#ที่แท้ก็เป็นแค่กิ๊ก! 7 สัญญาณชัดบอกว่า 'เขามีตัวจริงอยู่แล้ว' อยู่ในสถานะรักซ้อน รีบจบก่อนใจพัง T^T

เซย์ไฮค่าา สาวๆSistaCafeคนไม่โสดทั้งหลาย (¯▿¯)จะมีความรักกับเขาสักที ก็คงไม่มีใครอยากเป็นตัวสำรอง หรือเบอร์ 2 เบอร์ 3 ของใครหรอกจริงไหม ก็หวังว่าจะเป็นแฟน ' คนเดียว ' ของอีกฝ่ายด้วยกันทั้งนั้น ไม่ได้อยากเป็นหลวง เพราะถ้าขึ้นชื่อว่าหลวง แสดงว่าจะต้องมีน้อยบางคู่เวลาฝ่ายหญิงเอะใจว่าเขาอาจจะมีคนอื่น สาวๆ อย่างเราก็จะคิดไว้ก่อนว่า ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่มาหลัง เป็นกิ๊ก แต่บางทีเรื่องอาจพลิกตรงที่ว่า เราเองนั่นแหละค่ะที่เป็น ' มือที่สาม ' !! ( โดนผู้ชายหลอกซะสนิทจ้า )ในทุกความสัมพันธ์ หากเธอสังเกตรายละเอียด การกระทำของผู้ชายระหว่างคบกัน ถ้าไม่หลอกตัวเองจนเกินไป ซิสก็คงพอเดาออกได้หากเริ่มมีกลิ่นแหม่งๆ ว่ารักครั้งนี้ไม่ได้มีแค่สองคนซะแล้ว อย่างที่หลายคนนิยามว่าผู้หญิงเซนส์มันแรง!แต่ถ้าซิสยังกลัว ไม่กล้าฟันธงไปตรงๆ กลัวมโนไปเองแล้วต้องทะเลาะกัน ก็ลองมาส่อง' 7 สัญญาณชัดบอกว่าเขามีตัวจริงอยู่แล้ว 'หากตรงแม้แค่ข้อเดียว นั่นคือลางอันตรายที่ต้องจับเข่าเคลียร์กับแฟน หรือรีบชิ่งหนีด่วน ก่อนจะเสียเวลาให้คนหลายใจไปมากกว่านี้ค่ะ(＃`Д´)

1. สัมผัสได้ว่าเขาทำตัว ' มีความลับ ' ไม่เคยเปิดใจกับเธอตรงๆ

คนเป็นแฟนกัน ก็ย่อมคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะ ' เปิดใจ ' คุยกันทุกเรื่องเพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว นี่คือเรื่องปกติของคู่รัก แต่ถ้าแฟนของเธอชอบทำตัวมีความลับ มีอะไรไม่บอก พอถามว่ามีอะไรหรือเปล่าก็เลี่ยง ปัดๆ ไป

คำตอบยอดฮิตคือคำว่า " ไม่มีอะไรหรอก เธออะคิดมาก " ทั้งที่มีเคสโทรไปไม่รับ บางวันหายตัวไปซะเฉยๆ เหมือนเธอไม่ได้สำคัญพอจะมานั่งอธิบายอย่างไรอย่างนั้น

ไม่ใช่แค่ตอนปัจจุบันเท่านั้นนะ แต่ ' อดีตและอนาคต ' ของเขาก็เหมือนก้อนไฟร้อนๆ ที่ห้ามไปแตะ พูดถึงไม่ได้เลย จะต้องโมโหอารมณ์ฟึดฟัดหรือเกิดบรรยากาศมาคุทันที ไม่เคยรู้เลยว่าเขามีที่มาที่ไปยังไง มีเป้าหมายในชีวิตไหม มีความฝันที่อยากทำให้สำเร็จหรือเปล่า

เหมือนเขาเป็นบุคคลนิรนามที่ลอยมาในอากาศ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้น่าค้นหา เป็นพระเอกเย็นชาในนิยายนะจ๊ะ แต่โลกความจริงคือเขามองเธอเป็นแค่ทางผ่านชั่วคราวต่างหาก! #เจ็บไปทั้งหัวใจทำไมต้องทน

2. เขาไม่เคยพาเธอไปที่บ้าน หรือ ' ไปเปิดตัว ' กับพ่อแม่เลย

หากหนุ่มคนรักมีสัญญาณอย่างในข้อแรก สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอนก็คือเธอจะ ' ไม่ได้เปิดตัว ' สักที ไม่ว่าจะคบนานแค่ไหนก็ตาม 6 เดือนพอว่า อาจจะเร็วไปนิดนึง 1 ปีเริ่มแหม่งๆ ผ่านไป 2 ปี 3 ปี เอ๊ะ!! ทำไมยังไม่ได้เจอกันสักที

พอถามตรงๆ ว่าเมื่อไหร่จะได้ไปไหว้ทำความรู้จัก แฟนก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงบอกว่า " เขายุ่งกันอยู่ เดี๋ยวก็ได้เจอ รอไปก่อน " แหม บางทีมันก็รอจนจะเหี่ยวหมดแล้วไง จะให้รอไปถึงไหนอีก -_-

ผู้ชายที่เขาคิดจะจริงจังอยากสร้างครอบครัวกับเธอ เขาจะเป็นฝ่ายชัดเจนในความสัมพันธ์ รีบพาเธอไปรู้จักพ่อแม่โดยที่เธอไม่ต้องขอ หรือรู้สึกสงสัยเลยด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นสิ่งที่คอมมอนเซนส์มากๆ

ถ้าการเจอผู้ใหญ่ต้องเป็นความลับ มีโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีก รูปถ่ายก็ไม่เคยเห็น ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเขาพาไปเปิดตัวกันแล้วแหละ เพียงแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เธอเท่านั้นเอง #แรงมาก

3. ทำยังไงก็ไม่เคยรู้ว่า ' กลุ่มเพื่อน วงสังคม ' ของเขาเป็นใคร

อะ ถ้าซิสจะยังหลอกตัวเองได้ว่า บางบ้านเขาอาจเข้มงวดเรื่องพาผู้หญิงเข้าบ้าน ต้องจริงจังเป็นลูกสะใภ้พร้อมแต่งเท่านั้นถึงได้รู้จัก งั้นเราลองขยายวงสังคมของเขาเป็น ' ญาติๆ คนรู้จัก และเพื่อน ' ดูบ้าง

ลองนึกทบทวนดูดีๆ ว่า เธอรู้จักใครที่อยู่รอบตัวเขาบ้าง ไม่เอาคนที่สนิทกับเธอมาก่อนนะ คนที่สนิทกับฝ่ายชายแล้วแฟนพามาเจอน่ะ มีบ้างหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มีเลย เงียบกริบเหมือนแฟนอยู่ตัวคนเดียวในโลก นี่เป็นสัญญาณอันตรายอย่างรุนแรงแล้วละ

ไม่มีทางที่คนเราจะไม่มี ' เพื่อน ' เลยแม้แต่คนเดียว แม้ว่าจะเป็นคนเก็บตัว โลกส่วนตัวสูง introvert แค่ไหนก็ตาม ถึงเขาไม่พามาเจอตรงๆ ก็ต้องเคยเห็นผ่านๆ เห็นรูป เห็นโพสต์ที่แท็กกันในโซเชียลบ้าง รวมถึงญาติห่างๆ ลูกพี่ลูกน้อง รุ่นน้องรุ่นพี่ที่ทำงาน คือมันต้องมีให้เห็นบ้างถ้าเป็นคนปกติ

แต่ถ้าไม่มีใครที่จะเชื่อมโยงถึงเขาได้เลย แปลว่าเขาต้องปิดบังอะไรเธออยู่แน่นอน ซึ่งเสียใจด้วยว่าเคสส่วนใหญ่ก็คือเรื่องผู้หญิง ( ที่อาจมาก่อนและเปิดตัวไปแล้ว ) ค่ะ

4. ' โทรศัพท์มือถือ ' ของเขาคือแดนสนธยา ใครก็ห้ามแตะเด็ดขาด!

โอ้โห จะหวงมือถืออะไรขนาดนั้นล่ะพ่อคุณเอ๊ย! ตั้งแต่คบกันมา แฟนไม่เคยห่างจากโทรศัพท์เลยจ้า อย่าว่าแต่วางทิ้งไว้เฉยๆ เลย แค่นั่งใกล้ละแอบชะโงกมองหน่อย เขาก็ส่งเสียงเหมือนไม่พอใจ หรือสะดุ้งเหมือนตกใจกลัวอะไรบางอย่างแล้วกระเถิบหนีทันที

เหตุฉุกเฉินเธอลืมเอามือถือมา ขอยืมโทรหน่อยก็ปฏิเสธเสียงแข็ง บอกมีข้อมูลเรื่องงานลับ บลาๆๆ อ้างร้อยแปด ไม่เอาน่า ข้อมูลเรื่องผู้หญิงน่ะสิไม่ว่า!

บางครั้งก็เห็นเขาส่งข้อความหาใครสักคน บางทีก็ขอตัวไปโทรศัพท์ไกลๆ คุยซีเรียสบ้าง มุ้งมิ้งบ้าง พอเขาต้องแยกไปทำอะไรสักอย่างที่เอามือถือไปด้วยไม่ได้ เช่น อาบน้ำ ก็จะใส่รหัสล็อกหรือต้องปลดด้วยลายนิ้วมือไว้อย่างแน่นหนา

แบบนี้ให้ปักธงไว้ก่อนเลยว่า ตัวจริงของเขาอาจอยู่ในวอลเปเปอร์ ใน photo gallery ในรายชื่อโทรเข้าออก ในไลน์ของแฟนเธอก็ได้ ถ้าเช็กเจอเมื่อไหร่ก็จบเห่ยังไงล่ะ

5. เธอไม่เคย ' มีตัวตน ' ในโซเชียลมีเดียของเขาแม้แต่นิดเดียว

มันมีเส้นบางๆ อยู่นะ ระหว่างอยากทำตัว low profile ไม่อยากเผยเรื่องส่วนตัวในโซเชียล กับกลัวความลับเรื่องผู้หญิงจะแตก! ที่จริงก็มีหลายคู่ที่ตกลงกันว่าจะไม่โพสต์ถึงกัน ไม่ลงรูปคู่ ไม่เช็กอินพร้อมกัน เพราะไม่อยากให้ใครมา ' ใส่ใจ ' ( เรียกง่ายๆ ว่าเผือก ) อยากคบกันเงียบๆ บางคนไม่แอดเฟรนด์กันเลยด้วยซ้ำ

ซึ่งก็เข้าใจได้ถ้า ย้ำว่าถ้า! ชีวิตจริงเราเปิดตัวเรียบร้อย พ่อแม่รู้จักกัน ไปมาหาสู่ เพื่อนก็รู้จักแทบทุกคนแล้ว แบบนี้จะขึ้นสถานะหรือไม่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ

แต่ถ้าเธอเป็นเงาล่องหนในโซเชียลแฟน ไม่เคยถูกเอ่ยถึง ไม่เคยลงรูปที่สื่อว่าผู้ชายคนนี้คบเธออยู่ รูปคู่ก็ไม่ค่อยถ่าย ไม่ให้แอดเพื่อน ทุกอย่างล็อก จำกัดการเข้าถึง ครอบครัวกับเพื่อนก็ยังเป็นปริศนา ซิสก็ควรจะเอ๊ะได้แล้วนะว่า ' เขากำลังหลอกอะไรเธออยู่หรือเปล่า '

เผลอๆ ถ้าเขามือลั่นกดรับเพื่อนเมื่อไหร่ อาจจะแจ็กพอตแตกว่าเอ้า in a relationship กับสาวอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือพีคกว่านั้นก็มีลูกแล้ว อายุเพิ่งเข้าโรงเรียนเลย.... #กุมมือให้กำลังใจ

6. วันเทศกาลสำคัญๆ ไม่เคยได้ฉลอง เขาต้องอ้าง ' ติดธุระ ' ตลอด

ข้อนี้ก็เรียกได้ว่าสัญญาณค่อนข้างชัด ถ้าเป็นไซเรนก็ร้องวี้หว่อๆ จนลำโพงจะแตกแล้วละนะ!

ถ้าตั้งใจจะคบกันอย่างจริงจัง ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ต้องอยู่ด้วยกันทุกเทศกาลสำคัญ วาเลนไทน์ ปีใหม่ คริสต์มาส เพราะวันแบบนี้ใครก็อยากอยู่กับคนพิเศษ แล้วใครจะพิเศษไปกว่าแฟนอีกล่ะ จริงไหม?

แต่ถ้าหนุ่มของเธอชอบบ่ายเบี่ยง บางปีมา บางปีไม่มา หรือพีคสุดคือไม่เคยมาเลยสักปี อ้างเป็นนักธุรกิจพันล้าน ติดธุระนั่นนี่ หรือพ่อป่วย แม่ล้มเจ็บ หมาตายได้ตลอด ให้เธอรอ คอยเก้อจนเป็นเรื่องปกติ

เทศกาลครั้งหน้าลองไปส่องโรงแรมหรู ร้านอาหาร rooftop ดีๆ ที่คู่รักนิยมไปกันสิ อาจจะได้ภาพช็อตเด็ด เป็นหลักฐานดิ้นไม่หลุดก็เป็นได้ ( แต่ก็เตรียมใจไปก่อนด้วยนะ )

7. กลางวันยังพอโทรตามได้ กลางคืนหายเงียบ ไม่เคยรู้ว่าอยู่ที่ไหน

ผู้ชายคนนี้เหมือนสิ่งมีชีวิตที่ปรากฎตัวแค่ตอนกลางวันเท่านั้น พอกลางคืนหายเงียบเป็นป่าช้าเลยจ้า! บางคนแค่ไม่รับ แต่บางคนก็ปิดเครื่องไปเลย เอาล่ะ นี่คือมีพิรุธละ!

พอถึงเวลาที่กำหนด เช่น 6 โมง 1 ทุ่ม จะติดต่อไม่ได้ทันทีไม่ว่าจะพยายามโทร ส่งข้อความแค่ไหนก็ตาม เหมือนตายไปแล้ว แล้วเป็นแบบนี้ทุกวัน ย้ำว่าทุกวัน สิ่งแรกที่เธอควรเอ๊ะคือ' เขาอยู่กับเมียเขาหรือเปล่า '

เพื่อความแน่ใจ หากเป็นผู้ใหญ่ที่แยกบ้านออกมาแล้ว ลองชวนเขามาค้างบ้านบ่อยๆ หรือแกล้งอ้อน ยื้อเวลาให้อยู่จนดึก ' เกินเวลา ' บ่อยๆ แล้วสังเกตกิริยาว่าเขามีความลุกลี้ลุกลนไหม มีอาการอยากจะรีบกลับจนผิดสังเกตหรือไม่

ที่สำคัญดูที่มือถือเขาไว้ว่ามีสายโทรเข้า ข้อความส่งมารัวๆ หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ชัดละว่าเขามีคนรออยู่ที่บ้าน ซึ่งคนจะตามจิกกันเนี่ย ถ้าไม่ใช่แม่ขี้หวง ก็คงเป็นเมียแล้วแหละ #อยู่ดีๆ ก็ได้เป็นชู้ไม่รู้ตัว

------------------------------

จะคบกับผู้ชายสักคนเหมือนซื้อหวย เราไม่รู้เลยว่าเขามีอดีต หรือปัจจุบันอะไรเก็บงำซ่อนอยู่ จะแน่ใจได้ยังไงว่าคนที่เราควงออกหน้าออกตาว่าเป็นแฟน เขาจะมีเราแค่คนเดียว ผู้หญิงอีกคนจะโผล่มาตอนไหนไม่มีใครรู้ บางคนโป๊ะแตกตอนยังเป็นแฟน แต่บางคนมาโป๊ะตอนแต่งงานอยู่กินกันแล้วว่าเราเป็นกิ๊ก เป็นเมียน้อย ก็แอบน่าระแวงและขนลุกอยู่เหมือนกันค่ะ

แต่ทั้งนี้ เราเชื่อว่าผู้ชายถ้าไม่ได้ซื่อสัตย์ ให้ความรักกับเราแค่คนเดียว ยังไงมันก็ต้องมีพิรุธ มีสัญญาณบอกบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งก็คงแฝงอยู่กับ 7 ข้อในบทความนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจจะจริงที่คบกันก็ควรเชื่อใจ แต่ก็คงไม่มีใครอยากโดนสวมเขาหรอกถูกไหม?หากในที่สุดแจ็กพอต แฟนมีคนอื่นจริงๆ และที่สำคัญเขามาก่อน ก็ไม่ต้องหาเหตุผลให้วุ่นวาย ตัดจบแล้วมูฟออนให้ไว จำไว้นะคะ ถ้าเขาใช่ เราคงมาก่อนผู้หญิงคนนั้นไปนานแล้วสำหรับวันนี้เราขอตัวไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้านะคะ บ๊ายบาย

Cr. 10 Telling Signs You Are The Other Woman [youthvillage.co.za]https://www.youthvillage.co.za/2019/07/10-telling-signs-you-are-the-other-woman/