รูปภาพ:https://3.bp.blogspot.com/-79XIzAf1w3g/VWpLWIhMGJI/AAAAAAAAE3o/vO2ltLHn3mE/s1600/Emma%2BMosquito%2BBite%2BItch.gif

สวัสดีค่า สาวๆSistaCafeที่กำลัง' คันคะเยอ 'ทั้งหลาย!ก็ว่าใช้ชีวิตตามปกตินะ ไม่ได้ไปเข้าป่าล่าแมลงอะไรเลย อยู่ดีๆ ตื่นมาก็มีตุ่มนูนหรือผื่นแดงมา Say Hi ตามแขนขาซะงั้น ที่สำคัญคันยุบยิบมากจ้า เกาจนผิวจะเป็นแผลเลือดซิบแล้วเนี่ย T^Tใส่แขนสั้นขาสั้นไม่ได้เลย โมโหนัก! อีกไม่กี่วันมีต้องออกงานใส่ชุดโชว์ผิวซะด้วย ถ้ายังมีตุ่มขึ้นหราแบบนี้คงไม่ดีแน่ แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่าตัวอะไรกัด จะต้องใช้ยาอะไรรักษาดีล่ะเนี่ย แค่ทาขี้ผึ้งจะหายหรือเปล่า ถ้าทาแล้วไม่หายจะทำยังไงดี? นอยด์มากแม่!!ต้องยอมรับว่า ตุ่มแดงบนผิวหนังเนี่ย ถ้ามองด้วยตาเปล่า ตัดสินยากมากๆ ว่าแมลงชนิดไหนคือสาเหตุ บางชนิดอย่างยุงกัด เห็บกัดก็หายเองได้ แต่หากเป็นผึ้ง มดคันไฟหรือแมงมุม ก็ต้องไปหาหมอรักษาอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นผิวอาจไม่กลับเป็นเหมือนเดิมอีกเลย... #น่ากลั๊ว!!ในบทความนี้เราจึงจะมาแยกประเภท' 7 ชนิดผื่นแดง รอยแมลงสัตว์กัดต่อย และวิธีรักษาในเบื้องต้น 'ผิวจะได้กลับมาสวยเนียน ไร้รอยแดงกวนใจอย่างเพอร์เฟกต์นะคะ ( ´ ▽ ` ).。o♡

1. รอยยุงกัด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/3c71fd620dc65ca791c13e9acc24a41c.jpg

อาการ :

มีตุ่มนูน พื้นผิวเรียบ มีลักษณะเป็นก้อนเหมือนรังของแมลง

มีอาการคันยิบๆ รอยแดง ระคายเคือง

วิธีรักษา :


ทาครีมหรือโลชั่นที่ช่วยปลอบประโลมผิว, ครีมแก้อาการคัน หรือยาหม่องชนิดขี้ผึ้งสำหรับรอยแมลงสัตว์กัดต่อย

อย่าพยายามเกา เอาเล็บจิกหรือกดลงไปบนตุ่ม นอกจากทำให้ผิวเป็นรอยมากขึ้นแล้ว อาการคันก็ไม่หายไป ยิ่งคันกว่าเดิม

เมื่อไหร่ที่ต้องหาหมอ :


โดนยุงกัดเยอะมากๆ จนบางตุ่มบวมแดงอักเสบ อาจต้องกินยาแก้แพ้ ( antihistamine ) ร่วมด้วยในความดูแลของแพทย์ หรือเกามากเกินไปจนผิวติดเชื้อจนเกิดแผลพุพองค่ะ

2. รอยแมงมุมกัด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/fe2ed5ed214e2126a42ad20c12af2735.jpg

อาการ :

ต้องบอกก่อนว่า มีแมงมุมบางชนิดเท่านั้นที่ฟันยาวพอจะฝังที่ผิวของมนุษย์ได้ นั่นคือแมงมุมแม่ม่ายดำ ( black widow ) และแมงมุมสันโดษสีน้ำตาล ( brown recluse ) โดยเป็นได้ตั้งแต่อาการเล็กๆ ถึงรุนแรง

หากโดนแมงมุมแม่ม่ายดำกัด จะเห็นเป็นรอยเขี้ยวเล็กๆ เป็นแผลเปิดสองรูบนผิว ต่อมาจะรู้สึกเจ็บปวดแผ่ซ่านไปรอบๆ แผล, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, เหงื่อออกเยอะผิดปกติ หากเป็นแมงมุมสันโดษสีน้ำตาล รอยตอนแรกจะเป็นแค่จุดแดง แต่เมื่อเวลาผ่านไป จะกลายเป็นหลุมแผลเปิด หรือเป็นฝีนั่นเอง

ซึ่งเจ็บมากๆ ถ้าระดับความเจ็บมี 10 คือให้ 9 ไปเลย! ยิ่งฝีใหญ่ขึ้น เนื้อเยื่อบริเวณนั้นก็จะถูกทำลายไปเรื่อยๆ ซึ่งสามารถเติบโตได้สูงสุดถึง 10 วัน!!

วิธีรักษา :ล้างแผลด้วยสบู่สูตรอ่อนโยนและน้ำสะอาด ประคบด้วยเจลเย็น ( cold pack ) และยาแก้ปวดจำพวกพาราเซตามอลที่มีขายทั่วไปตามร้านขายยา เพื่อลดอาการเจ็บและปวดบวมเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า กว่าแผลจะหายสนิทใช้เวลานานถึง 2-3 เดือน ใครมีงานต้องใช้ผิวบริเวณที่โดนกัดในเร็วๆ นี้ ต้องยกเลิกอย่างเดียวเท่านั้น เพราะผิวหายไม่ทันแน่นอนค่ะเมื่อไหร่ที่ต้องหาหมอ :แม้จะพบได้ยาก แต่บางครั้งรอยแมงมุมกัดทั้งสองชนิดนี้ อาจเกิดอาการที่รุนแรงและอักเสบมากๆ ได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุหากมีคนในบ้านทั้งสองวัยนี้โดนแมงมุมกัด ไม่ควรปล่อยให้แผลหายเอง แต่ควรไปรักษาที่โรงพยาบาลจะดีกว่า

3. รอยมดคันไฟต่อย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d701b3aaa793331e834944ff862c60bc.jpg

อาการ :สามารถเป็นได้หลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่ถ้าโดนมดคันไฟกัด มักจะไม่ได้โดนต่อยแค่ตัวเดียว แต่มาทั้งรัง! เพราะเราอาจไปยุ่งกับรังของมันโดยไม่ตั้งใจ รอยแผลที่ได้รับจึงค่อนข้างรุนแรง เพราะมดคันไฟหนึ่งตัวสามารถปล่อยเหล็กไนได้หลายรอบหลังจากโดนต่อยไม่นาน จะเกิดเป็นตุ่มแดงๆ อักเสบขึ้นเป็นแถบ ซึ่งก่อเกิดความเจ็บปวดและแสบร้อนเหมือนผิวโดนไฟไหม้ ( ระดับความเจ็บปวด 8 เต็ม 10 ) และอาจกลายเป็นแผลพุพองเล็กๆ หรือตุ่มหนองได้ในเวลา 24 ชั่วโมงเท่านั้นวิธีรักษา :แผลเล็กๆ ที่ไม่ได้ติดเชื้อ สามารถทำความสะอาดได้ด้วยสบู่สูตรอ่อนโยนและน้ำสะอาด พยายามอย่าไปแคะ แกะ เกา หรือบีบหนองออกเด็ดขาดอาจทำให้ผิวหนังติดเชื้อรุนแรงได้ สามารถใช้ยา hydrocortisone เฉพาะที่ หรือยาแก้แพ้ชนิดกิน เพื่อบรรเทาอาการคันและปวดแผลได้เมื่อไหร่ที่ต้องหาหมอ :แม้จะไม่ค่อยพบทั่วไป แต่สำหรับร่างกายบางคน การโดนมดคันไฟกัดอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้รุนแรงได้หากโดนกัดแล้วมีอาการคลื่นไส้ หายใจลำบาก หรือแผลบวมผิดปกติ ให้รีบหาหมอโดยด่วน!

4. รอยเห็บกัด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a7c28b409dca9a3f255ebb72e3d9077a.jpg

อาการ :เห็บถือเป็นสัตว์ที่ป้องกันได้ยากที่สุด เพราะขนาดตัวเล็กมากจนแทบจะมองไม่เห็น แม้เกาะอยู่บนผิว ดูดเลือด หรือกำลังฝังตัวบนผิวหนังของเรา ก็แทบที่จะไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของมันหากปัดออกจากผิวทัน รอยมักจะหายไปเอง แต่ถ้าปล่อยให้เห็บเกาะผิวนานๆ หรือเอาออกไม่หมด ก็อาจมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อเป็นโรคร้ายแรงได้ เช่น โรคไลม์ ( lyme disease ) หรือโรคไข้ Rocky Mountain Spotted Fever เป็นต้นวิธีรักษา :ง่ายที่สุดคืออย่าให้สภาพในบ้านสกปรก รกจนเห็บซ่อนตัวตามพื้นที่ในบ้านได้ เก็บกวาดทั้งตามซอกมุม ชั้นวางต่างๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ ซักผ้าปูที่นอนบ่อยๆ หากมีน้องหมาน้องแมวในบ้าน อาจต้องพ่นสารกำจัดเห็บ และใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเห็บร่วมด้วยหากเจอเห็บกำลังเกาะตามแขนขา  ให้ใช้วาสลีนป้ายเคลือบให้ทั่วตัว มันจะขาดอากาศหายใจและหลุดไปเอง หรือใช้แหนบดึงขึ้นมาก็ได้ หากปากเห็บยังคาอยู่ที่ผิว ปล่อยไว้ให้หายเอง ไม่เป็นอันตราย แค่ล้างผิวให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ ไอโอดีน สบู่และน้ำสะอาดก็พอเมื่อไหร่ที่ควรหาหมอ :หากรอยที่เห็บกัดไม่ยอมหาย แต่บวมแดงมากขึ้นเป็นวงคล้ายเป้ายิงปืน หรือเป็นไข้ขึ้นมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ ควรรีบหาหมอโดยเร็วที่สุดค่ะ

5. รอยตัวเรือด (Bed Bug) กัด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7cd664f21281381c34583a2771096620.jpg

อาการ :ตัวเรือดเป็นแมลงสีน้ำตาลเข้ม มักอาศัยตามซอกหรือขอบเฟอร์นิเจอร์ เช่น เตียง ตู้เสื้อผ้า ผนังแตก เมื่อโดนกัดมักมีแค่อาการเล็กน้อยถึงขั้นไม่มีเลย ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิตแต่อย่างใดลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงคล้ายยุงกัด แต่บางคนที่มีอาการภูมิแพ้ตัวเรือด ก็อาจป่วยรุนแรงได้ หากถูกกัด รอยจะใช้เวลา 1-2 วันจึงเห็นชัดเจนบนผิว และมักขึ้นเรียงเป็นแถวตามแขนขา เป็นตุ่มแดง บวมเล็กน้อย มีอาการคันและระคายเคืองวิธีรักษา :เหมือนกับที่รักษารอยยุงกัดทาครีมหรือโลชั่นแก้อาการคันไปตามอาการ ไม่ไปแคะแกะเกาจนผิวติดเชื้อ หากคันรุนแรงสามารถกินยาแก้แพ้ (  antihistamine ) เพื่อบรรเทาอาการได้เมื่อไหร่ที่ต้องหาหมอ :มีอาการแพ้ตัวเรือดรุนแรง หากตุ่มแดงอักเสบและบวมแดงมากขึ้น หรือผ่านไปหลายวันแล้วอาการคันยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาหมอค่ะ

6. รอยผึ้งต่อย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7356ab2e6cebe01cac73120605409648.jpg

อาการ :ความเจ็บปวดจากการโดนผึ้งต่อย ไม่ค่อยต่างกับมดคันไฟเท่าไหร่ คือปวดในระดับที่ไม่ถึงตายเมื่อโดนเหล็กไนจากผึ้งทิ่ม จะปวดผิวส่วนนั้นขึ้นมาทันที เกิดรอยบวม มีผื่นแดง และมีจุดสีขาวเหมือนรอยเข็มเล็กๆ ตรงผิวบริเวณที่ผึ้งปล่อยเหล็กไนไว้วิธีรักษา :หากเจอผึ้งที่ฝังเหล็กไนค้างไว้ใต้ผิว ให้ใช้แหนบดึงออก แล้วล้างแผลให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำสะอาดเพื่อไม่ให้เหลือพิษตกค้าง แล้วประคบด้วยเจลเย็นหรือใช้ผ้าเย็นห่อน้ำแข็งมาประคบก็ได้ค่ะเมื่อไหร่ที่ควรหาหมอ :หากรอยผึ้งต่อยมีอาการอักเสบมากขึ้น หรือมีอาการภูมิแพ้ผึ้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากผึ้งต่อยแล้วมีอาการหายใจลำบาก คอบวม ลิ้นบวม ชีพจรอ่อนแรง มึนหัวจะเป็นลม แปลว่าเธอมีอาการภูมิแพ้ขึ้นรุนแรงรีบไปโรงพยาบาลด่วน!

7. ผื่นแดงจากความร้อน (ที่ไม่ใช่แมลงกัด)

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a21036b9b5825571711e2d18881b1a4a.jpg

อาการ :ผื่นแดงคันจากสภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้น อุณหภูมิสูง มักเกิดในบริเวณที่ชื้นของร่างกาย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับโดยมีได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ผื่นรอยเล็กๆ ไปจนถึงแผลพุพอง ตุ่มน้ำ ตุ่มนูนแดงที่คันและเจ็บแสบผิววิธีรักษา :ระวังอย่าเผลอเกาจนผิวเกิดการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงบริเวณที่ร้อนชื้น ทาครีม hydrocortisone ตรงบริเวณที่เป็นผื่นหรือตุ่มจะช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้เมื่อไหร่ที่ควรหาหมอ :ปกติผื่นคันจากความร้อนจะหายได้เอง แต่ถ้าผื่นมีอาการอักเสบมากขึ้น หรือไม่ยอมหายภายในเวลา 2-3 วัน และมีอาการไข้ เจ็บแผล มีหนองร่วมด้วยรีบไปโรงพยาบาลให้ไวค่ะ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/bf/17/c9/bf17c948cf0666a0756529650b668598.gif

-------------------------

คิดว่าถ้าไม่ได้ไปที่แปลกๆ มา ในบทความนี้ก็น่าจะครอบคลุมแมลงทุกชนิดที่น่าจะเจอได้ในชีวิตประจำวันแล้วล่ะนะ ♡ ( ̄З ̄) อ่านจบตรงนี้แล้ว คิดว่าสาวซิสน่าจะพอแยกประเภทของตุ่มบนผิวเป็น รักษาได้อย่างถูกต้อง ผิวกลับมาสวยเนียนกริบได้แน่นอน!แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้บ่อยๆ ก็ควรตัดไฟแต่ต้นลม พยายามรักษาความสะอาด อย่าทิ้งเศษขนมเรี่ยราด กวาดหยากไย่ เก็บลูกน้ำจากยุงลาย เปลี่ยนฟูกนอนเป็นระยะ ปิดมุ้งลวด ฉีดสเปรย์กันแมลง พวกมด ยุง เห็บ แมงมุม จะได้ไม่ถามหาให้คันคะเยอผิวนะคะ อิอิ

(*´ I `)ノ゚สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน พบกันใหม่บทความหน้า เจอกันค่า See you next time!