11 การแสดงออกทางโซเชียล ที่ทำให้เราดูเป็นผู้หญิง 'ไม่ฉลาด'

Social Media เป็นพื้นที่แสดงตัวตนอย่างหนึ่งที่หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่า' มันเป็นพื้นที่ส่วนตัว ฉันจะโพสต์อะไรก็ได้ 'หรือไม่ก็' มันก็แค่อีกโลกหนึ่ง ใครตัดสินตัวตนจากแค่นี้ก็บ้าแล้ว 'No! No! No! ผิดอย่างยิ่งจ้ะที่จะคิดแบบนี้เพื่อให้ตัวเองสบายใจ คนอื่นยังไงก็ช่าง

ลองนึกภาพ เราไปสถานสาธารณะ เช่น โรงเรียน มหา'ลัย ห้างสรรพสินค้า ในขณะที่เราเม้าท์กับเพื่อนสาวอย่างสนุกปากออกรสชาติ แน่นอนว่าสิ่งที่เราพูดออกไป คนฟังก็คิดตาม และอาจมีการส่งต่อข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนในกลุ่มด้วยกันเอง หรือคนที่ผ่านไปมาแล้วคาบข่าวไปกระจายอีกที ...social media ก็ไม่ต่างกัน อะไรที่เราโพสต์ไปแล้ว ใครจะเห็นก็ได้ทั้งนั้นและก็ส่วนมากเขาก็ตัดสินจากที่รับรู้ในทันที น้อยคนนักที่จะเข้าข้างเราว่าไม่ได้เป็นอย่างที่แสดงออกหรอก !

ถ้าถามว่าระหว่างห้ามคนอื่นเข้าใจผิด กับห้ามตัวเราเองแสดงออก แบบไหนยากกว่ากัน มันก็ยากกันทั้งคู่นั่นแหละจ้ะ แต่ถ้าถามว่าแบบไหนผลกระทบน้อยที่สุด ก็ต้องเป็นการควบคุมที่ตัวเรานี่แหละ ง่ายสุด เกิดผลกระทบน้อยสุด ดังนั้น เรามาสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สร้างเสน่ห์ให้กับตัวเองด้วยการ' หลีกเลี่ยง 'การแสดงออกที่ไม่ฉลาด ไม่งาม ไม่แพง กันดีกว่า

#1 เพ้อถึงความโสดทุกฤดู ทุกเช้าสายบ่ายเย็น

ผู้หญิงโสด จะน่ารักก็ต่อเมื่อไม่โปรโมทตัวเองเหมือนสินค้าโสดแบบมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ขยันโพสต์ว่าจีบฉันสิ ฉันอ่อยแล้วนะ โสดแล้วเหงาจัง อะไรทำนองนี้ อยากให้มีคนมาจีบ ไม่ต้องรีบขายตัวเองขนาดนั้นก็ได้จ้ะสาวๆ ชีวิตเรายังมีเรื่องอื่นให้สนใจอีกตั้งเยอะ การโฟกัสที่เรื่องรักอย่างเดียว จับจ้องมองหาซะตั้งใจขนาดนี้ มันดูไม่แพงเอาซะเลยเรื่องความรัก ถ้าจะมาเดี๋ยวก็มาเองโดยที่เราไม่เรียกร้องให้เหนื่อย

#2 อวดแฟนให้โลกรู้ ทุกฤดู ทุกมื้ออาหาร ทุกกิจกรรมที่ทำด้วยกัน

เป็นเรื่องดีที่เราจะแชร์โมเมนท์ที่น่ารักๆ บอกให้โลกรู้ว่าคนที่คบอยู่เป็นคนดีแค่ไหน แต่... ลิมิตตัวเองกันด้วยจ้ะสาวๆ ไม่ต้องถี่มากมายให้โลกรู้ไปทุกรายละเอียด เพราะเอาเข้าจริงแล้วไม่มีใครอิจฉาหรือชื่นชมเรามากหรอกพูดกันอย่างตามความจริงและโลกไม่สวยเลยก็คือ คนที่ผ่านมาเห็นส่วนใหญ่มักจะสงสัยว่า อิจฉาทำไม? มีอะไรต้องอิจฉา? ทำไมต้องอวด? เช็คหน้าแฟนบ้างมั้ยว่าเต็มใจรึเปล่า?และอย่างร้ายสุดก็คือ อวดเยอะๆ อย่างงี้ ไม่อยากจะนึกเลยว่าตอนเลิกกันลบทุกอย่างทันมั้ย ในเมื่อออกตัวแรงซะขนาดนี้

#3 โพสต์รูปร้องไห้ รูปหวาดเสียว รูปโชว์เนื้อหนังเพื่อเรียกความสนใจ

มันเป็นความ' ย้อนแย้ง 'ที่ทำให้เกิดความขบขัน เพราะคนที่มาเห็น ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า

' ร้องไห้ เสียใจ เธอมีอารมณ์ถ่ายรูปตัวเองในสภาพหน้าพังๆ ด้วยหรอ? '

' รูปชิ้นส่วนมนุษย์ อวัยวะขาด คนส่วนใหญ่เขากลัวกัน ไม่ชอบ เธอเห็นใจคนที่บาดเจ็บ/เสียชีวิต เห็นใจญาติเขารึเปล่าว่าจะรู้สึกยังไง มันเป็นภาพที่น่าชมมากหรอ? '

' ปากบอกว่าไม่ชอบพวกหื่น พวกคุกคามทางเพศ แล้วจะโชว์รูปที่ล่อเสือล่อตะเข้ทำไม? '

การโพสต์ด้วยข้อความ หรือภาพในเรื่องหวาดเสียว ไม่น่าดูแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการ' เรียกแขก 'ให้มาด่า วิพากษ์วิจารณ์เราว่าแสดงออกอะไรที่ตลก ไม่งาม ไม่แพง เหมือนพวกเรียกร้องความสนใจและเห็นแก่ตัว เพราะช่างไม่รู้มารยาทสังคม ไม่รู้กาลเทศะเอาซะเลย ต่อให้เป็นคนหน้าตาดีก็ไม่สามารถอนุโลมความรุนแรงที่จะหลั่งไหลเข้ามาได้นะจ๊ะ ... ถ้าไม่อยากให้คนอื่นว่าเอา ก็ต้องคิดให้ดีก่อนโพสต์

#4 โพสต์รูปบ่นสรีระตัวเอง ทั้งที่ก็ไม่ได้แย่อะไร

อย่าด่าตัวเอง เพื่อให้คนอื่นชม แต่ควรให้คนอื่นชมตามความจริง ตามธรรมชาติ... ช่างเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ที่คนหน้าตาดี รูปร่างดีอยู่แล้วมาโพสต์ด่าตัวเองออกสื่อว่า' อ้วนจัง ' ' ดำจัง 'ความสวยที่แท้จริง ควรมาจากการมั่นใจในตัวเองว่ามีดี ส่วนอันไหนที่ไม่ดีก็รู้ตัวเอง ปรับปรุงตัวเองเงียบๆ ไม่ต้องป่าวประกาศให้โลกรู้ ด่าตัวเองไม่พอ ยังจะเรียกให้คนอื่นมารู้เห็นด้วย มันไม่โอเคเลยนะตัวเธอ

#5 กล้าคอมเม้นท์ กล้าวิจารณ์ แล้วตบท้ายแฮชแท็กที่ไม่มั่นใจตัวเอง

คนจริง นอกจากจะกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าโพสต์ ยังต้องกล้าที่จะรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจากเราด้วยการคอมเมนท์คนอื่นซะยืดยาว แล้วตบท้ายด้วยแฮชแท็ก#ด่ามาด่ากลับ #ด่าได้แต่อย่าแรง #ความเห็นส่วนตัวนะ #จบปั้งเป็นการแสดงออกที่ค่อนข้างเด็กน้อย ไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่แน่จริง เป็นแค่เกรียนคีย์บอร์ดที่ไม่มีคุณค่าอะไรให้ภูมิใจในตัวเอง หรือทะนงตัวเองแบบผิดๆ อยู่แต่ในโลกแคบ อย่าทำแบบนี้เลยนะจ๊ะสาวๆ มันไม่สตรอง ไม่แพงอย่างแรง

#6 เอาเรื่องภายในมาสาวไส้ให้โลกรู้

เกลียดใคร ทะเลาะกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว, เพื่อนในกลุ่ม, แฟน, เพื่อนร่วมงานการโพสต์ออกไปไม่ใช่แค่ระบายอารมณ์แล้วจบ เพราะสิ่งที่อาจจะตามมาก็คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นปัญหาอยู่แล้วอาจมีผลกระทบที่หนักกว่าเดิมและในที่สุด ไม่ใช่แค่คนอื่นที่ดูไม่ดี ตัวเราก็ด่างพร้อยไปด้วย สิ่งที่สาวๆ ควรทำก็คือ ใจเย็นๆ ไปพูดปรับทุกข์กับใครก็ได้ที่ไว้ใจจนกว่าจะสบายใจ ไปเคลียร์กันให้จบๆ ตัวต่อตัวในโลกนอกจอ หรือถ้าอดใจไม่ได้ ก็ขอให้มีสติในการโพสต์นิดนึง ระบายให้เต็มที่ แล้วตั้งค่าให้เห็นเฉพาะตัวเองซะ... เพราะอะไรที่เราโพสต์ไปด้วยอารมณ์โกรธ ใจร้อน มันโพสต์แล้วโพสต์เลย มีหลายสายตาจับจ้องรู้เห็นไปแล้ว เราไม่โชคดีทุกครั้งไปหรอก

#7 หยาบคายเป็นนิสัย โดยคิดว่านี่แหละความในใจที่จริงใจสุดๆ

ความถี่ในการแสดงออก มีผลทางจิตวิทยากับตัวเราเสมอ ถ้าเราไม่รู้จักแยกแยะ ว่าบริบทไหนควรใช้คำแบบไหน หรือเหวี่ยงความผิดใส่คนอื่นว่า' ก็ช่างคนอื่นสิ ใครใช้ให้มาตัดสินคนภายนอก 'มันไม่น่ารัก ไม่ช่วยให้ตัวเองดูดีเอาซะเลยจ้ะ !

มันเป็นเรื่องพอเข้าใจได้ ถ้าเราจะคุยกันแบบหยาบคายกับเพื่อนฝูงแต่อย่าติดนิสัยสะกดจิตตัวเองว่า ' หยาบคายนี่แหละจริงใจ 'นึกจะโพสต์คำหยาบคายใต้สะดือก็โพสต์ นึกจะด่าใครลอยๆ ก็ด่าไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำอะไรเกรงใจการศึกษา เกรงใจหน้าตาสวยๆ ของตัวเองกันนิดนึง keep look กันบ้าง แคร์สายตาหลายคู่ที่ผ่านไปมาบ้างการเลือกที่จะแสดงออกหลายแบบ ไม่ใช่คนที่เป็นนกหลายหัว หากแต่เป็นคนที่รู้จักเลือกที่จะวางตัวให้เหมาะสมต่างหาก

#8 ชีวิตติดคำคม

มันโอเค หากนานๆ ทีเราจะแชร์คำพูดใครสักคนที่เกิดแรงบันดาลใจดีๆ กับชีวิตแต่!! มันไม่โอเคหากเราจะใช้คำคมเพื่อเป็นการด่าใครลอยๆ หรือเอามาเข้าข้างนิสัยแย่ๆ ของตัวเอง แทนความในใจของตัวเองมากกว่าจะกล้าพูดออกไปตรงๆ( บางโควท บางเพจ ก็ใช่ว่าจะคมเอาซะเลย อ่านดีๆ ก็คือคำพูดลอยๆ เพ้อเจ้อ ที่ใครก็พูดได้ และส่วนใหญ่ก็เป็นคำพูดจากคนขี้แพ้ ไม่ยอมพัฒนาตัวเอง เอาแต่เข้าข้างตัวเองซะด้วย ... เช็คให้ดีก่อนแชร์ ไม่งั้นคนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะเอา )

#9 ก๊อปรูป ก๊อปคำคมคนอื่นมาโพสต์ แต่ไม่ให้เครดิต

ถ้าปุ่มแชร์มีก็กดแชร์ ถ้าไม่มีก็แค่ขออนุญาตเจ้าของความคิดก่อนจะนำไปโพสต์ต่อ หรือนำไปโพสต์ต่อแล้วให้เครดิตเจ้าของความคิด ทำยังไงก็ได้เพื่อเป็นการให้เกียรติคนต้นเรื่องมันอาจจะเป็นเรื่องหยุมหยิม ไม่เห็นจะต้องจริงจังเลย แต่ในทางกฎหมายและตัวเจ้าของเองก็ไม่ขำนะจ๊ะทรัพย์สินทางปัญญาเขามีกฎหมายคุ้มครองอยู่นะเออ ทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังกันนิดนึงอยากให้ตัวเองมีเกียรติ ต้องเริ่มจากการให้เกียรติคนอื่นก่อนในทำนองเดียวกันถ้าอยากให้ตัวเองโดนเกลียด ก็เริ่มจากการไปทำตัวน่าเกลียดใส่คนอื่นก่อนนั่นแหละค่ะ

#10 ตอบโต้กับคอมเมนท์ที่ไม่เป็นใจด้วยวิธี ' แรงมา แรงกลับ '

ปัญหาที่แย่ๆ เราเลือกที่จะจบสวยๆ ด้วยการอธิบายเหตุผลดีๆ หรือ/และปล่อยเขาไป ไม่ตอบโต้ ไม่ให้ความสำคัญ แต่ถ้าเราเลือก' แรงมา แรงกลับ 'มันก็เหมือนกับน้ำมันราดกองไฟ ด่ากันไปมา แล้วเมื่อไหร่จะจบ เสียสุขภาพจิตกันเปล่าๆ เอาเวลาไปสนใจเรื่องอื่นดีกว่าเสียเวลาดึงตัวเองลงต่ำเพราะคนไม่กี่คน เรื่องไม่เป็นเรื่อง

#11 คร่ำครวญถึงผู้ชายที่ทิ้งไป ด่ามือที่สามอย่างสุดพลัง

ถึงจะได้ความเห็นใจจากคนอื่นบ้าง แต่ก็มีสายตาหลายคู่ที่พร้อมจะมองว่า' โถถถถ แม่คุณ ผู้ชายมีคนเดียวในโลกหรอ เค้าไม่รัก เค้าเลิกกับเราแล้วจะพร่ำเพ้อหาอะไรอีก 'ยิ่งได้ด่า ได้สาปแช่งไปด้วย ลุคของเราจะกลายเป็น' ผู้หญิงปากตลาด ไม่น่าคบ สมควรแล้วที่ผู้ชายไปหาคนที่ดีกว่า '

อะไรที่จบไปแล้ว ก็แล้วกันไปค่ะ ในเมื่อเคลียร์กันเรียบร้อยดีก็อย่ามาเสียเวลาอีก ปาดน้ำตา เชิดหน้า มีความสุขในแบบของเราต่อไปอย่ามีความสุขที่ได้ด่าใคร เหยียดใคร เรียกร้องความเห็นใจ มันดูไม่แพง ดูเป็นผู้หญิงน่ากลัว แอบจิตๆ อย่างบอกไม่ถูก

คิดก่อนแสดงออก อย่ามือไว ใจเร็ว ความไม่มีสติ มันไม่ใช่ความน่ารักโก๊ะๆ แบบนางเอกเกาหลีหรอกจ้ะ ตรงกันข้าม มันทำให้เราน่ากลัว เสน่ห์หาย ผู้ชายไม่กล้าจีบ เพื่อนไม่กล้าคบด้วยนะเออ