ใจจะวายอีกครั้ง! ชวนซิสอัปเดตราคาค่าเดินทางสาธารณะ ประจำปี 66 #ขึ้นแล้วลงยาก
ขึ้นอีกแล้วรึเปล่า! วันนี้จะมาอัปเดตราคาค่าเดินทางสาธารณะ ประจำปี 66 ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ มาดูกันซิว่า มีรถโดยสารประจำทางอันไหน ที่ปรับราคาขึ้นบ้าง ขอบอกเลยว่า ขึ้นแล้วลงยากจริงๆ งานนี้ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกแล้ว!
เผยแพร่: 6 ม.ค. 2566 11:00 น.
Views: 1,005
รหัสบทความ: 93290
ขึ้นอีกแล้ว!ยุคนี้มันยุคของแพงจริงๆ แม้แต่ค่ารถไฟฟ้ายังขึ้นเลย! สายเดินทาง สายออฟฟิศมีน้ำตานอง แต่มันจะขึ้นสักเท่าไหร่กันนะ เผื่อว่าเพื่อนๆ อีกหลายๆ คนจะยังไม่รู้ วันนี้เราก็เลยจะมาอัปเดตราคาค่ารถโดยสารประจำทางให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน! เราจะได้รู้ว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตของเรานั้น มันจะเพิ่มขึ้นอีกสักกี่บาท พร้อมน้ำตานองกับรายจ่ายที่จะเพิ่มขึ้นแล้วรึยัง ถ้าพร้อมแล้ว ไปเช็กค่ารถโดยสารดูพร้อมๆ กันเลย!
ใจจะวายอีกครั้ง! ชวนเพื่อนมาดู อัปเดตราคาค่าเดินทางสาธารณะ ประจำปี 66
เรามาดูกันที่ค่าโดยสารรถเมล์กันก่อนเลยดีกว่า เพราะเป็นรถโดยสารที่คนใช้เยอะ แถมราคาไม่แพงมากด้วย มาดูกันว่า ตอนนี้ราคาจะขึ้นมาสักกี่บาทรถเมล์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนงบน้อย ด้วยราคาที่ทุกคนจับต้องได้แม้จะต้องเบียดกันสักก่อน อาจจะเซ็งตอนรถติดบ้าง แต่ก็ยังเป็นทางเลือกแรกๆ เลย ที่หลายๆ คนเลือกใช้บริการโดยปกติแล้ว ก็จะมีรถเมล์ฟรีให้ใช้บริการกัน ถูกมั้ย แต่มันก็ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น ถ้ามัวแต่รอรถฟรี มีหวังสาย หรืออาจจะไม่ได้กลับบ้านกันเลยด้วยซ้ำ
อัตราค่ารถเมล์แต่ละแบบ ไม่เท่ากันนะหลายๆ คนก็น่าจะรู้ มีทั้งแบบธรรมดา ติดแอร์ และอื่นๆ ซึ่งแต่ละแบบ ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป เรามาดูกันที่แบบรถธรรมดากันก่อนรถเมล์ธรรมดาสีครีม- แดงราคาค่าโดยสารจะอยู่ที่ 8 บาท ตลอดสาย แต่ถ้าเป็นรถทางด่วน สีครีม – แดงจะอยู่ที่ 10 บาท ตลอดสาย ส่วนรถบริการตลอดคืน สีครีม – แดงราคาจะอยู่ที่ 9.50 บาท ตลอดสายถัดมาที่รถร่วมบริการ สีชมพู หรือสีส้มจะคิดค่าโดยสารอยู่ที่ 10 บาท ตลอดสาย ส่วนรถเมล์แอร์ หรือรถปรับอากาศ สีครีม สีน้ำเงินส่วนใหญ่แล้วจะคิดตามระยะทาง ค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 12, 14, 16, 18 ไปจนถึง 20 บาท ทั้งนี้ถ้าขึ้นทางด่วน จะเพิ่มค่าบริการอีก 2 บาทถัดมาในส่วนของรถปรับอากาศ (ยูโรทู) สีเหลือง - ส้มราคาค่าโดยสารจะแพงกว่ารถปรับอากาศทั่วไป เริ่มต้นที่ 13, 15, 17, 19, 21, 23 ไปจนถึง 25 บาท คิดตามระยะทางเช่นเดียวกัน ทั้งนี้หากขึ้นทางด่วน ก็จะเพิ่มค่าบริการอีก 2 บาทค่ะ สุดท้ายคือรถปรับอากาศ ใช้ก๊าซ NGV / ไฟฟ้า สีฟ้าและสีน้ำเงินราคาจะอยู่ที่ 15, 20 และ 25 บาท คิดตามระยะทางเลยค่ะ และเช่นเดียวกัน หากขึ้นทางด่วนจะเพิ่มค่าบริการ 2 บาทเท่าที่ดูแล้ว ค่าโดยสารของรถเมล์ ไม่น่าตกใจเท่าไหร่ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่งบน้อย หรือคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีอยู่นะ
ต่อกันที่รถไฟฟ้าบ้างดีกว่า ทางเลือกสายหลักของทุกชีวิตในประเทศไทย ทั้ง mrt และ bts พร้อมใจกับเดินขบวนขึ้นราคาค่าโดยสารตามกันมาติดๆ เอาเป็นว่า มาเริ่มดูกันที่ใต้ดินกันก่อนดีกว่าค่ะ รถไฟฟ้า mrtปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินMRT สายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งบาท ตามนี้เลยค่ะ
▶ เดินทาง 9 สถานี : 36 บาท
▶ เดินทาง 11 สถานี : 41 บาท
▶ เดินทาง 12 สถานีขึ้นไป : 43 บาท
แม้ราคาจะขึ้นมา 1 บาท แต่ว่าทางรถไฟฟ้า MRT จะจำหน่ายเที่ยวโดยสาร (Pass) ในราคาเดิมไปจนถึงกรกฎาคม 2566 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้ามหานคร ทั้ง MRT สายสีม่วง และ MRT สายสีน้ำเงินในราคาจำหน่ายเดิมไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566ซึ่งใครที่ถือบัตรโดยสาร MRT Plus และ MRT ประเภทบุคคลทั่วไป บัตรโดยสารธุรกิจ และบัตรร่วมธุรกิจ สามารถเลือกเติมเที่ยวโดยสารได้ตามความต้องการได้ตามภาพด้านบนได้เลยนะจ๊ะทั้งนี้ทั้งนั้นโปรโมชั่นเที่ยวโดยสารมีกำหนดเริ่มใช้งานภายใน 45 วันนับจากวันที่ซื้อเที่ยวโดยสารนะหากเกินจากนั้น จะไม่สามารถใช้เดินทางได้ และสามารถใช้เดินทางได้เป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก(ยกเว้น PL Adult Pass ประเภท 60 เที่ยว 60 วัน จะสามารถใช้เดินทางได้เป็นระยะเวลา 60 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก)โดยไม่สามารถเปลี่ยนหรือขอคืนเงินได้นะ เพราะฉะนั้นเติมกันแล้ว ก็อย่าลืมใช้กันด้วยล่ะ
ส่วนรถไฟฟ้า bts ก็ไม่น้อยหน้านะจ๊ะ เขาก็ขึ้นราคาค่าโดยสารเหมือนกัน ซึ่งปรับค่าโดยสารอัตราใหม่ จาก 16 - 44 บาท เป็น17 - 47 บาทโอ้โห! ไม่เบานะคะคุณพี่!! ซึ่งสถานีที่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารนั้น จะมีทั้งหมด 24 สถานีด้วยกัน ได้แก่สายสุขุมวิท สถานีหมอชิต –สถานีอ่อนนุช และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ – สถานีสะพานตากสิน รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีลม สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ด้วย
ทั้งนี้ใครที่ถือบัตรโดยสารฟังทางนี้ก่อนนะ สำหรับบัตรแรบบิทสำหรับผู้สูงอายุ (Senior) จะยังคงได้รับส่วนลด 50% ของอัตราค่าโดยสารปกติสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยว และระยะทางต่อวัน สามารถซื้อบัตรโดยสารประเภทหนึ่งวัน (One-Day Pass)ในราคา 150 บาทจากเดิมราคา 140 บาทส่วนโปรโมชั่นสะสมพอยท์จากการเดินทางเพื่อแลกเที่ยวฟรี (บีทีเอส ชาเลนจ์) ปีที่ 2เริ่มแล้วในวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566ยิ่งเดินทางมาก ยิ่งได้พอยท์มาก แลกเที่ยวฟรีได้ไม่จำกัด ใครที่เป็นสายบีทีเอส พลาดไม่ได้เลยนะ!ส่วนเส้นทางต่อขยายสายสุขุมวิทจากสถานีอ่อนนุช ไปสถานีเคหะฯ (หรือกลับกัน)ปัจจุบันเก็บค่าโดยสาร 15 บาทและจากสถานีหมอชิตไปสถานีคูคต (หรือกลับกัน) และเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีลมจากสถานีวงเวียนใหญ่ไปสถานีบางหว้า (หรือกลับกัน) ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของกรุงเทพมหานคร อัตราค่าโดยสารเป็นไปตามประกาศของกรุงเทพมหานครเลยค่ะ
สิ่งที่เราทำได้คือ ยอมรับค่ะ หน้าที่ของเราคือ ทำงานหาเงินต่อไป สำคัญคือ ช่วงข้าวของแพงแบบนี้ ประหยัดได้ประหยัดค่ะ ใช้เงินอย่างมีสติดีที่สุดนะ แม้ค่ารถจะแพงขึ้น แต่ก็ยังพอถูไถไปได้บ้าง หรือบางทีอาจจะไม่ได้กระทบอะไรมากมาย แค่ต้องประหยัดขึ้นอีกหน่อยเท่านั้นเอง สู้ๆ
สำหรับวันนี้ บ๊ายบาย
SistaCafe It's all about beauty! ครบเครื่องเรื่องคอนเทนต์!
