เพลินไปไม่ดี! 🌕 บอกต่อวิธีกิน " ขนมไหว้พระจันทร์ " ยังไงให้ " ไม่อ้วน " พร้อมเคล็ดลับการเบิร์นออก!
ใกล้เทศกาลไหว้พระจันทร์เข้ามาทุกที สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ " ขนมไหว้พระจันทร์ " นั่นเอง แต่อย่างว่านะคะ ขนมไหว้พระจันทร์ก็เป็นของหวานชนิดนึง ถ้ากินมากไปคงอ้วนแน่ ๆ งั้นเรามาดูทริคดี ๆ ในการกินยังไงไม่ให้อ้วนดีกว่า!
เผยแพร่: 9 ก.ย. 2565 13:00 น.
Views: 1,833
รหัสบทความ: 91786
ช่วงนี้ก็ใกล้เข้าสู่เทศกาลไหว้พระจันทร์กันแล้ว~ หลาย ๆ ร้านก็เริ่มทำขนมไหว้พระจันทร์ออกมาวางขายกันเต็มไปหมด แถมยังมีกล่องน่ารัก ๆ อีกด้วย เหมาะจะซื้อเป็นของฝากสุด ๆ เลยละค่ะ แต่บางบ้านก็อาจจะซื้อมาเพื่อใช้ในการไหว้พระจันทร์เอง ซึ่งไม่ว่าจะทางไหนบ้านที่มีเชื้อสายจีนก็น่าจะได้กิน' ขนมไหว้พระจันทร์ 'แน่นอนเลยใช่ไหมละคะ ในเรื่องของรสชาติแน่นอนว่าของหวานมันอร่อยถูกใจอยู่แล้ว แต่ว่าถ้ากินมากไปมันก็อาจจะทำให้เรามีพุงน้อย ๆ ยื่นออกมาหรืออาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ รู้แบบนี้แล้วเนี่ย ใครไม่อยากอ้วนขึ้นก็มาเจาะเรื่องของขนมไหว้พระจันทร์กันดีกว่าว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ไส้ไหนให้พลังงานเท่าไหร่ แล้วต้องออกกำลังกายยังไงถึงจะเผาผลาญหมด มีทริคในการกินไหม พร้อมแล้วก็เลื่อนมาดูกันเลยค่า ♥
☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾
มารู้จักที่มาของ ' ขนมไหว้พระจันทร์ ' กันก่อนเล้ย!
ก่อนจะไปรู้ว่าแต่ละไส้ให้พลังงานเท่าไหร่ กินยังไงไม่ให้อ้วน ก็มาดูที่มาของขนมไหว้พระจันทร์กันก่อนเลยค่าขนมไหว้พระจันทร์ หรือ ขนมเอี้ยปิ่งใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ ซึ่งมีความหมายว่าความพรั่งพร้อม ความสมบูรณ์และความสมหวังนั่นเอง ตำนานนี้เล่าต่อกันมาว่ายุคปลายราชวงศ์หยวนของจีน ชาวฮั่นถูกปกครองอย่างกดขี่จากชาวมองโกล จนวันนึงชาวฮั่นทนไม่ไหว ต้องการก่อกบฏต่อต้าน เลยแอบสอดสาส์นที่สื่อว่าให้สังหารทหารมองโกลไว้ในขนมเอี้ยปิ่งแล้วไป แจกจ่ายให้กับชาวบ้านทุก ๆ คน จึงทำให้ชาวฮั่นได้เอกราชกลับคืนมาอีกครั้ง ชาวจีนก็เลยยึดวันเพ็ญเดือน 8 เป็นวันไหว้พระจันทร์และก็จะกินขนมไหว้พระจันทร์เพื่อระลึกถึงวีรชนที่ช่วยชาติไว้นั่นเอง นี่เป็น 1 ในความเชื่อเท่านั้นนะคะ ความเชื่อในวันไหว้พระจันทร์ยังมีอีกเยอะมาก ๆ
' ขนมไหว้พระจันทร์ ' มีส่วนผสมอะไรบ้างนะ แล้วให้พลังงานเยอะรึเปล่า?
รู้ที่มาไปแล้ว งั้นมาดูส่วนผสมของขนมไหว้พระจันทร์กันดีกว่า! อย่างที่เห็นนะคะว่าขนมไหว้พระจันทร์ก็จะต้องมีแป้ง ซึ่งแป้งนั้นทำจากแป้งคัพเค้กที่ผสมกับน้ำตาลทรายแดง น้ำเชื่อม น้ำมะนาว เบกกิ้งโซดาและน้ำเปล่า ส่วนไส้ก็มีวิธีทำแตกต่างกันไปนะคะ แต่ก็จะมีแป้ง มีน้ำตาลผสมอยู่ด้วยซะส่วนใหญ่แล้ว 2 อย่างนี้เป็นวัตถุดิบตัวดีที่ให้พลังงานเยอะมาก ๆ ก็เลยทำให้ขนมไหว้พระจันทร์มีแคลอรีสูงถึง 614 - 772 กิโลแคลอรีซึ่งมากกว่าผัดไทยกุ้งสด กะเพราไก่ไข่ดาว ข้าวผัดหมูและเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว 1 จานซะอีกค่ะ แม้จะแบ่งเป็น 6 ส่วนไว้ทานทีละ1 ชิ้นก็ยังให้พลังงานประมาณ 96 - 120 กิโลแคลอรีทีเดียว ถ้าใครอยากทานแนะนำว่าแบ่งทานที 1 ชิ้นจะโอเคที่สุดค่ะ
แล้วแต่ละไส้ของ ' ขนมไหว้พระจันทร์ ' ให้พลังงานกี่กิโลแคลอรี ?
ในปัจจุบันขนมไหว้พระจันทร์มีหลายไส้มาก ๆ นะคะ แต่ขอยกไส้ที่คนนิยมกินมาประมาณ 6 ไส้ โดยเราจะไล่จากไส้ที่ให้พลังงานมากที่สุดไปยันน้อยที่สุดนะคะ
• ไส้โหงวยิ้งให้พลังงาน 722 กิโลแคลอรี
• ไส้เมล็ดบัวไข่เค็มให้พลังงาน 677 กิโลแคลอรี
• ไส้ทุเรียนไข่เค็มให้พลังงาน 673 กิโลแคลอรี
• ไส้เมล็ดบัวให้พลังงาน 646 กิโลแคลอรี• ไส้ทุเรียนให้พลังงาน 640 กิโลแคลอรี
• ไส้พุทราให้พลังงาน 577 กิโลแคลอรีขนาดไส้พุทราที่ให้พลังงานน้อยที่สุดแล้วก็ยังถือว่าเยอะมากอยู่เลยนะคะ ถ้าใครจะกินก็ลองมาดูทริคการกินยังไงไม่ให้อ้วนกันเล้ย!
มีทริคในการกิน ' ขนมไหว้พระจันทร์ ' ไม่ให้อ้วนไหม ?
กินแล้วอ้วน แต่ใจมันก็ยังจะแบบอยากกินอะเนอะ งั้นมาดูทริคดี ๆ ในการกินขนมไหว้พระจันทร์ยังไงไม่ให้อ้วนกันเลย รับรองว่าได้ทั้งอิ่มอร่อย แล้วก็ไม่อ้วนด้วย
1. แบ่งกินทีละนิด: อาจจะผ่ากินทีละ 1/6 ส่วน หรือ 2/6 ส่วนต่อวันก็พอนะคะ
2. ถ้าอยากกินทั้งชิ้นให้กินแทนมื้ออาหารไปเลย: เพราะ 1 ชิ้นให้แคลอรีเยอะมากนะคะ ถ้ากินขนมด้วย กินข้าวด้วยอาจจะให้พลังงานมากเกินไปค่ะ
3. ไม่กินคู่กับของหวานหรือกินของหวานตาม: ของหวานให้พลังงานเยอะมากนะคะ ถ้ากินของที่ให้พลังงานเยอะหลาย ๆ อย่างก็จะทำให้อ้วนได้นั่นเอง
4. เลือกทานแบบหวานน้อย: ช่วยลดเรื่องแคลอรีในขนมไหว้พระจันทร์ได้ด้วยน้า
5. กินแล้วก็ต้องเบิร์นออกด้วย: กินแล้วไม่อยากอ้วนก็ต้องออกกำลังกาย เผาผลาญออกไปด้วยน้า
ซึ่งถ้าใครอยากเบิร์นออกละก็เลื่อนลงมาดูกันเลยค่ะว่าแต่ละไส้เนี่ยต้องออกกำลังกายแบบไหน ใช้เวลากี่นาที!
งั้นถ้ากิน ' ขนมไหว้พระจันทร์ ' ต้องออกกำลังกายยังไงบ้าง?
ขนมไหว้พระจันทร์แต่ละไส้ให้พลังงานไม่เท่ากัน ดังนั้นเนี่ยการออกกำลังกายก็จะออกไม่เท่ากันเช่นกันค่ะ โดยแต่ละไส้ต้องเผาผลาญตามนี้เล้ย
• ไส้โหงวยิ้งให้พลังงาน 722 กิโลแคลอรี
- เดิน : 175 นาที ( ประมาณ 3 ชั่วโมง )
- วิ่ง : 80 นาที ( 1 ชั่วโมง 20 นาที )-
ว่ายน้ำ : 60 นาที ( 1 ชั่วโมง )
• ไส้เมล็ดบัวไข่เค็มให้พลังงาน 677 กิโลแคลอรี
- วิ่งเร็ว : 55 นาที ( ประมาณ 1 ชั่วโมง )
• ไส้ทุเรียนไข่เค็มให้พลังงาน 673 กิโลแคลอรี- เดิน : 150 นาที ( 2 ชั่วโมง 30 นาที )- วิ่ง : 75 นาที ( 1 ชั่วโมง 15 นาที )-ว่ายน้ำ : 56 นาที ( ประมาณ 1 ชั่วโมง )• ไส้เมล็ดบัวให้พลังงาน 646 กิโลแคลอรี
- เดิน : 138 นาที ( 2 ชั่วโมง 18 นาที )
- วิ่ง : 70 นาที ( 1 ชั่วโมง 10 นาที )-
ว่ายน้ำ : 53 นาที ( ประมาณ 1 ชั่วโมง )
• ไส้ทุเรียนให้พลังงาน 640 กิโลแคลอรี
- เดิน : 130 นาที ( 2 ชั่วโมง 10 นาที )
- วิ่ง : 66 นาที ( 1 ชั่วโมง 6 นาที )-
ว่ายน้ำ : 47 นาที ( ประมาณ 1 ชั่วโมง )
• ไส้พุทราให้พลังงาน 577 กิโลแคลอรี
- ตีแบต : 70 นาที ( 1 ชั่วโมง 10 นาที )
เห็นไหมคะว่าแต่ละไส้กินแล้วต้องออกกำลังกายนานมาก ๆ ถ้าใครไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายก็อาจจะต้องแบ่งกินทีละน้อย ๆ แทนนะคะ แต่ถ้าใครพอจะมีเวลาก็กินแล้วค่อยเบิร์นออกได้เล้ย!
☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾ ☾
เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน~ ได้เห็นว่า' ขนมไหว้พระจันทร์ 'ให้พลังงานกับร่างกายเราเยอะมาก ๆ แบบนี้ หลายคนอาจจะรู้สึกกลัว ๆ ไม่ค่อยกล้ากินกัน แต่อยากบอกทุกคนนะคะว่าทานไปเถอะค่ะ แต่! ต้องค่อย ๆ แบ่งออกมาทานทีละนิดทีละหน่อย เลือกทานแบบหวานน้อย แล้วก็ออกกำลังกายให้มากขึ้นก็จะไม่ทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้นแล้ว ถ้าใครไม่ค่อยสะดวกออกกำลังกายนาน ๆ แบบที่เราเขียนไว้ด้านบนก็พยายามงดพวกของหวานหรือแป้งช่วงหลังทานขนมไหว้พระจันทร์ก็ได้นะคะ ช่วยได้บ้างเหมือนกัน เอาล่ะค่ะ! ตอนนี้ก็หมดเวลาของเราแล้ว แต่ก่อนจะจากไปก็ขอให้ทุกคนมีความสุขในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์นะคะ บ๊ายบายค่า ♥
