รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/258369859/original.gif

สวัสดีค่าาา สาวๆSistaCafeคนอยากผอม อยากหุ่นดีทุกคน ♡ก็คิดว่าจะตั้งใจจริง จะคุมอาหารอย่างเคร่งครัดแล้วเชียวน้า~~ แต่บางที วันดีคืนดีมันก็เหงาปาก อยากกิน ' อะไรอ้วนๆ ' ซะงั้น!ยิ่งช่วงก่อนประจำเดือนมา คือกินเหมือนพายุลง กินจนภาพตัด รู้ตัวอีกทีหายไปทั้งจานแล้ว เหมือนที่ฝรั่งเรียกว่าbinge eatingนั่นแหละ T_T น้ำหนักก็ลดไม่ลงสักทีเพราะงี้ เสียใจมากเวอร์ Y^Y << ไหน ใครเป็นแบบนี้บ้าง ยกมือด่วน!อยากไดเอทระยะยาวให้รอด แค่คิดว่าจะบังคับตัวเองให้กินแต่อาหารคลีนๆ ต่อเนื่องหลายเดือน บอกเลยว่าไม่เวิร์ค! ยิ่งบังคับยิ่งตบะแตกบอกเลย ยิ่งผู้หญิงที่มีประจำเดือน ช่วงนั้นฮอร์โมนจะแปรปรวน ทำให้ต่อมความหิวอยู่ในจุดที่ ' คุมยาก 'แทนที่จะพยายามทำให้ตัวเองหยุดกิน เราว่ามาศึกษากันก่อนดีกว่าว่า อาหารอะไรที่เรามักอยากกินเวลาโหยของอ้วนๆ และเราจะ ' กินอะไรทดแทน ' ให้สุขภาพดีขึ้น อ้วนน้อยลงได้บ้าง?มาอ่านไปพร้อมกันใน ' 7 อาหารอ้วนๆ ที่ผู้หญิงอยากกินโดยไม่รู้ตัว และของกินทดแทนที่ฟินคล้ายๆ กัน เพื่อการไดเอทให้ถึงเป้าหมาย 'จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่า

1. ขนมหวานทุกชนิด และน้ำหวานต่างๆ ที่ใส่ 'น้ำตาล'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/864650a45895e6ac139be01c042fe622.jpg

เราเชื่อว่าสาวๆ เกินครึ่งชอบกิน' ของหวาน 'ไม่อย่างใดก็อย่างนึง เพราะขนมในโลกใบนี้มีหลายประเภทมาก ทั้งเค้ก คุกกี้ โดนัท ไอติม มาการอง บิงซู ชานมไข่มุก น้ำอัดลม กินแล้วมีความสุข รู้สึกชื่นใจมีแรงทำงาน นั่นเพราะน้ำตาลไปกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวนั่นเอง


แต่ข้อเสียที่ตามมาโดยไม่รู้ตัว คือน้ำตาลมีหน้าที่คล้ายยาเสพติด!


กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ กินแล้วก็อยากกินอีก กว่าจะเริ่มอิ่มก็กินเกินที่ร่างกายต้องการไปโขแล้ว พอตัดสินใจหักดิบ หลายคนก็ใจอ่อน ทนลงแดงไม่ไหว ต้องกลับมากินจนได้ ทำให้ลดน้ำหนักไม่ลงเสียที

หากจะไดเอท จะให้เลิกกินของหวานๆ ไปเลยก็จะโหดเกินไปและเสี่ยงตบะแตกด้วย เราแนะนำให้กินพวก ' ผลไม้อบแห้ง ' แทนจะดีกว่าเช่น สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง ลูกพรุนกระป๋อง มะม่วงแผ่นอบแห้งที่ขายเป็นถุงเล็กๆ ตามร้านสะดวกซื้อเวลาโหยของหวานก็หยิบกินทีละชิ้น เคี้ยวช้าๆ ให้รู้รส แล้วค่อยดื่มน้ำเปล่าตาม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เธอจะอิ่มเร็วขึ้นและไม่ได้รับแคลอรี่ส่วนเกินเยอะจนเกินไป( บางคนใช้วิธีกินบ๊วยเค็มแล้วดื่มน้ำตาม น้ำจะมีรสชาติหวานขึ้น แบบนั้นก็ใช้ได้เช่นกันค่ะ )

2. แป้งขาว คาร์โบไฮเดรตต่างๆ ( ข้าวขาว พาสต้า ครัวซองต์ เบเกอรี่ etc. )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/108636c7956a1ee65c137dcf0fa30788.jpg

สาวๆ มากมายที่ชอบกิน ' คาร์โบไฮเดรต ' เป็นชีวิตจิตใจ กำลังเหนื่อยๆ ท้องร้อง กินขนมปังก้อนเดียว หรือข้าวจานเดียวก็มีแรงขึ้นมาทันที ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะคาร์บเป็นพลังงานอันดับแรกๆ ที่ร่างกายเผาผลาญ

แต่ปัญหาคือ พวกแป้งขาวอย่างข้าว ขนมปัง พาสต้า หรือเบเกอรี่ต่างๆ เนี่ย มันอร่อยก็จริง แต่ดูดซึมเร็ว ย่อยไว สารอาหารไม่ค่อยเยอะ ทำให้เรากินแป๊บเดียวก็หิวอีก ทำให้กินเยอะเกินความจำเป็น นำไปสู่หุ่นอ้วนเผละได้ในที่สุด

หากกำลังลดความอ้วน ลองเปลี่ยนจากแป้งขาว หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เป็นประเภทเชิงซ้อนแทน ง่ายๆ เลยก็ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีท ที่มีขายตามร้านทั่วไป


หรือเปลี่ยนจากกินข้าว เป็นกินผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตผสมแทน เช่น กล้วย ฟักทอง มันฝรั่ง มันเทศ ( พยายามกินเปล่าๆ ไม่จิ้มซอส และอย่าลืมคุมปริมาณและแคลอรี่ด้วย ไม่ใช่กินเป็น 10 ชิ้นเด้อ แบบนั้นก็ไม่ไหว ) จะช่วยให้กินได้น้อยลง แต่อิ่มนานขึ้น ทำให้น้ำหนักเป้าหมายไม่ไกลเกินฝันค่ะ

3. ชีส

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/276431a8d3161a93fb19aa2664e057bf.jpg

แม้ว่า ' ชีส ' จะไม่ใช่ผู้ร้าย 100% เพราะก็ถือเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีอย่างหนึ่ง แต่ก็ต้องเลือกกินให้เป็นด้วย


หากกินแบบไม่คุมปริมาณ เป็นชีสประเภทไขมันสัตว์ และไม่ได้กินเปล่าๆ แต่กินร่วมกับแป้งขาวอย่างแซนด์วิช พิซซ่า สปาเก็ตตี้เข้าไปอีก แคลอรี่ก็เพิ่มเป็นทวีคูณ สุดท้ายก็ต้องน้ำตาตกในเพราะน้ำหนักพุ่งกว่าเดิม แง

อยากผอม ไม่จำเป็นต้องเลิกกินชีส แต่ให้เลือกชีสที่ปริมาณไขมันต่ำ แคลอรี่น้อยหน่อย เช่น

เฟต้าชีส ( ชีสจากนมแพะ ), กามองต์แบร์, คอตเตจชีส, พาร์เมซานชีส, มอสซาเรลล่าชีส โดยทุกประเภทต้องคุมปริมาณอย่างเคร่งครัด ไม่ควรเกินมื้อละ 2 ช้อนโต๊ะ

หรือถ้าคุมเคร่งๆ ไม่ไหว เปลี่ยนเป็นชีสชนิด ' พร่องไขมันลง ' ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้วค่ะ

**ถ้าอยากกินอาหารที่รสสัมผัสคล้ายชีส แต่แคลอรี่ต่ำกว่ามาก แนะนำเป็น ' กรีกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ' ค่ะ มีความเปรี้ยวๆ มันๆ กินกับขนมปังโฮลวีทและผลไม้สด บอกเลยว่าเวิร์ค

4. ฟาสต์ฟู้ด เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ฮอตดอก เฟรนช์ฟรายส์

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/9060827b2def0580aec5e1c131dfcb19.jpg

ของโปรดเด็กอ้วนที่แท้จริง! ยกมงให้ไปเลยกับ ' ฟาสต์ฟู้ด ' เนื่องจากหาซื้อง่าย อร่อย เหมาะกับช่วงเร่งรีบ ยิ่งช่วงมีประจำเดือนเราจะยิ่งอยากกินเป็นพิเศษ เพราะฮอร์โมนสั่งสมองให้อยากกินรสเค็มๆ มันๆ ซึ่งช้อยส์แรกที่คิดถึงก็คือแฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ฮอตดอกต่างๆ นี่เอง


แต่เธอรู้ไหมว่าแค่ชุดเซ็ตเล็กๆ ก็มีพลังงานที่มากมายมหาศาล กินไปมื้อเดียวก็ได้แคลอรี่เต็มโควต้าของวันนั้นแล้ว ปัญหาคือกินไปสักพักก็หิวอีกอยู่ดี ถ้ากินบ่อยยังไงก็อ้วนค่ะซิส

หากกำลังไดเอท ถ้ายังติดของทอด เราแนะนำให้เธอเลือกประเภทของกินใหม่ จากมันฝรั่งเป็นมันเทศ มันหวานแทน หรือจะใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน ให้ได้สัมผัสกรอบๆ แต่ไม่มีน้ำมันก็ช่วยได้ ( แน่นอนว่าไม่อร่อยเท่าใช้น้ำมันหรอก แต่ถ้าอยากผอมก็ต้องยอมแลก )

หรือปรับแฮมเบอร์เกอร์เป็นวัตถุดิบที่เฮลตี้ขึ้น เช่น ใช้ขนมปังโฮลวีทแทนขนมปังขาว ใช้อกไก่แทนเบคอนมันเยิ้มๆ และใช้ซอสสูตรลดน้ำตาลและไขมันลง ก็อิ่มอร่อยเหมือนฟาสต์ฟู้ด แต่แคลอรี่ลดลงเกินครึ่งเลยนะ!

** ทริคเด็ดๆ : หากสมองเริ่มสั่งว่าโหยฟาสต์ฟู้ด ให้เธอกินผักโขมเยอะๆ รองท้องก่อนเลย เนื่องจากมีงานวิจัยบอกว่าสารสกัดจากผักโขม ช่วยลดอาการหิวฟาสต์ฟู้ดและขนมหวานได้ถึง 95% เลยทีเดียว ลองดูนะคะ!!

5. รสเค็มจาก 'เกลือ'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/aefb8df215a801884dfb92cb6197b0ec.jpg

สาวๆ บางคนไม่ค่อยพิศวาสรสหวานเท่าไหร่ แต่หลงใหลกับความเค็มสุดๆ! อาหารทุกอย่างต้องเค็ม ถ้าจืดกินไม่ลง ไม่ว่าจะมันฝรั่งทอด บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ราเม็ง ถั่วอบเกลือ ป๊อบคอร์น ขนมถุงทั้งหลาย

ซึ่งแทบจะเรียกว่าเป็น empty calories เพราะแทบจะไม่มีสารอาหารอะไรเลย แต่ให้พลังงานสูงมากเวอร์! เรียกว่ากินเพื่อเพิ่มไขมันส่วนเกินที่แท้ แต่ให้เลิกกินก็อดใจไม่ได้ เลยวนเวียนอยู่กับความอ้วนไม่สิ้นสุด T__T

หากคิดจะลดความอ้วน ก็ไม่จำเป็นต้องตัดเกลือออกจากชีวิตขนาดนั้น แต่ไม่ควรกินให้ปริมาณโซเดียมเกินร่างกายกำหนดต่อวัน ถ้าไม่ไหวกับรสจืดจริงๆ ให้เปลี่ยนเป็นใช้เครื่องปรุงอื่นๆ ที่เฮลตี้กว่าแทน

เช่น

น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว ซอสถั่วเหลือง พริกไทย ผงขมิ้น

แทน รับรองว่ายังได้รสชาติแสนอร่อยอยู่ แต่แคลอรี่น้อยลงจนน่าตกใจเลยล่ะค่ะซิส

6. คาเฟอีนจาก 'กาแฟ'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1aeffb3a947517f35a3f66886f6afeca.jpg

เชื่อว่ามาถึงข้อนี้ หลายคนอาจยอมยกธงขาว เพราะตัดใจจาก ' กาแฟ ' ไม่ได้จริงๆ! เนื่องจากชีวิตปัจจุบันเรานอนไม่ค่อยพอ ต้องตื่นเช้า ทั้งวัยเรียนวัยทำงาน ส่วนใหญ่ก็อาศัยกาแฟดื่มตอนเช้าๆ ให้ตื่นพร้อมใช้ชีวิตในแต่ละวันแต่ปัญหาคือคนส่วนน้อยมาก ที่ดื่มกาแฟเพื่อคาเฟอีนเพียวๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นเมนูกาแฟที่เพิ่มน้ำตาลและไขมันเสมอ เช่น ลาเต้ มอคค่า คาราเมลมัคคิอาโต ซึ่งบางเมนูคาเฟอีนน้อยกว่าไขมันซะอีก #ก็ไม่แปลกที่จะอ้วนอะนะ -___-จะลดความอ้วน ไม่จำเป็นต้องงดกาแฟ ที่จริงกาแฟช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยซ้ำ แต่ต้องดื่มเป็น ' กาแฟดำ ' ไม่ใส่ครีม ไม่ใส่น้ำตาลเท่านั้น หรือจะดื่มเป็นชาดำ ชาเขียว ชาอู่หลงก็ได้ เพื่อเพิ่มคาเฟอีนให้ร่างกาย แต่ไม่เติมพลังงานส่วนเกินเข้าไปด้วยหากดื่มชาก็จะได้ผลพลอยได้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วยค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม! อย่าดื่มคาเฟอีนเกิน 300-400 มล. ต่อวัน เพราะจะเริ่มส่งผลร้ายกับสุขภาพแทน ดื่มกันอย่างพอดีนะคะ

7. ช็อกโกแลต

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5bee9635b061948bf44ddef76820d998.jpg

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนที่อ่านอยู่เป็นทาสของขนมหวานสีน้ำตาลแสนอร่อยอย่าง ' ช็อกโกแลต ' กินแล้วมีความสุข ให้พลังงานกับร่างกาย ยิ่งตอนใกล้มีประจำเดือนจะยิ่งโหยเป็นพิเศษ ซึ่งที่จริงช็อกโกแลตเพียวๆ ไม่ได้อันตรายอะไร แต่ที่สาวๆ ทั่วไปชอบกินมักเป็นช็อกโกแลตผสมครีม ผสมน้ำตาลเยอะๆ

หรือแย่กว่านั้นอาจเป็นของราคาถูกๆ ที่ผสมไขมันพืช หรือไขมันทรานส์ที่ส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่า เมื่อกินเยอะๆ จึงน้ำหนักพุ่ง ค่าเลือด ค่าคอเลสเตอรอลก็พุ่งตามด้วยเช่นกัน Y^Y

หากจะลดน้ำหนัก ให้เลือกกินเป็น ' ดาร์คช็อกโกแลต ' แทน เลือกที่เปอร์เซนต์ช็อกโกแลตสูงได้เท่าไหร่ยิ่งดี แนะนำเป็น 85% ขึ้นไปเพื่อให้กินแล้วได้ประโยชน์ที่สุด


ในดาร์คช็อกโกแลตจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายสุขภาพดีขึ้น โดยไม่ควรกินเกิน 2 บล็อกเล็ก ( ปกติแท่งช็อกโกแลตจะแบ่งเป็นบล็อกเล็กๆ อยู่แล้ว )

ควรเลือกยี่ห้อที่ราคาค่อนข้างสูงหน่อย เช่น lindt, godiva หรือ Guylian จะดีกว่า เพราะยี่ห้อเหล่านี้จะใช้โกโก้แท้ ไม่ผสมไขมันเทียมแน่นอนค่ะ

8. อาหารทำง่าย อิ่มไว แต่พลังงานสูง (comfort foods)

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1034703cd25be818f9470c902dff08d1.jpg

ใครที่ยังงงกับคำว่า Comfort Food มันคืออาหารที่ทำง่าย แต่ให้พลังงานสูงค่ะ ส่วนใหญ่มักเป็นอาหารที่คุ้นชินตั้งแต่เด็ก สำหรับคนไทยอาจจะเป็นได้ทั้งมาม่า ช็อกโกแลต ขนมถุง ขนมปังปิ้งทาแยมซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ได้กินเพราะตั้งใจจะกินจริงๆ แต่รีบ ไม่มีเวลา, เหงาปากเฉยๆ หรือกินเพราะรู้สึกอบอุ่นใจ กินแล้วคิดถึงบ้าน ( เด็กเรียนนอกนานๆ แล้วได้กินมาม่าจากไทย น่าจะเก็ทข้อนี้ดี )เนื่องจากอาหารชนิดนี้ เกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของเรา จึงไม่แนะนำให้หักดิบงดไปเลย 100% เพราะอาจตบะแตกในระยะยาวได้ ให้กินแบบคุมปริมาณ กินแค่นิดหน่อยแล้วดื่มน้ำเปล่าตามไปเยอะๆ หรือตามด้วยอาหารสุขภาพแทนหรือจะกินให้เต็มที่ในวัน cheat meal ของตัวเองก็ได้ ความผอมก็ดี แต่ความสุขก็สำคัญด้วยเช่นกันเนอะ ><

รูปภาพ:https://media0.giphy.com/media/1gVUhC7KsdFO81wsGb/giphy.gif

------------------------------

จบไปแล้วกับอาหารเร่งความอ้วนทั้ง 8 ประเภท ที่สาวๆ มักอดใจไม่ไหว เผลอกินจนบวมไม่รู้ตัว ลดน้ำหนักไม่ลงสักที แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป แค่ปรับการกินอย่างที่เราแนะนำในบทความนี้ ไขมันก็จะค่อยๆ หายไป หุ่นจะดีขึ้นจนสังเกตได้อย่างแน่นอนการไดเอทออกกำลังกายสำคัญก็จริง แต่อาหารมีบทบาทสำคัญกว่า หากออกกำลังหนักๆ แต่ยังกินฟาสต์ฟู้ด ก็ยากที่จะมีหุ่นเป๊ะ ดังนั้นต้องใส่ใจการกินให้มากๆ ด้วยนะคะ เพื่อน้ำหนักที่เราตั้งเป้าไว้ จะได้เป็นความจริงในเร็ววัน (´ ε ` )♡สู้ๆ นะคะสาวซิสทุกคน วันนี้ขอตัวลาไปก่อนน้า บ๊ายบายย ^^