หนึ่งในเทคนิคบริหารเสน่ห์ของสาวๆ คือกลิ่นหอมเพราะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้คนรอบข้างได้อย่างง่ายๆ และน้ำหอมกลิ่นที่ใช่ ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเราได้อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าอยากอัพลุคให้มีบุคลิกแบบไหน แค่เปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมให้ต่างออกไป ความรู้สึกของทั้งผู้ใช้และคนที่ได้กลิ่นก็สัมผัสได้ถึงความไม่เหมือนเดิมแล้ว

อย่างตัวเราเองเมื่อหลายปีก่อนจะชอบน้ำหอมแนวฟลอรัล กลิ่นหวานๆ ไม่ก็แบบฟรุตตี้ สดชื่น ใสๆ แต่พอเข้าวัยทำงานแบบเต็มตัว ต้องพบเจอกับสังคมที่หลากหลายกว่าเดิม จะมาใช้แต่กลิ่นน้ำหอมแนวหวานใสไปตลอดมันก็ไม่ได้ ยิ่งบางครั้งต้องการความน่าเชื่อถือ แบบลุคคลาสซี่ๆ แนวน้ำหอมที่ใช้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ซึ่งแบรนด์ที่ประทับใจแบบยืนหนึ่งเรื่องความหอมนัวแบบมีคลาส แต่ไม่แก่เกินไปเราขอขอยกให้น้ำหอมแบรนด์

รูปภาพ:https://image.makewebeasy.net/makeweb/0/2oMxoCwlB/PF/loip8hu9.jpg?v=202012190947

วันนี้เราเลยจะมารีวิวน้ำหอม Jo Maloneที่เราใช้ประจำ ซึ่งก็คือกลิ่นยอดฮิตEnglish Pear & Freesiaนั่นเอง แต่อย่างที่รู้กันดีว่าค่าตัวของน้ำหอมJo Maloneเนี่ยเค้าแรงมาก ก็เลยจะมีหลายคนพยายามหาน้ำหอม Dupe ที่กลิ่นเหมือนJo Maloneแต่ราคาเบาๆ มาใช้ทดแทนสลับกันไป ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น เราก็เลยจะรีวิวน้ำหอมฝาแฝดJo Maloneที่เค้าร่ำลือกันว่า Dupe มาได้เหมือนมาก อีก 2 ตัว จะเป็นตัวไหน ราคาเท่าไหร่และเหมือนเป๊ะขนาดไหน ตามมาดูกัน!

รูปภาพ:

น้ำหอม Jo Malone กลิ่น English Pear & Freesia 100ml. ราคา 5,XXX บาท

รูปภาพ:

สาวๆ ส่วนมากมักเริ่มใช้น้ำหอมของด้วยกลิ่นนี้ เพราะEnglish Pear & Freesiaเป็นความหอมแบบละมุนนุ่มนวลแต่แฝงด้วยความหวานสดใส เหมือนกำลังใส่เดรสยาวสีขาวเรียบหรูแต่กำลังเดินอยู่ในสวนที่เต็มไปด้วยลูกแพร์สดใหม่เต็มต้น ล้อมรอบด้วยช่อดอกฟรีเซียสีขาว ให้เราได้ปล่อยใจไปกับกลิ่นอบอวลที่เสนนุ่มนวลของ amber, patchouli และ wood เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและอ่อนโยน ต้องยอมรับเลยว่าเป็นการผสมกันได้แบบลงตัวและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใครของน้ำหอมจริงๆ

Top Note :King William Pear กลิ่นหอมแสนอร่อยของลูกแพร์อังกฤษ เป็นกลิ่นหอมหวานละมุนละไม

Heart Note :Freesia กลิ่นหอมเย็นบริสุทธิ์แบบอังกฤษจากดอกฟรีเซียสีขาวให้กลิ่นชวนฝันอันบอบบางและแปลกใหม่

Base Note :Patchouli กลิ่นหอมเนื้อไม้ ช่วยปลุกความหอมของกลิ่นหอมทุกตัวให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

Package :ด้านนอกเป็นกล่องสีครีมดำเรียบหรูสุดคลาสสิค ที่จริงมีโบว์สีดำคาดมาด้วย เหมาะกับการซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองมากๆ หรือซื้อให้คนอื่นในโอกาสพิเศษก็รับรองได้ว่าคนรับต้องถูกใจแน่นอน ตัวขวดเป็นแก้วหนาหนัก มีฝาครอบทรงกลมสีเงิน เปิดมาเป็นหัวฉีดสีเงิน ความสวยแบบน้อยแต่มากมันคืออย่างนี้นี่เอง คือแค่หยิบมาใช้ก็มีความสุขแล้วจริงๆ

รูปภาพ:รูปภาพ:

กลิ่น :หอมละมุนเหมือนเดินในสวนลูกแพร์แล้วมีกลิ่นดอกฟรีเซียค่อยๆ ลอยมาแซม พอทิ้งซักพักแต่งตัวเสร็จจะได้กลิ่นไม้หอมชัดขึ้นมา ทำให้กลิ่นมันหวานนัวสดชื่นกว่าเดิม คือเค้าไม่ได้หวานแบบกระโตกกระตากหรือกลิ่นสดชื่นโต้งๆ แต่จะค่อยๆ หอมละมุนจนเรารู้สึกว่าวันนี้ตัวเราหอมเป็นพิเศษแตกต่างจากน้ำหอมแบบอื่นที่เคยใช้มาเลย

ความติดทน :3-4 ชม. จางหายแล้ว ยิ่งถ้าไม่ได้อยู่ในห้องแอร์เที่ยงคือกลิ่นหายหมด แต่ด้วยความที่เป็นโคโลญก็เข้าใจได้ หากอยากหอมทั้งวันต้องพกขวดเล็กแล้วฉีดซ้ำเอา

ราคา :100ml. 5,XXX บาท ถ้าคิดว่าใช่ ขวดใหญ่คุ้มสุด แต่พกไปฉีดซ้ำไม่ได้ ลำบากตรงนี้

น้ำหอม MINISO British Pear 30 ml. ราคา 1XX บาท

รูปภาพ:

ตัวนี้ลองซื้อมาลองเพราะมีคนรีวิวเยอะมากว่าเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นเหมือนJo Maloneแบบสุดๆ แถมราคาก็ถูกจนน่าตกใจ เพราะแบบนี้ถึงหาของยากเย็นกว่าจะหาซื้อได้ต้องไปสั่งตามอินเทอร์เน็ตในราคา 2XXบาท แอบโดนอัพราคาไปอีกแต่ด้วยความอยากลอง ยอมจ่ายค่ะ 555


รูปภาพ:รูปภาพ:

Package :กล่องสีขาวครีม แบบเปิดหัวท้าย กระดาษบางแบบกล่องทั่วไป มีปั้มนูนลายขวดน้ำหอมอีกฝั่ง เป็นขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมเนื้อหนา ฝาและหัวฉีดสีทอง เรียบๆ เหมือนขวดน้ำหอมทั่วไป

กลิ่น :กลิ่นแรกที่ได้หลังฉีดคือลูกแพรและลิ้นจี่ แต่มีความฉุนแหลมผสมมาด้วย แล้วจึงตามด้วยกลิ่นของฟรีเซียและพีโอนี ซึ่งกลิ่นมันแข็งไม่ละมุนเบาเหมือนกลิ่นน้ำหอมของJo Maloneความฉุนทำให้เราเวียนหัว แต่สุดท้ายกลิ่นที่ค้างบนผิวคือกลิ่น Musk ที่ชัดมาก ส่วนตัวเราว่ากลิ่นคล้ายน้ำหอมJo Maloneอยู่นะแต่ฉุนกว่า และไม่หวานละมุนเท่า

ความติดทน :3-4 ชม. จางหายแล้ว ขวดเขียนว่า Toilet ซึ่งที่จริงควรจะติดทนกว่าน้ำหอมJo Maloneซึ่งเป็นโคโลญนะ ยังดีที่ราคาถูกก็ขยันฉีดบ่อยๆ แทนแต่ความเป็นขวดแก้วก็จะพกแล้วหนักนิดนึง

ราคา :30ml.  2XX บาท ถูกมากแต่ต้องฉีดซ้ำบ่อยมากๆ ถ้าอยากให้กลิ่นติดทั้งวัน

น้ำหอม Jo Collection กลิ่น English Pear & Freesia 18ml. ราคา 4XX บาท

รูปภาพ:

อันนี้สั่งมาลองเพราะเพื่อนแนะนำว่าเหมือนน้ำหอมJo Maloneกลิ่นโปรดของเรามากๆ และที่สำคัญติดทนกว่าแบบหอมข้ามวันเพราะเค้าใช้หัวน้ำหอมนำเข้าเองจากฝรั่งเศส ตอนแรกเห็นราคาก็คิดนิดนึงนะเพราะไม่ได้ถูกเวอร์เหมือน MINISO แต่พอเห็นแพ็กเกจเท่านั้นแหละ โดนตกเลยค่ะ โอนเลยอยากลอง!

รูปภาพ:รูปภาพ:

Package :กล่องสวยมาก ถอดแบบต้นฉบับน้ำหอมJo Maloneมาเลยแต่ขนาดเล็กกว่าและไม่มีโบว์คาด คุณภาพกล่องหนา งานดีสีสวยซื้อเป็นของขวัญได้เลย แต่ที่ชอบสุดคือขวดน้ำหอมของ Jo เค้าดีไซด์มาดีมาก น้ำหนักเบา พกสะดวก ใช้งานง่ายแค่หมุนก็จะเจอหัวฉีด ละอองฟุ้งละเอียดมากด้วย แล้วสีขวดสวยเมทัลลิคแบบผู้ดี ควักมาฉีดทำให้ดูสวยแพงไปอีก

กลิ่น :กลิ่นแรกที่ได้หลังฉีดคือความหวานหอมของลูกแพร์ กลิ่นจะมีความสตรองกว่าน้ำหอมของJo Maloneนิดนึงแต่ไม่ฉุนเหมือน MINISO แล้วพอกลิ่นดอกฟรีเซียแทรกเข้ามาคือหอมละมุนเลย กลิ่นคล้ายมาก ปิดท้ายด้วยกลิ่นของไม้หอมอย่าง Patchouli คือ เป๊ะ ความต่างนิดเดียวคือกลิ่นมีความเข้มข้นกว่า นี่เราลองฉีดสลับเพื่อนจับไม่ได้นะ ถือว่าน้ำหอม Jo ทำได้ดีมากเลย

ความติดทน :8 ชม. ขึ้นไป ติดทนมาก คือเช้าอีกวันเก็บเสื้อไปซักยังมีกลิ่นติดจางๆ ฉีดเช้าครั้งเดียวติดทนยาวยันเย็น พกไปจะฉีดเพิ่มเลยไม่เคยได้เติมกับเค้าเลย สมกับที่เคลมว่าเป็น Perfume ติดทนของจริง

ราคา :18ml. 4XXบาท ราคาเหมือนแรง แต่ความติดทนทำให้ขวดนึงใช้ได้นานมาก คุ้มค่าค่ะ

รูปภาพ:https://m.jomalone-me.com/media/export/cms/27793/TW_D_20_JO_MALONE_SHOT_03_0033_V1.jpg

ใครที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นหวานละมุน แบบมีคลาส ฉีดแล้วได้ลุคเรียบหรูดูแพงแต่แฝงด้วยความอ่อนหวานแบบไม่เลี่ยน ใช้ได้ทุกวัน ทุกโอกาส แนะนำให้ลองใช้น้ำหอมJo Maloneกลิ่นEnglish Pear & Freesiaดูนะคะ หรือถ้าราคาแรงเกินไปก็ลองเลือกน้ำหอมที่Dupe Jo Maloneราคาเบาๆ อย่างน้ำหอมทั้ง 2ตัวที่เรานำมารีวิว มาทดลองใช้แทนดูก็ได้

หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำหอมของเพื่อนๆ นะคะ ^^

See You!