1. SistaCafe
  2. รีวิว น้ำหอม Jo Malone ตัวดัง VS น้ำหอม Dupe Jo Malone ราคาเบาๆ ที่เค้าว่าเหมือนเป๊ะ!!!

หนึ่งในเทคนิคบริหารเสน่ห์ของสาวๆ คือกลิ่นหอมเพราะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้คนรอบข้างได้อย่างง่ายๆ และน้ำหอมกลิ่นที่ใช่ ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเราได้อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าอยากอัพลุคให้มีบุคลิกแบบไหน แค่เปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมให้ต่างออกไป ความรู้สึกของทั้งผู้ใช้และคนที่ได้กลิ่นก็สัมผัสได้ถึงความไม่เหมือนเดิมแล้ว

อย่างตัวเราเองเมื่อหลายปีก่อนจะชอบน้ำหอมแนวฟลอรัล กลิ่นหวานๆ ไม่ก็แบบฟรุตตี้ สดชื่น ใสๆ แต่พอเข้าวัยทำงานแบบเต็มตัว ต้องพบเจอกับสังคมที่หลากหลายกว่าเดิม จะมาใช้แต่กลิ่นน้ำหอมแนวหวานใสไปตลอดมันก็ไม่ได้ ยิ่งบางครั้งต้องการความน่าเชื่อถือ แบบลุคคลาสซี่ๆ แนวน้ำหอมที่ใช้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ซึ่งแบรนด์ที่ประทับใจแบบยืนหนึ่งเรื่องความหอมนัวแบบมีคลาส แต่ไม่แก่เกินไปเราขอขอยกให้น้ำหอมแบรนด์



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2Fedfe090e-55cc-4ed4-98b9-fa694e537e9f.jpeg?v=20240305113031&ratio=0.669

วันนี้เราเลยจะมารีวิวน้ำหอม Jo Maloneที่เราใช้ประจำ ซึ่งก็คือกลิ่นยอดฮิตEnglish Pear & Freesiaนั่นเอง แต่อย่างที่รู้กันดีว่าค่าตัวของน้ำหอมJo Maloneเนี่ยเค้าแรงมาก ก็เลยจะมีหลายคนพยายามหาน้ำหอม Dupe ที่กลิ่นเหมือนJo Maloneแต่ราคาเบาๆ มาใช้ทดแทนสลับกันไป ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เราก็เลยจะรีวิวน้ำหอมฝาแฝดJo Maloneที่เค้าร่ำลือกันว่า Dupe มาได้เหมือนมาก อีก 2 ตัว จะเป็นตัวไหน ราคาเท่าไหร่และเหมือนเป๊ะขนาดไหน ตามมาดูกัน!


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2F1bfcd4be-def6-4abb-bcb9-c60a6dc729dc.jpeg?v=20240305113032&ratio=0.750

น้ำหอม Jo Malone กลิ่น English Pear & Freesia 100ml. ราคา 5,XXX บาท

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2F0d5ef5d9-dd00-48a7-b07a-5ea0079b989b.jpeg?v=20240305113032&ratio=1.000

สาวๆ ส่วนมากมักเริ่มใช้น้ำหอมของด้วยกลิ่นนี้ เพราะEnglish Pear & Freesiaเป็นความหอมแบบละมุนนุ่มนวลแต่แฝงด้วยความหวานสดใส เหมือนกำลังใส่เดรสยาวสีขาวเรียบหรูแต่กำลังเดินอยู่ในสวนที่เต็มไปด้วยลูกแพร์สดใหม่เต็มต้น ล้อมรอบด้วยช่อดอกฟรีเซียสีขาว ให้เราได้ปล่อยใจไปกับกลิ่นอบอวลที่เสนนุ่มนวลของ amber, patchouli และ wood เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและอ่อนโยน ต้องยอมรับเลยว่าเป็นการผสมกันได้แบบลงตัวและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใครของน้ำหอมจริงๆ

Top Note :King William Pear กลิ่นหอมแสนอร่อยของลูกแพร์อังกฤษ เป็นกลิ่นหอมหวานละมุนละไม

Heart Note :Freesia กลิ่นหอมเย็นบริสุทธิ์แบบอังกฤษจากดอกฟรีเซียสีขาวให้กลิ่นชวนฝันอันบอบบางและแปลกใหม่

Base Note :Patchouli กลิ่นหอมเนื้อไม้ ช่วยปลุกความหอมของกลิ่นหอมทุกตัวให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

Package :ด้านนอกเป็นกล่องสีครีมดำเรียบหรูสุดคลาสสิค ที่จริงมีโบว์สีดำคาดมาด้วย เหมาะกับการซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองมากๆ หรือซื้อให้คนอื่นในโอกาสพิเศษก็รับรองได้ว่าคนรับต้องถูกใจแน่นอน ตัวขวดเป็นแก้วหนาหนัก มีฝาครอบทรงกลมสีเงิน เปิดมาเป็นหัวฉีดสีเงิน ความสวยแบบน้อยแต่มากมันคืออย่างนี้นี่เอง คือแค่หยิบมาใช้ก็มีความสุขแล้วจริงๆ


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2Fe2a469ec-1199-4e05-a05d-d37c5c6e3813.jpeg?v=20240305113032&ratio=1.000ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2F5cea3dbe-602c-44e5-bd74-62af72667d94.jpeg?v=20240305113032&ratio=1.000

กลิ่น :หอมละมุนเหมือนเดินในสวนลูกแพร์แล้วมีกลิ่นดอกฟรีเซียค่อยๆ ลอยมาแซม พอทิ้งซักพักแต่งตัวเสร็จจะได้กลิ่นไม้หอมชัดขึ้นมา ทำให้กลิ่นมันหวานนัวสดชื่นกว่าเดิม คือเค้าไม่ได้หวานแบบกระโตกกระตากหรือกลิ่นสดชื่นโต้งๆ แต่จะค่อยๆ หอมละมุนจนเรารู้สึกว่าวันนี้ตัวเราหอมเป็นพิเศษแตกต่างจากน้ำหอมแบบอื่นที่เคยใช้มาเลย

ความติดทน :3-4 ชม. จางหายแล้ว ยิ่งถ้าไม่ได้อยู่ในห้องแอร์เที่ยงคือกลิ่นหายหมด แต่ด้วยความที่เป็นโคโลญก็เข้าใจได้ หากอยากหอมทั้งวันต้องพกขวดเล็กแล้วฉีดซ้ำเอา

ราคา :100ml. 5,XXX บาท ถ้าคิดว่าใช่ ขวดใหญ่คุ้มสุด แต่พกไปฉีดซ้ำไม่ได้ ลำบากตรงนี้


น้ำหอม MINISO British Pear 30 ml. ราคา 1XX บาท

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2F22def230-cd3c-4ea7-88df-1fa163f1cf5e.jpeg?v=20240305113032&ratio=1.000

ตัวนี้ลองซื้อมาลองเพราะมีคนรีวิวเยอะมากว่าเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นเหมือนJo Maloneแบบสุดๆ แถมราคาก็ถูกจนน่าตกใจ เพราะแบบนี้ถึงหาของยากเย็นกว่าจะหาซื้อได้ต้องไปสั่งตามอินเทอร์เน็ตในราคา 2XXบาท แอบโดนอัพราคาไปอีกแต่ด้วยความอยากลอง ยอมจ่ายค่ะ 555



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2Fce65129f-19c7-45be-b81b-cff6ef8ab2d2.jpeg?v=20240305113032&ratio=1.000ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2F4e696959-c560-4c35-9bf3-e36154894c3a.jpeg?v=20240305113032&ratio=1.000

Package :กล่องสีขาวครีม แบบเปิดหัวท้าย กระดาษบางแบบกล่องทั่วไป มีปั้มนูนลายขวดน้ำหอมอีกฝั่ง เป็นขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมเนื้อหนา ฝาและหัวฉีดสีทอง เรียบๆ เหมือนขวดน้ำหอมทั่วไป

กลิ่น :กลิ่นแรกที่ได้หลังฉีดคือลูกแพรและลิ้นจี่ แต่มีความฉุนแหลมผสมมาด้วย แล้วจึงตามด้วยกลิ่นของฟรีเซียและพีโอนี ซึ่งกลิ่นมันแข็งไม่ละมุนเบาเหมือนกลิ่นน้ำหอมของJo Maloneความฉุนทำให้เราเวียนหัว แต่สุดท้ายกลิ่นที่ค้างบนผิวคือกลิ่น Musk ที่ชัดมาก ส่วนตัวเราว่ากลิ่นคล้ายน้ำหอมJo Maloneอยู่นะแต่ฉุนกว่า และไม่หวานละมุนเท่า

ความติดทน :3-4 ชม. จางหายแล้ว ขวดเขียนว่า Toilet ซึ่งที่จริงควรจะติดทนกว่าน้ำหอมJo Maloneซึ่งเป็นโคโลญนะ ยังดีที่ราคาถูกก็ขยันฉีดบ่อยๆ แทนแต่ความเป็นขวดแก้วก็จะพกแล้วหนักนิดนึง

ราคา :30ml.  2XX บาท ถูกมากแต่ต้องฉีดซ้ำบ่อยมากๆ ถ้าอยากให้กลิ่นติดทั้งวัน


น้ำหอม Jo Collection กลิ่น English Pear & Freesia 18ml. ราคา 4XX บาท

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2Fde935a74-a123-4754-a202-177a7fd716db.jpeg?v=20240305113033&ratio=1.000

อันนี้สั่งมาลองเพราะเพื่อนแนะนำว่าเหมือนน้ำหอมJo Maloneกลิ่นโปรดของเรามากๆ และที่สำคัญติดทนกว่าแบบหอมข้ามวันเพราะเค้าใช้หัวน้ำหอมนำเข้าเองจากฝรั่งเศส ตอนแรกเห็นราคาก็คิดนิดนึงนะเพราะไม่ได้ถูกเวอร์เหมือน MINISO แต่พอเห็นแพ็กเกจเท่านั้นแหละ โดนตกเลยค่ะ โอนเลยอยากลอง!


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2Fcd13f90d-d0f1-48e9-9148-1f4a94185351.jpeg?v=20240305113033&ratio=1.000ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2F9b22d3b6-969e-42fb-a862-9c52b3872fb7.jpeg?v=20240305113033&ratio=1.000

Package :กล่องสวยมาก ถอดแบบต้นฉบับน้ำหอมJo Maloneมาเลยแต่ขนาดเล็กกว่าและไม่มีโบว์คาด คุณภาพกล่องหนา งานดีสีสวยซื้อเป็นของขวัญได้เลย แต่ที่ชอบสุดคือขวดน้ำหอมของ Jo เค้าดีไซด์มาดีมาก น้ำหนักเบา พกสะดวก ใช้งานง่ายแค่หมุนก็จะเจอหัวฉีด ละอองฟุ้งละเอียดมากด้วย แล้วสีขวดสวยเมทัลลิคแบบผู้ดี ควักมาฉีดทำให้ดูสวยแพงไปอีก

กลิ่น :กลิ่นแรกที่ได้หลังฉีดคือความหวานหอมของลูกแพร์ กลิ่นจะมีความสตรองกว่าน้ำหอมของJo Maloneนิดนึงแต่ไม่ฉุนเหมือน MINISO แล้วพอกลิ่นดอกฟรีเซียแทรกเข้ามาคือหอมละมุนเลย กลิ่นคล้ายมาก ปิดท้ายด้วยกลิ่นของไม้หอมอย่าง Patchouli คือ เป๊ะ ความต่างนิดเดียวคือกลิ่นมีความเข้มข้นกว่า นี่เราลองฉีดสลับเพื่อนจับไม่ได้นะ ถือว่าน้ำหอม Jo ทำได้ดีมากเลย

ความติดทน :8 ชม. ขึ้นไป ติดทนมาก คือเช้าอีกวันเก็บเสื้อไปซักยังมีกลิ่นติดจางๆ ฉีดเช้าครั้งเดียวติดทนยาวยันเย็น พกไปจะฉีดเพิ่มเลยไม่เคยได้เติมกับเค้าเลย สมกับที่เคลมว่าเป็น Perfume ติดทนของจริง

ราคา :18ml. 4XXบาท ราคาเหมือนแรง แต่ความติดทนทำให้ขวดนึงใช้ได้นานมาก คุ้มค่าค่ะ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F87609%2F010ff57f-f4ee-45ca-a268-7f827f52030d.jpeg?v=20240305113033&ratio=1.000

ใครที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นหวานละมุน แบบมีคลาส ฉีดแล้วได้ลุคเรียบหรูดูแพงแต่แฝงด้วยความอ่อนหวานแบบไม่เลี่ยน ใช้ได้ทุกวัน ทุกโอกาส แนะนำให้ลองใช้น้ำหอมJo Maloneกลิ่นEnglish Pear & Freesiaดูนะคะ หรือถ้าราคาแรงเกินไปก็ลองเลือกน้ำหอมที่Dupe Jo Maloneราคาเบาๆ อย่างน้ำหอมทั้ง 2ตัวที่เรานำมารีวิว มาทดลองใช้แทนดูก็ได้

หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำหอมของเพื่อนๆ นะคะ ^^

See You!


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้