รู้ไว้ก็ไม่เสียหายนะ! รวม 7 วัฒนธรรมการทำงานของ ‘ คนเกาหลี ’ ที่สาวๆ อาจไม่เคยรู้มาก่อน 📌
สาวคนไหนที่ใฝ่ฝันอยากไปทำงานออฟฟิศที่เกาหลี หรือร่วมงานกับบริษัทเกาหลีดูสักครั้ง ก็อย่าลืมแวะมาส่อง 7 วัฒนธรรมการทำงานของ ‘ คนเกาหลี ’ ที่เราหยิบมาแชร์กันวันนี้ดูล่ะ ไม่แน่ว่ามันอาจมีเรื่องที่สาวๆ ไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้
เผยแพร่: 28 เม.ย. 2564 17:00 น.
Views: 11,967
รหัสบทความ: 84086
อันยองฮาเซโย~ ทักทายสาวซิสที่รักทุกคนเลยค่าาา ^^
เราเชื่อว่าสาวๆ คนไหนที่เป็นติ่งเกาหลีตัวจริง หรือชื่นชอบในวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของประเทศเกาหลีมากๆ เธอก็คงจะเคยแอบใฝ่ฝันว่าถ้าได้ไปทำงานออฟฟิศที่ประเทศเกาหลีดูสักครั้ง ก็คงจะทำให้ชีวิตคอมพลีทขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยใช่มั้ยล่ะ???แต่เราขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าชีวิตจริงอาจไม่ได้สวยงามหรือฟรุ้งฟริ้งเหมือนที่เห็นตามซีรีส์เกาหลีเสมอไป เพราะบริษัทเกาหลีส่วนใหญ่เขาเน้นทำงานหนัก จริงจังกับเรื่องการทำงาน แถมยังต้องแบกรับความกดดันที่ค่อนข้างสูงจากหลายๆ ด้านอีกด้วยนะ
วันนี้เราเลยจะพาสาวซิสที่อยากไปทำงานที่ประเทศเกาหลี หรืออยากร่วมงานกับบริษัทเกาหลีไปส่อง7 วัฒนธรรมการทำงานของ ‘ คนเกาหลี ’ ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนเผื่อจู่ๆ มีโอกาสสานฝันได้ไปทำงานกับบริษัทเกาหลีขึ้นมาจริงๆ แบบปุ๊บปั๊บ เธอจะได้รู้ว่าพวกเขามีสังคมการทำงานแบบไหน? ต้องปรับตัวให้เข้ากับบริษัท / เพื่อนร่วมงานยังไง?มามะๆ ถ้าใครพร้อมแล้วก็ตามไปดูด้วยกันได้เลยจ้าาา
⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑
❶ ถ้าฝึกพูดภาษาเกาหลีได้ก็ย่อมได้เปรียบมากกว่า
ถึงแม้ว่าสาวซิสจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเวลาไปสัมภาษณ์งานกับบริษัทเกาหลี แต่ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนร่วมงานในบริษัททุกคนจะพูดคุยกันด้วยภาษาอังกฤษเสมอไปนะเพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่นิยมใช้ภาษาเกาหลีในการสื่อสารระหว่างกันมากกว่า ถ้าสาวๆ ดึงดังจะชวนคุยเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ก็อาจสัมผัสกับความรู้สึกเหมือนกำลังโดนเมินจากเพื่อนร่วมทีมก็เป็นได้ดังนั้น ทางออกที่ง่ายที่สุดสำหรับกำแพงด้านภาษา ก็คือการเข้าคลาสเรียนเพื่อฝึกฝนสกิลภาษาเกาหลีนั่นเองค่ะ ขอบอกเลยนะว่าสำหรับคนที่ทำงานบริษัทเกาหลีแล้วสามารถพูดภาษาเกาหลีได้ ยังไงเธอก็ได้ย่อมได้เปรียบมากกว่าทั้งในเรื่องการทำงานแล้วยังช่วยให้ได้ตีสนิทกับเพื่อนร่วมงานชาวเกาหลีได้ง่ายขึ้นอีกด้วยนะ
❷ เพื่อนร่วมงานมีความใกล้ชิดและสนิทสนมกันมากๆ
ความใกล้ชิดสนิทสนมกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน มันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้การทำงานดำเนินไปได้อย่างไหลลื่นมากขึ้นซึ่งวัฒนธรรมของบริษัทเกาหลีเนี่ย เพื่อนร่วมงานจะมีความสนิทสนมกันมากๆ จนให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกันยังไงยังงั้นเลยละเพราะฉะนั้นสาวซิสก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตีสนิทกับเพื่อนร่วมงานไม่ได้หรอกนะส่วนใหญ่แล้วเพื่อนร่วมทีมก็จะมีการแลก Kakaotalk ID ไว้แชทคุยกัน หรือนัดเจอกันนอกเวลางานเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น นัดไปดื่มโซจูสังสรรค์ นัดกินมื้อเย็น นัดไปเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในช่วงวันหยุด เป็นต้นยิ่งสาวๆ สนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้นเลยนะ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำงานที่บริษัทนั้นๆ แล้ว แต่มิตรภาพที่มีก็ยังคงแน่นแฟ้นไม่เปลี่ยนแน่นอน
❸ ต้องระมัดระวังการเสนอความเห็นกับหัวหน้า
สำหรับวัฒนธรรมตะวันตกส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย หัวหน้า ลูกน้อง เด็กฝึกงาน หรือพนักงานตำแหน่งไหนก็มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับงานได้อย่างเท่าเทียมกันแต่ในวัฒนธรรมการทำงานของคนเกาหลี หากเธอเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆ หรืออายุน้อยสุดในทีม แล้วมีไอเดียดีๆ ที่อยากจะนำเสนอเกี่ยวกับโปรเจกต์ / บริษัท ทางที่ดีก็ควรพูดคุยหรือสอบถามความเห็นกับเพื่อนร่วมงานก่อนที่จะพูดมันออกไปให้หัวหน้าฟังเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วสังคมการทำงานของคนเกาหลีคนที่อายุน้อยกว่ามักจะมีหน้าที่ฟัง ฟัง ฟัง แล้วก็ฟังเพื่อให้รู้ว่าเจ้านายต้องการอะไรหรือถ้าอยากนำเสนอไอเดียไหนจริงๆ ก็อาจจะขอเวลาคุยกับหัวหน้างานเป็นการส่วนตัว ดีกว่าการพูดโพล่งออกไปต่อหน้าทุกคนนะคะ
❹ ทำงานหนักและต้องแบกรับความคาดหวังจากหัวหน้า
สาวๆ คนไหนที่ใฝ่ฝันอยากทำงานกับคนเกาหลีหรือบริษัทเกาหลี ก็ขอให้เธอรู้ไว้เลยนะว่าพวกเขาทำงานหนักและเอาจริงเอาจังกับการทำงานมากๆนอกจากจะต้องทำหน้าที่รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายแล้ว ยังอาจต้องแบบรักความคาดหวัง ( ที่สูงปรี๊ดเป็นยอดเขาเอเวอเรสต์ ) จากหัวหน้าอีกต่างหากอย่างเช่นหากเธอกรอกใบสมัครงานว่ามีความสามารถด้านการทำ Photoshop ในระดับปานกลาง ก็อาจโดนมอบหมายให้ทำงานที่ยากเกิดความสามารถของตัวเองก็เป็นได้เพราะฉะนั้นหลายๆ คนที่เคยทำงานกับบริษัทเกาหลีมาก่อนเลยแนะนำว่า เวลาเขียนเรซูเม่สมัครงานควรใส่ทักษะและความสามารถที่ทำได้จริง หรือถ้าสกิลด้านไหนที่เธออยู่ในระดับพอถูๆ ไถๆ ก็ไม่ต้องใส่มันเข้าไปจะปลอดภัยกว่านะเออ
❺ ลำดับความอาวุโสถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
ทุกคนรู้… แฟนคลับรู้… ประเทศเกาหลีถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับ‘ ลำดับอาวุโส ’มากๆ เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นภายในครอบครัว คนรู้จัก หรือสังคมบริษัทก็ตามโดยพวกเขาจะมีการกระทำหรือการแสดงออกต่อคนที่มีอายุมากกว่าหรือตำแหน่งสูงกว่าที่แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างเช่นเวลาออกไปกินข้าวพร้อมหน้ากันทั้งทีม คนที่อายุน้อยที่สุดหรือมีตำแหน่งงานน้อยกว่า จะต้องทำหน้าที่คอยจัดโต๊ะและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้กับคนอื่นๆ หรือต้องเปิดประตูให้หัวหน้า / รุ่นพี่เดินออกไปก่อนเสมอ หรือลดสปีดการกินข้าวให้ช้าลงเพื่อให้รุ่นพี่ / คนตำแหน่งสูงกว่ากินเสร็จก่อนและลุกออกไปก่อน เป็นต้น
❻ มาก่อนเวลาและเลิกงานให้ช้าหน่อย
หลายคนอาจถือคติที่ว่าต้องเข้างานตรงเวลา แล้วพอถึงเวลาเลิกงานปุ๊บการลุกขึ้นสะพายกระเป๋ากลับบ้านปั๊บ มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือแปลกอะไรตรงไหน…แต่วัฒนธรรมการทำงานของคนเกาหลี ( บางบริษัท ) อาจไม่ได้คิดแบบเดียวกันหรอกนะ เพราะพวกเขาคิดว่าการมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาเข้างาน รวมทั้งเลิกงานกลับบ้านให้ช้าลงหน่อย มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานแต่ถ้าใครที่พอถึงเวลาเลิกงานแล้วรีบลุกกลับบ้านแบบปุ๊บปั๊บไม่ล่ำไม่ลา ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ แต่ก็อาจจะโดนเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานมองด้วยสายตาแปลกๆ ก็ได้นะ#แปลกแต่จริง
❼ การกินข้าว / สังสรรค์คือวิธีผูกมิตรกับคนในบริษัท
เราว่าต้องมีสาวๆ หลายคนที่อยากจะออกไปกินข้าวกลางวันกับคนในทีมแน่ๆ เลยล่ะสิ เพราะบางทีการกินข้าวคนเดียวมันก็แอบรู้สึกเหงาขึ้นมาได้เหมือนกันซึ่งวัฒนธรรมการทำงานของคนเกาหลี ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็มักจะไปกินข้าวด้วยกันยกทีมเป็นประจำเลยนะแล้วการไปกินข้าวหรือสังสรรค์กับคนในทีมเดียวกัน / บริษัทเดียวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะเป็นการกินมื้อเที่ยง มื้อเย็น หรือไปดริ้งค์หลังเลิกงาน มันเป็นช่วงเวลาที่คนในบริษัทจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน แล้วยังได้ผูกมิตรกับคนในบริษัทมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซึ่งปกติแล้วเวลามีนัดสังสรรค์ของบริษัทคนเกาหลีเขามักจะไม่ค่อยปฏิเสธกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าวันไหนมีธุระหรือไม่สะดวกจริงๆ ก็สามารถบอกกล่าวกับคนในทีมตรงๆ ได้เลย
⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑ ⭑
แล้วทั้งหมดนี้ก็คือที่เราหยิบมาแชร์กันวันนี้ทั้ง 7 ข้อค่ะ ถ้าสาวๆ ได้อ่านไปจนครบทุกข้อก็คงมีบ้างที่เธอจะต้องอุทานออกมาว่า‘ ถามจริ๊งงง?! ’เหมือนเราแน่นอนเลยล่ะสิ เพราะวัฒนธรรมบางอย่างของเขาก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเมคเซนส์สักเท่าไหร่
แต่ขอย้ำแรงๆ ตรงนี้อีกครั้งเลยนะว่าวัฒนธรรมหรือสังคมการทำงานที่เราบอกไป อาจพบเจอเพียงแค่บางบริษัทเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าบริษัทเกาหลีทุกแห่งจะต้องป็นแบบเดียวกันไปซะหมดหรอกนะ เพราะบางบริษัทที่ค่อนข้างมีแนวคิดหัวสมัยใหม่ก็เริ่มเปิดกว้างเรื่องความเท่าเทียมมากขึ้นกว่าเดิมแล้วเหมือนกัน…แล้วเพื่อนๆ ละคะเคยเจอประสบการณ์การทำงานกับบริษัทเกาหลี / คนเกาหลีแบบไหนบ้าง??? อย่าลืมแชร์เรื่องราวให้เราฟังบ้างนะ เพราะคนทางนี้รอเผือก เอ๊ยยย! รอฟังอย่างใจจดใจจ่ออยู่ค่าาา
