการตกหลุมรัก (Philophobia) คืออะไร

รูปภาพ:https://instagram.fbkk22-4.fna.fbcdn.net/v/t51.2885-15/sh0.08/e35/s640x640/51620311_1107612306087695_1876772587521708547_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk22-4.fna.fbcdn.net&_nc_cat=111&_nc_ohc=eJW4FICFw4IAX-aF_1_&oh=09bd1ef13692913f57b2223a78c1dde2&oe=5EF955A5

ไม่คิดว่าโรคแบบนี้จะมีอยู่จริงๆ ก่อนที่เราจะไปดูสัญญาณของโรค เรามาทำความรู้จักโรคๆ นี้กันก่อนดีกว่า

โรคกลัวความรัก

(Philophobia)

ถูกจัดว่าเป็นโรคกลัวชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยจะ

รู้สึกกลัวการมีความรัก การตกหลุมรักหรือการมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้อื่นจนไม่กล้าเริ่มต้น


บางรายรุนแรงถึงขั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิต!

แล้วความกลัวที่ว่านั้น ไม่ใช่ความกลัวแบบเล่นๆ หยอกๆ นะ แต่เป็น

ความกลัวที่อาจส่งผลให้บางคนมีอาการทางร่างกาย

เช่น ตื่นกลัว มีเหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก คลื่นไส้ เป็นต้น

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและเสี่ยงทำให้ผู้ป่วยแยกตัวออกจากสังคมได้

การรักษาโรคกลัวความรัก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/15/13/6b/15136b2fd3a6ad7a3283b336cf4cae39.jpg

ใครที่รู้สึกว่า

ฉันมีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคนี้

ไม่ต้องกังวล จริงๆ แล้วโรคนี้มีทางรักษานะ ซึ่งการรักษานั้น ก็จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค

แพทย์จะให้การรักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ ซึ่งวิธีรักษาส่วนใหญ่ที่แพทย์เลือกใช้

มีตามนี้เลยค่ะ


การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต


โดยการ

ให้ผู้ป่วยได้ลองทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อนคลายเครียด


เช่น ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ฝึกการหายใจ เป็นต้น วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจขึ้น


การบำบัดให้หายจากความกลัว


จิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจะ

ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้การรับมือกับความกลัวที่เกิดขึ้นด้วยการพูดคุย

เพื่อชี้ให้เห็นถึงความคิดและความเชื่อในทางลบที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความกลัวขึ้น รวมทั้งพยายาม

ช่วยให้ผู้ป่วยมองเห็นแนวทางแก้ไข แนะนำให้เริ่มสร้างความสัมพันธ์จากจุดเล็กๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป

หรือแนะนำให้เริ่มจากการสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนและคนใกล้ชิด เพื่อขจัดความกลัวไปทีละน้อย


การใช้ยา


หากผู้ป่วย

มีความผิดปกติทางจิตชนิดอื่นๆ ร่วมด้วย

แพทย์อาจแนะนำให้รับประ

ทานยาต้านซึมเศร้าหรือยาคลายความวิตกกังวลควบคู่ไปกับการบำบัดด้วยการพูดคุย

1. กลัวการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/67/17/17/671717134483c18f731c9e943dd55696.jpg

สัญญาณแรก ว่ากันว่าคนที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะ

กลัวการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่

ทุกครั้งที่เจอคนถูกใจหรือความสัมพันธ์กำลังจะไปได้ดีแล้ว อยู่ๆ ก็เกิด

กลัวที่จะสานสัมพันธ์ต่อ เลยพยายามที่จะยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างกระทันหัน

สาเหตุอาจจะมาจาก

ความเจ็บปวดที่เคยได้รับมาในอดีต ทำให้คุณไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่กับใคร

เพราะกลัวที่จะผิดพลาดซ้ำรอยเก่า เลย

ลือกที่จะตัดความรู้สึกและความสัมพันธ์นั้นทิ้ง เพื่อที่ไม่ให้ตัวเองต้องเจอกับภาวะเสียใจอีก

2. อยู่คนเดียวก็มีความสุขดี ไม่เห็นต้องมีใคร

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1a/9e/3c/1a9e3c13488d5b27e4c995d59d93e04b.jpg

บางคนชอบที่จะอยู่คนเดียว แต่ถ้าเรามีสังคม มีความรู้สึกรัก ไม่ได้วิตกกังวลอะไร การที่เราจะชอบอยู่คนเดียวมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้

ส่วนใหญ่ก็มักจะรักการอยู่คนเดียวมากๆ

คือ

ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบทำอะไรร่วมกับคนอื่น

จะรู้สึกว่า

อยู่คนเดียว อยากทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องมานั่งรอ ไม่ต้องคาดหวัง ตัวคนเดียวสบายใจกว่า

ผู้ป่วยบางคนมักจะชอบคิดว่า การใช้ชีวิตหรือการทำอะไรสักอย่างกับใครสักคนมันน่าหงุดหงิด มันน่าเบื่อหน่าย ก็เลย

เลือกที่จะตัดทุกๆ ความสัมพันธ์นั้นทิ้ง

เพราะฉะนั้น คนที่เป็นโรคกลัวความรัก ไม่ใช่แค่ชอบอยู่คนเดียว แต่

เสพติดการอยู่คนเดียวและไม่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับใคร

3. กลัวที่จะต้องเผชิญกับทุกๆ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความรัก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1f/55/7f/1f557fb3f18b7c34eca61b7db46d305c.jpg

ไม่ใช่แค่กลัวที่จะเริ่มต้นความรักกับใครเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่

กลัวแม้กระทั่งการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์หรืออะไรก็ตามที่มันเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ

ทุกๆ ครั้งเวลาที่คุณตกเข้าไปอยู่ในสถานที่สุดหวานของคู่รักหรือต้องพบเจอคนรักกัน

คุ

ณจะรู้สึกอึดอัดและเครียด

ต้องรีบพาตัวเองออกมาจากตรงจุดนั้นทันที

บางคนถึงขั้นแสดงออกทางร่างกาย

เช่น เหงื่อแตก มือไม้สั่น ร้องไห้หวาดกลัว หัวใจเต้นแรง หายใจเร็วและแรง มือเท้าชา อาเจียน ไปจนถึงขั้นเป็นลมเลยก็มี เพราะฉะนั้น

สถานที่ที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยง จะเป็นสถานที่ที่คนชอบไปเดทกัน

เช่น สวนสาธารณะหรือโรงภาพยนตร์นั่นเองค่ะ

4. กลัวว่าความเป็นส่วนตัวของคุณจะหายไป

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d2/07/7d/d2077d189d96d3312955cbb353088762.jpg

ด้วยความที่พวกเขารักที่จะอยู่คนเดียวมากๆ ฉะนั้นพวกเขาจะกลัวว่า

ถ้าวันนึงมีความรักขึ้นมา อิสระของตัวเองมันจะหายไป

บางคนอาจจะรู้สึกว่า

ความรักจะมาพรากความเป็นส่วนตัวที่มีไป

เลยเลือกที่จะ

ใช้ชีวิตคนเดียวอย่างสันโดษแทนที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครสักคนหนึ่ง

แม้เราจะรู้สึกว่า ความรักมันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่กลับ

คนที่เป็นโรคกลัวความรักบางคน

เค้าไม่ได้คิดแบบนั้น สำหรับเค้า

ความรักเป็นเรื่องที่น่ากลัวและยากที่จะเริ่มต้น

5. เพราะความเจ็บช้ำในอดีต ทำให้ปิดกั้นทุกๆ คน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/37/89/df/3789dfb1a8baada80c569626b0701210.jpg

อีกหนึ่งสัญญาณหลักๆ ของคนที่ป่วยเป็นโรคกลัวความรัก คือ

การปิดกั้นโอกาสไม่ให้ใครเข้ามาสานสัมพันธ์

ปกติเวลาเราโสด เราก็อยากจะให้ใครสักคนเข้ามาจีบเราบ้างไรบ้าง แต่กับผู้ป่วยส่วนใหญ่เลยนะ จะปิดกั้นตัวเองแบบสุดๆ

Say No ความรักและความสัมพันธ์ที่กำลังจะวิ่งเข้าหาตัว

ไม่ว่าจะมีคนมาชอบมาจีบมากแค่ไหน ก็ไม่เอา


พวกเขาจะสร้างกำแพงกั้นเอาไว้เลยค่ะ เพื่อปิดกั้นไม่ให้คนอื่นเข้ามาทำความรู้จัก

แม้คนอื่นๆ จะมองว่า แบบนี้มันน่าเศร้า แต่กลับคนที่เค้ากลัวความรักอะ เป็นแบบนี้ เค้ารู้สึกโอเคแล้วจริงๆ

6. ทุกๆ ครั้งที่มีความรัก ก็มักจะวิตก กลัวว่าจะพลาดเหมือนที่ผ่านมา

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1a/7f/da/1a7fda6f5455d71954dce44bc30903cd.jpg

สำหรับบางคนที่เริ่มมีความรักหรือกำลังจะสานสัมพันธ์กับใครสักคน บางทีมันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกับคนอื่นๆ เพราะ

สำหรับคนที่กลัวความรัก ความกลัวและความวิตก มักจะเป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับตัวของพวกเขาเสมอ

ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นจากใคร แต่

เกิดขึ้นมาจากข้างในจิตใจของผู้ป่วยเอง

ส่วนใหญ่ก็มักจะกังวลว่

เค้าจะรักเรามั้ย เค้าจะดูแลเราดีรึเปล่า ถ้าคบกันแล้วจะไปรอดมั้ย เค้าจะนอกใจรึเปล่า บลาๆ

ในหัวจะมีแต่คำถามและความกังวลอยู่ตลอดเวลา

บางคนมีความรู้สึกแบบนี้เพราะเคยผิดหวังหรือเจ็บปวดมากๆ มาจากในอดีต

หรือ

เคยเห็นคนใกล้ตัวเจ็บปวดเพราะความรักมาก่อน เลยทำให้ตัวเองเกิดความกลัวนั้นขึ้นมา

เลยทำให้จำฝังใจ จนไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่หรือรักใครอีกเลย

7. มือชา เท้าชา หน้าชา หายใจเร็วและแรงเมื่อมีคนเข้ามาจีบ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/4b/3b/a2/4b3ba23f2a14707c09e08da919c8d1e6.jpg

และสัญญาณสุดท้าย

เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นทางร่ายกาย

ส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการป่วยเป็นโรคกลัวความรักนั้น

เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์หวานๆ หรือโดนรุกจีบ

จะมีอาการทางกายภาพอย่างเช่น

เหงื่อแตก ร้องไห้ ใจสั่น หัวใจเต้นรัวเร็ว หายใจแรง ชามือ - เท้า อาเจียน หรือเป็นลม

ใครที่รู้ตัวว่า ตัวเองมีอาการแบบนี้เวลาตกอยู่ในสถานการณ์รักๆ ใคร่ๆ คุณมีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคกลัวความรักนะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ee/85/d8/ee85d83404bc53f702fbead26029f0df.jpg

✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜ ✜แอบกลัวอยู่เหมือนกันนะเนี่ย เรื่องความกลัว มันเกิดขึ้นกับทุกคนอยู่แล้วแหละ แน่เรื่องบางเรื่อง อย่าเพิ่งรีบกลัวหรือกังวลไป เรื่องความรัก มันไม่ได้แย่เสมอไป วันนั้นอาจจะเจ็บปวด แต่ก็ไม่ใช่ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้าคุณจะต้องเจ็บเพราะมัน ฉะนั้นเปิดโอกาสให้กับตัวเอง เราเชื่อว่าสักวันนึง ความรักดีๆ จะวิ่งเข้ามาหาคุณแน่นอนค่ะ