อย่าเลิกกันเพราะคนในเน็ต! 7 วิธีใช้โซเชียล 'สไตล์คนมีแฟน' ให้รักมั่นคงยืนยาว ไม่ระแวงผ่านหน้าจอ ❤

สวัสดีค่าา สาวๆ คนสวยชาวSistaCafeที่กำลัง' อินเลิฟ 'ทั้งหลาย ♡(˘⌣˘ )คนยุคใหม่ เวลาจะคบกับใคร มีแฟนเมื่อไหร่ ก็ต้องป่าวประกาศให้โลกได้รับรู้ผ่านโลกโซเชียลกันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว จนมีคำนึงที่บอกว่า' ถ้าเขาไม่โพสต์รูปคู่ ไม่แท็กชื่อเรา ไม่ขึ้น in a relationship ด้วย แปลว่าเขาไม่จริงจัง 'ถ้าไถฟีดดูเฟสบุ๊กหรือไอจี ก็จะเห็นคนอวดรูปคู่ รูปไปเที่ยว สเตตัสหวานๆ วันครบรอบ ยึดติดยอดไลก์ ยอดคอมเมนต์ จนโลกออนไลน์เหมือนพื้นที่ที่ใช้อวดความรัก มากกว่าการแสดงความรักต่อคนตรงหน้าจริงๆ ไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อโซเชียลเข้ามามีบทบาทในชีวิตคู่มากเกินไป ทำให้ความสัมพันธ์ในชีวิตจริงเหินห่าง ( แม้ในรูปจะใกล้ชิด ) หรือความสัมพันธ์ถูกทำลายจนต้องเลิกราก็มีให้เห็นมากมายหลายคู่หากเธอเป็นคนหนึ่งที่อยากรักษาความสัมพันธ์ให้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็หนีกระแสโซเชียลไม่ได้ 100% จำเป็นต้องแสดงออกบ้างเพราะไม่อยากใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ จะทำยังไงดี?บทความนี้เรามีทริคการใช้โซเชียลมีเดียที่แสดงความรักต่อคนรัก แต่ก็ไม่ให้มันเข้ามามีอิทธิพลด้านลบกับเธอด้วยในเวลาเดียวกันจะทำยังไง เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลยค่ะ

1. อย่าเสนอชีวิตรักตัวเองเป็น 'เรียลลิตี้' ผ่านหน้าจอ

ในโลกนี้มีความบันเทิงหลากหลายรูปแบบอยู่แล้ว ทั้งรายการทีวี หนัง เพลง เกมโชว์ อย่าให้ชีวิตรักของเธอสองคน ไปเป็นเรื่องสร้างความสนุกตื่นเต้นให้คนอื่นเลย ไม่จำเป็นต้องอัปเดตตลอดเวลาว่า เธอกับแฟนกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน

เพราะเธอไม่ได้อยู่ในรายการเรียลลิตี้ ไม่ได้เป็นแพนด้าในช่องสารคดีสัตว์โลก ที่จะต้องบอกความเคลื่อนไหวให้ทุกคนรู้ทุกๆ 10 นาที บางคนถึงกับ live เวลาไปสถานที่ต่างๆ จะแสดงความรักก็ทำได้ไม่เต็มที่ ต้องคอยถือกล้อง ถือไม้เซลฟี่เดินไปมาตลอดเวลา อึดอัดใจน่าดู

เก็บมือถือใส่กระเป๋า โฟกัสกับคนรักที่อยู่ตรงหน้า โฟกัสเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นในการไปเดท ไปเที่ยวกัน ถึงจะบอกว่าถ่ายคลิปไว้จะได้ย้อนกลับมาดูได้

แต่ความทรงจำที่ได้สัมผัส ได้โอบกอดอีกฝ่าย ทำความรู้จักกับอีกฝ่ายจริงๆ กับการที่ต่างคนต่างเล่นมือถือมันต่างกันมาก ใช้กล้องถ่ายเก็บไว้แค่โมเมนต์สำคัญจริงๆ แล้วอยู่กับช่วงเวลาในปัจจุบันดีกว่า

2. อย่าปล่อยให้โซเชียล 'กำหนดหน้าที่คู่รัก' ว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร

บางครั้งเวลาเราอ่านบทความหรือดูคลิปต่างๆ มักจะมีคนที่อ้างว่าตัวเองเป็น ' กูรูความรัก ' หรือ ' ผู้นำเทรนด์ความรัก ' ที่มาคอยบอกว่า คนรักกันในปี 2020 ต้องไปเดทที่คาเฟ่นี้ ไปไหว้พระทำบุญที่วัดนี้ ไปกินข้าวที่ภัตตาคารนี้ ถ้าไม่ทำจะถือว่าเอาท์ ไม่โรแมนติก ไม่ใส่ใจแฟนเอาเสียเลย

ซึ่งสาวๆ บางคนก็เชื่อ ไปอ้อนแฟนให้พาไปตามสถานที่เหล่านั้น พอไม่ได้ไปก็งอน ทั้งที่จริงๆ ตัวเธอเองก็ไม่ได้อยากไปขนาดนั้น แค่อยากไปถ่ายรูปเช็คอินตามกระแสเฉยๆ สรุปว่าชีวิตคู่เป็นของเธอหรือของสังคม? งงมาก

จะไปเดทกันทั้งที คุยกันเองให้ดีว่าแต่ละฝ่ายชอบอะไรกันแน่ แล้วเลือกสถานที่ที่จะไปเที่ยวด้วยความชอบของตัวเอง ถ้าต้องไปสถานที่มีกระแส ก็ขอให้ไปเพราะชอบจริตของสถานที่นั้นอยู่แล้ว ไม่ใช่ไปเพราะกลัวจะตกเทรนด์ กลัวไม่มีรูปสวยๆ ลงโซเชียล

บางทีเธอกับแฟนอาจจะแค่อยากไปกินข้าวเงียบๆ ที่ร้านหน้าปากซอย หรือเดินตลาดที่ไม่มีวิวสวยอะไรให้ถ่ายรูป แต่ชอบบรรยากาศ ชอบความรู้สึกที่ได้ไป เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

เราไปเพื่อสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้กันนี่นา แค่เซลฟี่ ถ่ายภาพวิวเบลอๆ หรือหมาแมวตรงนั้นเก็บไว้ดูเองสองคน ไม่จำเป็นต้องมีรูปโพสท่าสวยๆ จากกล้องโปรทุกครั้งที่ไปเดทก็ได้

3. ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องโพสต์แบบ 'เรียลไทม์' ใส่ใจคนตรงหน้าก่อน

สาวๆ บางคนติดโซเชียลหนักขนาดที่ว่า ไปเที่ยว ไปเดทที่ไหนกับแฟนก็ต้องรีบเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆ ลงแบบเรียลไทม์ทันที กลัวไม่คุ้มแพ็กเกจเน็ตมือถือ

อัปเดตชีวิตออนไลน์แบบที่ว่า ถ้ามีโจรคอยส่องเฟสบุ๊กหรือไอจีเธออยู่ ก็มาลักพาตัวหรือไปยกเค้าบ้านเธอได้ง่ายๆ เลย นอกจากไม่ปลอดภัยกับชีวิตจริงแล้ว ยังไม่ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์อีกด้วยค่ะ

ลองนึกภาพดูว่า ถ้าเธอเช็คอินแล้วแท็กแฟน หรือลงรูปสักรูป เธอก็คงไม่ได้ลงมั่วๆ แต่ต้องเอารูปไปเข้าแอปแต่งสี แต่งฟิลเตอร์ คิดแคปชั่นเด็ดๆ ก่อน พอโพสต์ไปแล้ว เธอก็จะลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่สุข ตื่นเต้นว่าใครจะมาไลก์หรือคอมเมนต์แซวบ้างไหม หยิบมือถือขึ้นมาดูอยู่ตลอดเวลา

แทนที่จะคุยกับแฟนที่อยู่ตรงหน้าเธอในชีวิตจริง เหมือนเธอและเขาอยู่คนละโลกกันโดยสิ้นเชิงทั้งที่นั่งติดกันแค่นี้ แค่อ่านก็น่าสงสารแฟนเธอแล้ว อย่าทิ้งให้เขาโดดเดี่ยว รูปน่ะค่อยโพสต์ตอนไหนก็ได้ แต่ความทรงจำ ณ ตอนนั้นจะไม่กลับคืนมาอีกแล้วนะ ใช้กับคนที่รักให้คุ้มค่าที่สุดดีกว่าค่ะ

4. อย่าคิดเยอะ อย่าเชื่อทุกอย่างในโลกโซเชียล ถ้าไม่อยากทะเลาะกัน

โซเชียลมีเดียเป็นดาบสองคม ในแง่ดีคือการประกาศตัวว่าเธอมีแฟน ตัดคนที่มาเกาะแกะออกไป มีคนนอกช่วยสอดส่องให้ถ้าแฟนของเธอคิดไม่ซื่อ แต่การถูกสอดส่อง ' มากเกินไป ' ก็ทำให้ความสัมพันธ์พังยับได้เหมือนกัน

เช่น เธอกะจะลงรูปของขวัญวันวาเลนไทน์ที่แฟนให้ แต่ดันมีคอมเมนต์หรือแชทจากเพื่อนเด้งขึ้นมาว่า " ทำไมเขาให้แกแค่นี้เอง? วันพิเศษน่าจะให้ของที่ดีๆ หน่อย ", " ฉันรู้จักแฟนเก่าของแฟนแก กับคนนั้นเขาให้ของแพงกว่านี้นะ " เป็นต้น

ไม่ว่าจะหวังดีหรือเพื่อนแค่ยุเล่นๆ ก็ตาม ถึงจะใจแข็งแค่ไหน เธอก็ต้องมีนอยด์ เก็บเอาไปคิดบ้างแหละ ทั้งที่ตอนอยู่ด้วยกันสองคน เธอก็พอใจและดีใจกับของขวัญชิ้นนี้อยู่แล้ว แต่กลับต้องมาไม่สบายใจเพราะคำพูดของคนนอก นี่คือสัญญาณอันตรายของความสัมพันธ์ในอนาคต!

ถ้าเธอโอเคกับสิ่งที่ได้รับแล้วคือจบ ไม่ต้องสนใจคอมเมนต์ของใคร หรือถ้ารู้ว่าตัวเองใจอ่อน และคนรอบตัวมีแต่คน ' ช่างหวังดี ' ก็ตัดปัญหาด้วยการไม่ลงรูปให้มีปัญหาแต่แรกจะดีกว่า

5. อย่าส่อง อย่าขุดประวัติเก่าๆ ในแอคเคาท์แฟน รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์

ผู้หญิงหลายคนก็มีความสงสัย อยากรู้ว่าอดีตที่ผ่านมาของแฟนเป็นยังไงบ้าง เลยเข้าไปนั่งไถ ส่องประวัติการโพสต์ของเขาทั้งคืน ถ้าไม่มีอะไรก็ดีไป แต่ถ้าแฟนของเธอเคยโพสต์สเตตัส รูปหวานๆ กับแฟนเก่าโดยไม่ยอมลบออกล่ะ?

แม้จะเป็นอดีต 3 ปี 5 ปีที่เจ้าของแอคเองอาจจะลืมไปแล้ว แต่เธอกลับจำฝังใจ คิดวนเวียนไปมากับตัวเอง" เขายังลืมแฟนเก่าไม่ได้รึเปล่านะ ", " เขาจะกลับไปคุยกันไหม ในเฟสยังเป็นเพื่อนกันอยู่เลย ถ่านไฟเก่าจุดง่ายอยู่แล้ว ", " ที่วันนั้นตอบไลน์ช้า เพราะอยู่กับคนนี้รึเปล่า "etc. สารพัดจะมโน ทั้งที่อาจไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ!

มนุษย์ทุกคน อายุมาถึงจุดที่เรียนมหาลัย ทำงานทำการ ก็ต้องเคยมีอดีตกันมาทั้งนั้นแหละค่ะ อย่าไปคิดมาก ( ก็อาจมีแหละ คนที่ประวัติขาวสะอาด แต่ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร )

ในเมื่อความสัมพันธ์ครั้งเก่าของแฟนจบไปแล้ว ก็คงดีกว่าที่จะกลบฝังดินไว้อย่างนั้นต่อไป ถ้าไม่มีสัญญาณแปลกๆ ให้คิด ก็อย่าไปรื้อฟื้นหรือหาเรื่องทะเลาะ จากที่จะเป็นแค่อดีต ถ้าเขาเอือมเธอมากๆ เธอเองนั่นแหละ ที่จะกลายเป็นแฟนเก่าคนต่อไป!

6. ไม่ต้องแลก 'พาสเวิร์ด' ของอีกฝ่าย ให้สเปซกันและกันบ้าง

ผู้หญิงบางคนก็มีนิสัยขี้หึง หวาดระแวง กลัวลับหลังแฟนจะนอกใจ จึงอยากขอหรือแลก ' พาสเวิร์ด ' ที่เข้าถึงทุกแอคในโซเชียลของแฟนได้ ซึ่งเชื่อเถอะว่าผู้ชายส่วนใหญ่ถึงยอมให้ ก็อึดอัด ไม่ชอบหรอกที่แฟนจะมาตามดูเขาทุกฝีก้าว

ดูว่าเขาคุยแชทกับใคร จะนัดกับเพื่อนไปที่ไหน หรือเพิ่งอ่านกระทู้อะไรในเว็บไซต์เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว ขนาดนักโทษในเรือนจำยังไม่ตามดูขนาดนี้เลย!

มนุษย์ทุกคน แม้จะมีคนรักแล้วก็เถอะ ในบางช่วงเวลาก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวให้รีชาร์จตัวเอง ผ่อนคลายแบบไม่ต้องมีใครสนใจ เคารพในความเป็นส่วนตัวของเขาด้วยการเชื่อใจ ไว้ใจ เว้นสเปซให้แฟนได้หายใจบ้าง

และถ้าเขาไม่ให้พาสเวิร์ดก็อย่าพยายามแอบดู ถ้าเขาจับได้ ความเชื่อใจจะหมดลงทันที บางคนอาจถึงขั้นขอเลิกได้เลยเพราะเป็นการไม่ให้เกียรติกันอย่างรุนแรง อีกอย่าง ถ้าคนมันจะนอกใจ ถึงเธอเช็คทุกอย่าง เขาก็ไปหามือถือเครื่องอื่นมาสมัครแอคใหม่อยู่ดี อย่าวิ่งไล่ตามขนาดนั้นเลย เหนื่อยเปล่าๆ

7. อย่าใช้โซเชียลเป็น 'พื้นที่แข่งขัน' กับคู่รักคู่อื่นๆ

สาวๆ บางคนอาจเพิ่งมีแฟนในช่วงที่ทุกคนในแก๊งมีแฟนกันไปหมดแล้ว ในกลุ่มก็จะมีหัวข้อหลักๆ คืออวดแฟน ผลัดกันลงรูปคู่สุดหวาน บลัฟกันว่าแฟนเปย์นั่นเปย์นี่ให้อยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอถลำลึกเห็นพื้นที่ในโซเชียลเป็น ' สนามแข่งขัน ' ระหว่างเธอกับเพื่อนไปโดยไม่รู้ตัว

เห็นคู่เพื่อนไปไหน ไปบ้าง ทำอะไรก็ต้องทำตาม กลัวน้อยหน้าเพื่อน กลัวโดนล้อว่าแฟนไม่รักไม่สนใจ หรือพยายามโพสต์สิ่งที่ดูดีกว่าเพื่อข่มว่าฉันเริ่ดกว่า แฟนฉันเจ๋งกว่า ( ทำเพื่อใคร!?? )

บางคนยิ่งแย่กว่า คือแข่งขันโพสต์รูปอวดกับเพื่อนออนไลน์ในเฟสหรือไอจีที่แค่รู้จักกันผ่านๆ หรือไม่เคยเจอกันตัวเป็นๆ มาก่อนด้วยซ้ำ แต่อยากมีตัวตน อยากโดดเด่นให้คนเหล่านั้นได้เห็น ทั้งที่ในชีวิตจริงเขาเห็นรูปเธอในฟีดเขาก็เลื่อนนิ้วหนี หรือกดไลก์แบบเสียไม่ได้

เอาจริงๆ นะ ไม่มีใครสนใจความสัมพันธ์ของคนอื่นมากนักหรอก ถ้าไม่ได้ส่งผลกระทบกับตัวเอง ใช้ชีวิตในแบบที่เธอกับแฟนชอบ ไม่ต้องพยายามไปอวดไปเกทับใคร ชนะไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา รูปอลังกว่า เริ่ดกว่าก็ไม่ได้ทำให้แฟนเพื่อนรักเพื่อนน้อยลง และไม่ได้ทำให้แฟนเธอรักเธอมากขึ้นเช่นกัน

-------------------------------------

แม้ในยุคนี้การแสดงความรักผ่านโซเชียลจะเป็นเรื่องปกติ หรือเรื่องที่ ' ต้องทำ ' สำหรับบางคู่ แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ก็คือเรื่องของคนสองคน มีปัญหาหรือเรื่องไม่เข้าอกเข้าใจกันก็ควรคุยกันแค่สองคน ทำให้เป็นเรื่องส่วนตัว อย่าโพสต์สเตตัสระบายอารมณ์ ด่าอีกฝ่ายสาดเสียเทเสีย ใช้โซเชียลเป็นเครื่องมือมาทำร้ายอีกฝ่าย หรือลงรูปอวดทุกสิ่งทุกอย่าง แข่งขันกับคู่อื่นๆ จนเหมือนความสัมพันธ์เป็นเรื่องสาธารณะ สิ่งที่ตามมาคือความอึดอัดใจ ไม่มีความสุข เป็นชนวนให้เลิกรากันได้ในที่สุดเปิดบ้างให้พอรู้ว่าเรามีแฟน แต่การคบกัน ปิดไว้เป็นไพรเวทจะคบได้สบายใจมากกว่า ไม่ต้องมานั่งแคร์ความเห็นของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง เราต้องเป็นฝ่ายควบคุมโซเชียล อย่าให้โซเชียลมีอำนาจครอบงำเรานะคะ ขอให้ซิสทุกคนมีความรักที่ดีค่ะ

(♡˙︶˙♡)

Cr. 9 Ways to Not Let Social Media Run and Ruin your Relationship [inspiringtips.com]https://inspiringtips.com/ways-to-not-let-social-media-run-and-ruin-your-relationship/