ในยุคที่รอบตัวเต็มไปด้วยความเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ไหนจะฝุ่น PM2.5 ที่ยังไม่ไปไหน และไวรัส COVID-19 ที่เข้ามาแทรกอีก แต่สาวๆ รู้ไหมคะว่าจริงๆ แล้วมันยังมีอีกโรคหนึ่งที่ผู้หญิงอย่างเราต้องใส่ใจ นั่นคือ “โรคมะเร็งปากมดลูก”ที่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตหญิงไทยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม แต่สาวๆ ก็ไม่ต้องเครียดจนกุมขมับไปนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะหยุดฝุ่นและไวรัส COVID-19 ไม่ได้ในตอนนี้ แต่เราก็สามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก ด้วยการฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่วันนี้SistaCafeจึงขอปักเป็นWomen's Agendaรัวๆ สำหรับผู้หญิงเจนใหม่ให้มารู้จักกับเจ้ามะเร็งตัวร้ายและวิธีป้องกันกันค่ะ

รูปภาพ:

มะเร็งปากมดลูกน่ากลัวและใกล้ตัวกว่าที่คิด

มะเร็งปากมดลูกถือเป็นโรคสุดฮิตที่คร่าชีวิตผู้หญิง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสHPV (Human Papilloma Virus)โดยสถิติแล้วผู้หญิงในวัยผู้ใหญ่มีโอกาสติดเชื้อHPVถึงร้อยละ 80 ส่วนใหญ่ติดต่อกันได้ทางเพศสัมพันธ์ หรือการสัมผัสเชื้อบริเวณเนื้ออ่อน เชื้อHPVเป็นเชื้อไวรัสที่ติดง่ายก็จริง หากแต่ไม่แสดงอาการทันที เชื้อHPVจะแฝงอยู่ในร่างกายเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 5-10 ปี เพื่อรอเวลาในการเปลี่ยนแปลงเซลล์ และแสดงอาการออกมาก็ต่อเมื่อลุกลามเป็นมะเร็งแล้วเท่านั้น เชื้อไวรัสHPVนอกจากก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกแล้ว ยังก่อให้เกิดมะเร็งชนิดอื่นๆ อีก เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศ รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหูดหงอนไก่ด้วย น่ากลัวใช่ไหมล่ะคะสาวๆ ?

โรคที่เคยน่ากลัวในวันนั้น ป้องกันได้แล้วในวันนี้

แต่อย่าเพิ่งแพนิคไปค่ะซิส! ถึงไวรัสHPVจะน่ากลัวมาก แต่วันนี้ป้องกันได้ไม่ยากแล้วนะ เพียงแค่สาวๆ ไปปรึกษาแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนHPVป้องกันไว้ก่อน ซึ่งตอนนี้วัคซีนHPVได้รับความนิยมมากในบรรดาสาวๆ ที่อยากลดความเสี่ยงมะเร็งให้กับตัวเอง และในปัจจุบันทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศก็มีการรณรงค์กันอย่างจริงจังเพื่อสร้างความตื่นตัวในหมู่ผู้หญิง ถึงขั้นที่ในบางประเทศได้ทำการบรรจุวัคซีน HPV ให้เป็นวัคซีนพื้นฐานที่สาวๆ ทุกคนควรฉีดแล้วด้วย โดยเริ่มฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 9 ปี จนถึงผู้ใหญ่อายุ 45 ปี แอบกระซิบบอกสาวๆ ที่กำลังกลัวเข็ม หรือกลัวเจ็บว่า วิธีการฉีดไม่ยุ่งยากเลย เพราะฉีดเข้าที่บริเวณหัวไหล่ และต้องฉีดให้ครบจำนวน 3 เข็ม ในระยะเวลา 6 เดือน เพื่อประสิทธิภาพการป้องกันที่สูงสุด สำหรับผู้ที่แต่งงานหรือเคยมีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดได้ เพียงแต่ควรตรวจมะเร็งปากมดลูก หรือเชื้อเอชพีวีร่วมด้วย

รูปภาพ:

สาวๆ ควรป้องกันมะเร็งไว้ก่อน จะดีกว่ามารักษาในวันที่เป็นแล้ว เพราะนอกจากอาการเจ็บป่วยที่ต้องเจอทางร่างกาย ยังส่งผลกระทบด้านจิตใจ ไม่ว่าความเศร้า ที่ทำให้ทั้งจิตใจและร่างกายอ่อนแอลง ไหนจะเรื่องค่ารักษาพยาบาลมากมายที่ทำให้กังวล จะดีกว่าไหม? ถ้าสาวๆ เลือกป้องกันมะเร็งได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดี ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น สาวๆ ที่สนใจเข้ารับวัคซีนHPVสามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันหลายๆ โรงพยาบาลมีการให้ข้อมูล รวมถึงโปรโมชั่นที่คุ้มค่า อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่...