สวัสดีค่าเพื่อนๆ ทุกคน //

ใครจะคิดว่าสาวผมสั้นต้องจัดแต่งทรงผมมากกว่าที่คิด ออกตัวก่อนเลยว่าตั้งแต่เราตัดผมสั้นมา เราต้องใช้เครื่องหนีบผมทุกวัน (ย้ำว่าทุกวัน T__T!) ถ้าวันไหนไม่เซตผมคือ โอ้โห ผมเป็ดสุด ต่อให้ตอนกลางคืนไดร์ผมจนเรียบก็แล้ว ตื่นมาก็เละอยู่ดี 555

วันนี้เราจึงมาดัดผมถาวรแบบ C-Curl ที่ร้าน Hollywood Hair Studio ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจมากก


เดี๋ยววันนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังว่ามีขั้นตอนยังไงบ้าง ราคาเท่าไหร่ ชีวิตดีขึ้นยังไง ตามไปอ่านดูกันได้เลยจ้าาปล. เรามีโปรโมชั่นส่วนลดและแถมทรีทเมนต์ให้ด้านล่างบทความด้วยน้า หรือใครจะเลื่อนลงไปล่างสุดเพื่อดูโปรโมชั่นก่อนก็ได้ค่า 555

Before > After

รูปภาพ:

น่อวว เปิดด้วยรูป Before / After ก่อนเลย จะเห็นได้ว่า รูป Before ผมเราเป็ดมากกก แล้วคือผมเป็ดข้างเดียวด้วยนะ (งงมากจ้าแม่ 5555) ดูโทรมๆ ไม่มีวอลลุ่ม จะออกไปไหนก็รู้สึกไม่มั่นใจ เลยต้องหนีบผมให้ได้ทรงตลอด

แต่พอได้ดัด C-Curl แล้วแบบ ปลื้มปริ่มมากก ตื่นมาไม่ต้องหนีบผมอีกแล้วค่ะ สระเป่าให้แห้งปกติ ก็สะบัดผมสวยๆ ออกจากบ้านได้เลย

(รู้งี้มาดัดนานแล้ววว) สำหรับสาวๆ คนไหนสนใจ เดี๋ยวเราจะพาไปดูวิธีการดัดผมแบบ C-Curl ที่ร้าน Hollywood Hair Studio กัน ว่ามีขั้นตอนยังไง ดูแลอย่างไรกันบ้างจ้า

Hollywood Hair Studio

รูปภาพ:

วันนี้เรามาทำผมที่ Hollywood Hair Studio

(อยู่ในห้างเซ็นทรัลพระราม 2 เลยค่ะ) ร้านเปิดมานานกว่า 18 ปี เปิดมาพร้อมกับห้างเลย (นานมากกก) ขนาดเราไปวันธรรมดา พอ 11 โมง เปิดร้านได้แป๊บเดียว ลูกค้าก็มาแล้วค่ะ แนะนำเลยว่าใครที่จะมาดัด C-Curl, ย้อมสีผม หรือทำทรงไหนที่ต้องใช้เวลานานแน่ๆ ให้โทรมาจองคิวกับทางร้านก่อนจะได้ไม่ต้องรอคิวนานจ้า

Step 1 : วิเคราะห์สภาพผม, สระ และ ตัดแต่งให้เข้าทรง

สเต็ปแรกก่อนจะดัด C-Curl ช่างทำผมของเราจะมาวิเคราะห์สภาพเส้นผมก่อนเราก่อนว่าเป็นอย่างไร แข็งแรงมั้ย ผมทำสีรึเปล่า หรือผมธรรมชาติ (เพราะเส้นผมที่ขนาดต่างกัน ระยะเวลาในการทำผมและการใช้น้ำยาจะไม่เท่ากัน) ส่วนเรื่องความยาวผมแนะนำให้ทรงผมสั้นประบ่าค่ะ จะสวยกำลังพอดี

สำหรับใครที่ย้อมสีผมมาสามารถดัด C-Curl ได้นะคะแต่อาจจะทำให้สีที่ย้อมอยู่แล้วสว่างขึ้นได้เพราะน้ำยาดัด และถ้าใครที่ฟอกสีผมอ่อนๆ ไปแล้วก็ยังไม่แนะนำให้ดัดผมเพราะผมอาจเสียได้ค่ะ พักผมก่อนเนอะ

ส่วนถ้าใครอยากทั้งดัดและทำสี ก็สามารถดัด C-Curl ก่อน แล้วต่อด้วยการทำสีได้เลยค่า

(เช่นเราในวันนี้ 555)

รูปภาพ:

ส่วนสภาพผมของเรา เป็นคนผมเส้นใหญ่ แข็งแรงดี ผมสีดำธรรมชาติ (ไม่ได้ย้อมสีผมมาหลายปีแล้วค่ะ พักผม 555) หลังจากสระผมเรียบร้อย ช่างทำผมเล็มผมเราออกไปเล็กน้อยเพื่อให้ได้ทรงสวยพร้อมรับการดัด C-Curl

Step 2 : ลงน้ำยายืดผม

สเต็ปที่สอง เราจะมาลงน้ำยายืดผมกัน

โดยน้ำยายืดผมที่ Hollywood Hair Studio เลือกใช้จะเป็นครีม XTENSO จาก L’Oréal Professionnel

ซึ่งเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุด สำหรับการยืดและดัดดิจิทัลเลยค่ะ เราชอบที่กลิ่นไม่แรง ไม่ฉุนให้แสบจมูกเหมือนน้ำยาตัวอื่นๆ แล้วก็ยังมี THIO Complex ที่ช่วยให้การดัดหรือยืดผมของเราอยู่ทรงได้ยาวนานมากขึ้นอีกด้วยค่า

รูปภาพ:

ลงน้ำยายืดไว้แล้วรอ 20 นาที ครอบผมด้วยแผ่นฟิล์มพลาสติกเพื่อให้น้ำยากระจายตัวได้ดียิ่งขึ้นค่า พอรอครบเวลาแล้วก็จะไปล้างผมก่อน 1 รอบเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป

Step 3 : ยืดผม และ ดัดดิจิทัล

สเต็ปที่สาม เราจะยืดและม้วนผมก่อนเพื่อเป็นการยกโคนผมให้มีวอลลุ่ม หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ม้วนผมทีละแกนจนทั่วศีรษะ

รูปภาพ:

'แล้วคนผมหยิกสามารถยืดผมได้ไหม?'

คนผมหยิกก็สามารถทำได้ค่า แต่อาจจะใช้เวลานานกว่าคนผมตรงธรรมดาสักหน่อยค่ะ ^___^ และเราชอบผมที่ผ่านการยืดมากๆ ค่ะ คือรู้สึกผมนุ่มลื่นมาก เพราะการยืดผมถือว่าเป็นการปิดเกล็ดผม ทำให้เรารู้สึกผมนุ่มลื่นทันทีนั่นเองค่า

รูปภาพ:

หลังจากนั้นเราก็จะเข้าสู่การดัดด้วยเครื่องดิจิทัล เป็นเครื่องที่อิมพอร์ตมาจากญี่ปุ่นเลยค่ะ เครื่องนี้เราสามารถตั้งอุณภูมิเครื่องให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของเราได้ ทำให้ผมไม่แห้งไม่กรอบนั่นเองค่า ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลา 15-20 นาทีโดยประมาณค่ะ

Step 4 : หนีบลอนให้คลาย และ ทาน้ำยาล็อคผมลอน

พอดัดด้วยเครื่องดิจิทัลเสร็จอย่าเพิ่งตกใจนะคะ เพราะลอนเราจะเด้งมากกก (เด้งแบบทรงผมยุคอาม่าเก๋ๆ 555) ขั้นตอนนี้ช่างทำผมก็จะมาหนีบผมเพื่อให้ลอนคลาย ดูเป็นธรรมชาติ เป็นการจัดทรง ก่อนที่จะม้วนผมและทาน้ำยาล็อคผมเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการดัด C-Curl ค่า

รูปภาพ:รูปภาพ:

ซึ่งขั้นตอนนี้ก็จะรออีกประมาณ 15 นาทีค่ะ หลังจากนั้นเราก็จะไปสระผมอีก 1 รอบ ก็เป็นอันเสร็จแล้ว แต่เนื่องจากเรามีทำสีต่อค่ะ พอสระผมเสร็จแล้วก็จะรันทำสีผมต่อเลย

Step 5 : เปลี่ยนสีผม

ที่นี่ใช้สีย้อมผมของ L’Oréal Maji Fashion Color ความเก๋คือ เป็นครั้งแรกที่เราย้อมสีผมแล้วไม่คัน ไม่เจ็บหนังศีรษะเลย เพราะยาย้อมผมตัวนี้มีสาร Oxidation Dyes ที่น้อย ทำให้ไม่กัดหนังศีรษะ (แต่อาจมีคันยิบๆ ได้ในบางรายค่ะ) ที่สำคัญกลิ่นไม่ฉุนเลยย เลิฟมาก เป็นครั้งแรกที่ย้อมผมแล้วไม่ค่อยทรมาน 555 ส่วนสีผมเราไม่ได้เลือกสีไหนเลยค่ะ เรียกได้ว่าวันนี้ตามใจช่างสุดๆ เอาที่พี่ๆ ว่าสวยเลยค่าา ♥

รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากย้อมสีเสร็จ เราก็ไปสระผมกัน ซึ่งอีกหนึ่งขั้นตอนที่เราประทับใจคือการอบไอน้ำค่ะ เพิ่งเคยอบไอน้ำแบบนี้ เก๋มากกก (เหมือนมาจากอนาคต 555) เสียงเครื่องแอบดังสุดๆ แต่ชอบความสบายผมไม่ร้อนหัวเลย

Finish Look

รูปภาพ:รูปภาพ:

เอ้ออ เริ่ดด!! เสร็จแล้วค่าา Finish Look ออกมาสวยมากก

ได้สีผมแบบ Hazelnut มีความสีน้ำตาลธรรมชาติ ขับผิวให้ดูผ่องขึ้น ส่วนลอนก็คือสวยงามมาก ดูมีวอลลุ่ม เข้ากับรูปหน้าสุดๆ แถมผมสุขภาพดีไม่แห้งเสียอีกด้วย

ที่สำคัญเราชอบที่จัดทรงง่ายมาก แค่สางๆ สะบัดๆ ก็ได้ทรงสวยแล้ว ♥

วิธีการดูแลผมหลังดัด C-Curl

รูปภาพ:

สำหรับการดูแลผมที่ดัด C-Curl นั้นไม่ยากเลยค่ะ

หลังจากทำผมเสร็จควรเว้นก่อน 1 วันค่อยสระผมตามปกติ (หรือจะไม่เว้น สระผมเลยก็ได้เหมือนกัน ไม่ได้ทำให้ผมเสียแต่อย่างใดค่า)

ซึ่งช่วงแรกๆ เราอาจจะต้องเปลี่ยนจากครีมนวดธรรมดาเป็นทรีตเมนต์เพื่อบำรุงผมเป็นพิเศษ


หลังจากนั้นก็ไดร์ผม และสางด้วยมือได้เลย แค่นี้ก็ได้ทรงสวยแบบไม่ต้องเซตผมเลย

ปลื้มมากกก ซึ่งผมที่ดัด C-Curl นี้จะอยู่กับเราไปตลอด แล้วลอนจะค่อยๆ หายไปตามความยาวของผมที่เราตัดค่ะ (ถ้าไม่ตัดผมเลยลอนก็จะยังอยู่) เรียกได้ว่าจ่ายทีเดียวคุ้ม!

ทั้งนี้ เราก็ควรหลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมด้วยเครื่องหนีบผมต่างๆ ที่มีความร้อนค่ะ เพราะจะทำให้ลอนผมคลายได้เร็วขึ้นค่า

Promotion

รูปภาพ:

ค่าทำผมแบบ C-Curl แบบเราจะอยู่ที่ 6,500-7,000 บาท

แต่ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดราคาดัดผมแบบ C-Curl อยู่ที่ 5,000 บาท เท่านั้นค่า

ส่วนการทำสีผมก็จะอยู่ที่ 2,000 บาท ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ

'พิเศษ Promotion สำหรับใครที่อ่านบทความนี้' เพียงแคปหน้าจอและบอกว่าตามมาจาก SistaCafeก็รับทรีทเมนต์ฟรีจาก L’Oréal มูลค่า 2,000 บาทไปเลยค่า ห้ามพลาดเลยน้า ♥

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจดัด C-Curl นะคะ ถ้าใครเป็นสาวผมประบ่าแล้วเจอปัญหาเดียวกับเราที่ต้องมาคอยหนีบผมตลอดเวลา 555 เราแนะนำการดัด C-Curl เลยค่ะ พี่ๆ ที่นี่น่ารัก บริการดีมาก ไม่ผิดหวังแน่นอนค่า ^__^ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะคะ บ๊ายบาย //

Special Thanks

Photo by Manoon

Location by Hollywood Hair Studio