รวม 7 วิธี Restart ร่างกายง่ายๆ Stop ความเหนื่อยล้า ให้ร่างกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

เราเชื่อว่าปีนี้ เป็นปีที่หนักมากสำหรับหลายๆ คน กว่าจะยืนหยัดได้ทีนึง ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ ที่เราจะผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้ และนี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ เองก็หวังว่าปีหน้าจะมีอะไรดีๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง หรือความเป็นอยู่น่าจะดีขึ้นกว่านี้บ้าง คิดแบบนี้กันอยู่ใช่มั้ย อย่าหวังอะไรให้มานักเลยค่ะ แค่ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องคาดหวัง แล้วมีความสุขกับสิ่งที่ทำและทุกๆ วันก็พอแล้วอะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด ไม่ใช่เราคนเดียวที่ต้องทนทุกข์ ทุกคนก็เจอปัญหาทั้งนั้นแหละ วันนี้เรามี7 วิธี Restart ร่างกายง่ายๆstop ความเหนื่อยล้า ให้ร่างกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งวิธีคิดบวกและการคิดอย่างมีเหตุและผลที่จะช่วยรีบูตความท้อแท้ ให้กลับมามีพลังมากยิ่งขึ้นจะมีวิธีแบบไหนบ้าง ไปอ่านพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

1. เหนื่อยก็พัก แต่อย่าเพิ่งท้อ

ทุกครั้งเวลาที่เราเหนื่อย เรามักจะรู้สึกท้อ บางทีก็ดูเหมือนหมดอะไรตายอยาก เหมือนจิตวิญญาณสูญหาย เป็นกันใช่มั้ยคะ ความเหนื่อยล้า มันเกิดขึ้นกับทุกคนนั่นแหละ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกยอมแพ้หรือสู้ต่อไป ถ้าคุณเลือกที่จะยอมแพ้ คุณก็จะคิดแค่ว่า ชีวิตนี้มันไร้ค่า แต่ถ้าคุณคิดที่จะสู้ แม้จะเหนื่อยแค่ไหน ยังไงความสำเร็จมันก็ต้องเกิดขึ้นสักวัน คนเราถ้าไม่ลองพยายามดูสักครั้ง แล้วเราจะได้สิ่งที่เราวาดหวังเอาไว้มาได้ยังไง วันนี้เหนื่อยก็พัก พักให้หายเหนื่อย รีบูตส์ตัวเองให้สดใส ให้มีแรงขึ้น เมื่อหายแล้ว ค่อยกลับมาเริ่มสู้กันใหม่ อย่าเพิ่งตัดใจท้อและยอมแพ้ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ ยังไงสักวันก็ต้องเป็นวันของเรา!

2. ไม่จำเป็นต้องทำเพื่อใครมากมายขนาดนั้น

วันนี้คุณใช่คนที่ทำเพื่อคนอื่นมากมาย จนลืมให้ความสำคัญกับความรู้สึกและความต้องการของตัวเองรึเปล่า ถ้าใช่ คุณคงจะเป็นคนนึงที่เหนื่อยและน่าสงสารมาก รู้มั้ย คุณไม่สามารถทำให้ใครพอใจหรือชอบคุณได้ทั้งหมดหรอก สิ่งที่คุณคิดว่าดี บางทีอาจจะไม่ถูกใจคนอื่นก็ได้ ยิ่งคุณคาดหวัง และพยายามทำเพื่อคนอื่นมากเท่าไร นั่นจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกกดดันตัวเองมากขึ้น แล้วถ้าสิ่งที่คุณคาดหวังไม่เป็นอย่างที่หวัง คุณอาจจะยิ่งเสียใจและรู้สึกนอยด์ด้วย ไม่ดีเลยว่ามั้ย เพราะงั้นอย่าไปคาดหวังหรือพยายามทำเพื่อใคร เพียงเพราะต้องการให้เขาเหล่านั้นพอใจหรือยอมรับคุณ รวมทั้งอย่าเก็บคำพูดแย่ๆ ของคนอื่นมาใส่ใจด้วย ทำแค่หน้าที่ของเราและเห็นค่าคนที่เขาเห็นค่าเราเท่านั้นก็พอ โอเค!

3. ให้รางวัลตัวเองสักหน่อย ก็ไม่เสียหาย

อุส่าทำงานอย่างเหนื่อยยากมาตลอดทั้งปี ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะดีไปกว่าช่วงเวลานี้อีกแล้ว ปีใหม่นี้ลองซื้ออะไรที่อยากได้ ทำอะไรที่อยากทำดู เพื่อเป็นการให้ของขวัญและตอบแทนตัวเอง ที่อุตส่าห์เหน็ดเหนื่อย และต่อสู้กับอะไรหลายๆ อย่างมาตลอด แค่ครั้งเดียว ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยๆ มันก็เป็นการช่วยเพิ่มพลังและกำลังใจดีๆ ให้กับตัวเองได้นะ

4. อย่าเก็บเรื่องเก่าๆ มาคิดมาก

บางทีการเก็บทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ มาคิดมาก อาจทำให้สุขภาพจิตของเราอ่อนแอลงได้นะ คนคนนึงจะคิดเรื่องทุกเรื่องไปพร้อมๆ กันได้ยังไง เรื่องบางเรื่อง เมื่อมันผ่านไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ อย่ามัวแต่คิดมากและยึดติด จนทำให้ชีวิตของตัวเองก้าวไปต่อไม่ได้เลย ลองหัดแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน แล้วค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเรื่อง เรื่องไหนไม่สำคัญหรือเล็กน้อย ทิ้งได้ก็ทิ้ง อดีตหรือปัญหาบางอย่าง อาจจะไม่ได้สำคัญมากพอที่เราจะเอามันมาฝังไว้ในใจ แล้วปล่อยให้มาทำลายชีวิตเรานะ เพราะงั้นลองคัดกรองดู ค่อยๆ คิด เดี๋ยวคุณก็หาทางออกให้กับปัญหาที่เจอได้ เชื่อซิ!

5. หยุดทำหน้าเครียด แล้วหัดยิ้มให้มากๆ

เพราะสีหน้าของคุณไง ที่ทำให้ใครต่อใครไม่กล้าเข้าใกล้ หน้าเครียดๆ คิ้วขมวดๆ แบบนี้ไง ที่ทำให้ชีวิตของคุณดูไม่มีความสุขเลยสักนิด นี่! อยากมีความสุข ก็ต้องยิ้มให้มากๆ หน่อยซิ รอยยิ้ม การเข้าสังคม มีเพื่อนพูดคุย ไปสังสรรค์ หรือการทำเรื่องสนุกๆ มันจะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปได้ ความสุขเล็กๆ นี้ จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณมีสีสันขึ้น อย่างน้อยๆ มันก็ช่วยให้ความหมองมนในชีวิตของคุณดูเบาลงได้บ้าง การได้เติมเต็มความสุขให้กับตัวเอง จะช่วยทำให้ความเหนื่อยล้าและความท้อแท้ที่มีเจือจางลงได้บ้าง ไม่มากก็น้อย เรามั่นใจ

6. ปีนี้พลาดอะไรไป ไม่เป็นไร ตั้งเป้าหมายใหม่ได้เสมอ

ในปีนี้ เพื่อนๆ อาจจะไม่สมหวังหรือทำบางอย่างผิดพลาดไป ไม่เป็นไรค่ะ คนเรามันผิดพลาดกันได้เสมอ ปีนี้อาจจะพลาด ก็ไม่เห็นจะต้องท้อหรือยอมแพ้หนิ ปีหน้าเริ่มใหม่ได้ ตั้งเป้าหมายใหม่หรือจะเริ่มต้นใหม่ก็ได้ โอกาสมันมีเข้ามาให้คนที่ต้องการมันเสมอแหละค่ะ อยู่ที่ว่าเราจะไขว่คว้ามันเอาไว้รึเปล่าเท่านั้นเอง ลุกขึ้นสู้ และมาลองพยายามอีกครั้งเถอะ!

7. มองเห็นคุณค่าของตัวเองให้มากขึ้นกันเถอะ!

ช่วงเวลาที่ผ่านมา เราเชื่อว่าเพื่อนๆ อาจจะเจออะไรมาเยอะ จนทำให้คุณรู้สึกว่าคุณค่าในตัวเองลดลง คำด่า คำนินทา การงานที่ไม่เป็นไปอย่างที่หวัง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มันบันทอนความรู้สึกและความภาคภูมิใจในตัวเองของเราไปเยอะเลยนะ เพราะงั้นวันนี้เรามาเริ่มมองเห็นคุณค่าของตัวเองและสิ่งที่ตัวเองทำกันเถอะค่ะ อย่าด้อยค่าตัวเอง งาน หรือสิ่งที่คุณทำ คนเราทุกคน งานทุกงาน ล้วนมีคุณค่า เพียงแค่เราต้องมองให้เห็น คำพูดของคนอื่นมันก็เป็นแค่ลมปาก ถ้าวันนี้เราภูมิใจและทำทุกอย่างได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่เห็นจะต้องรู้สึกไม่ดีเลย ลองคิดบวก ลองภูมิในตัวเองดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้น อย่าไปเอาคำพูดหรือคำนินทาของคนอื่นมากใส่ใจ ปัจจัยสำคัญคือตัวเรา คนที่เรารัก ความรับผิดชอบและความสุขของตัวเราเอง คำพูดของคนอื่นยังไงมันก็แค่คำพูดที่พร้อมจะทำลายเรา ถ้าเราฟังหูไว้หู ไม่หยิบมันเอามามีบทบาทในชีวิต ก็ไม่มีใครทำอะไรเราได้หรอกค่ะ

ลองหยิบวิธีที่เราหยิบมาแนะนำในวันนี้ ไปปรับใช้กันดูได้ เอาจริงๆ คุณจะมีความสุขได้มั้ย มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณด้วย ว่าคุณอยากจะเปิดรับความสุขมากกว่าความทุกข์รึเปล่า แม้เวลานี้ สถานการณ์บ้านเมือง รวมไปถึงเศรษฐกิจมันจะไม่ได้ดีอะไรมาก แต่อย่าเพิ่งท้อ สู้ก่อนสิคะ สักวันอะไรๆ มันจะต้องดีขึ้นกว่านี้แน่นอนสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย