Abusive Relationship ชวนรู้จักความสัมพันธ์ทั้งรักทั้งเจ็บ Red Flag แบบไหนที่ควรหนี
Abusive Relationship คืออะไร มีพฤติกรรมแบบไหนที่ต้องระวัง และเรากำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้หรือเปล่า ไปเช็กกันเลยดีกว่า
เผยแพร่: 13 ส.ค. 2566 16:00 น.
Views: 1,606
รหัสบทความ: 95277
เชื่อว่าในความสัมพันธ์ของเรา ใครๆ ก็อยากเป็นคนที่ถูกรัก อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนเข้าใจใช่ไหมคะ ถึงเเม้ความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามสำหรับทุกๆ คน อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกรูปแบบความสัมพันธ์ที่จะซัพพอร์ตกันเเละกัน โดยหลายๆ ครั้งนำไปสู่การใช้ความรุนเเรงในทางที่ไม่เหมาะสมไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม ซึ่งไม่ว่าเราจะรักมากเท่าไหร่เเต่หัวใจของเราก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะดังนั้นเราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับรูปแบบความสัมพันธ์ประเภทที่เรียกว่า‘Abusive Relationship’กันมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้สามารถป้องกันใจดวงน้อยๆ ของเรา พร้อมกับคนรอบตัวของเราที่อาจกำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้
ถ้าชาวซิสคนไหนพร้อมเเล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
คำเตือน: บทความนี้มีการกล่าวถึงการใช้ความรุนเเรง หากเพื่อนๆ รู้สึกไม่สบายใจ SistaCafe ขอแนะนำให้หยุดอ่านนะคะ
Abusive Relationshipคืออะไร ?
หากเราพิจารณาคำนี้จะเห็นว่าประกอบจากคำว่า Abusive + Relationship
Abusive (adj.) หมายถึง การใช้ความรุนเเรงทางร่างกายเเละอารมณ์Relationship (n.) หมายถึง ความสัมพันธ์
ดังนั้นเมื่อรวมกันเป็นคำว่า Abusive Relationship จึงมีความหมายว่า ความสัมพันธ์ที่มีการใช้ความรุนเเรงอย่างไม่เหมาะสมทั้งทางกาย ทางวาจา เเละทางจิตใจ ส่วนจะเเบ่งเป็นแบบไหนได้บ้าง เราลองมาดูกันข้างล่างดีกว่าค่ะ
ประเภทของ Abusive Relationship มีอะไรบ้าง ?
Physical Abuse การใช้ความรุนเเรงทางร่างกาย
หรือพูดง่ายๆ ว่า คือการทำร้าย ทุบตี หรือ ทำให้บาดเจ็บทางร่างกายไม่ว่าด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งทั้ง ด้วยมือเปล่าหรือด้วยอาวุธ ซึ่งไม่เพียงเเค่ทำร้ายร่างกายคู่รักเท่านั้น อาจลามไปถึงการทำร้าย ร่างกายบุคคลที่คุณรัก เช่น สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ หรือสัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ นอกจากนั้นแล้วการ กักขังหน่วงเหนี่ยวเเละการห้ามไม่ให้รับประทานอาหารหรือน้ำเองก็ถูกนับอยู่ในกรณีนี้ด้วยค่ะ
ซึ่งการทำร้ายร่างกายนั้นไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา ไม่ว่าด้วยอารมณ์โกรธหรือเศร้าสุดขีด ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมในความสัมพันธ์ที่เราควรช่วยกันยับยั้งค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนๆ คนไหน สังเกตเห็นรอยฟกช้ำหรือบาดเเผลที่ผิดปกติของคนรอบๆ ตัว เราอาจลองค่อยๆ ยื่นมือช่วยเหลือ หรือติดต่อหน่วยงานที่ดูเเลด้านนี้ได้เช่นกันค่ะ
Emotional and Mental Abuse การทำร้ายทางอารมณ์และจิตใจ
ต่อมาด้วยการทำร้ายทางอารมณ์เเละจิตใจ ซึ่งโดยปกติเเล้วสามารถสังเกตเห็นได้ยากกว่าทางร่างกายมากๆ เพราะถึงเเม้ว่าความสัมพันธ์ภายนอกจะดูปกติสุข เเต่จริงๆ อาจมีการทำร้ายทางอารมณ์เเละจิตใจซ่อนอยู่
ซึ่งหากพูดโดยกว้างๆ เเล้ว การทำร้ายทางอารมณ์เเละจิตใจหมายถึงการทำให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกเเย่เเละด้อยคุณค่าในตนเองลง ไม่ว่าจะเป็นการกดขี่ข่มเหง การข่มขู่ การหึงหวงเกินเหตุ การปกป้องมากเกินไป การบิดเบือนความรู้สึกและความเชื่อ (Gaslighting) การเมินความรู้สึกของอีกฝ่าย หากสิ่งเหล่านี้ดึงคุณค่า ดึงความรู้สึกให้ด้อยลง อาจสามารถพิจารณาได้เเล้วล่ะ ว่านี้ความสัมพันธ์นี้กำลังทำร้ายใจอยู่รึเปล่า
Sexual Abuse การล่วงละเมิดทางเพศ
ถัดมาด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงได้ยินผ่านๆ กันมาบ้าง ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับเรื่องเกี่ยวกับเพศนั้นคือ ความยินยอม หรือ Consent
ดังนั้นหากเกิดการกระทำทางเพศใดๆ ก็ตามที่ไปสู่ทางที่ผิด ปราศจากการยินยอม ไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ การบังคับสำเร็จความใคร่ การบังคับรับชมการมีเพศสัมพันธ์หรือสำเร็จความใคร่ การบังคับถ่ายคลิปอนาจาร การบังคับเเต่งกายยั่วยวนโดยไม่สมัครใจ การใช้สารต่างๆ เพื่อหลอกล่อให้มีเพศสัมพันธ์ หรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับทางเพศเเละไม่ได้รับความยินยอม ทั้งหมดนั้นย่อมถูกนับว่าเป็นการความล่วงละเมิดทางเพศทั้งสิ้น
Material and Financial Abuse การทารุณกรรมทางด้านทรัพย์สินเเละการเงิน
อีกหนึ่งอย่างที่ถูกจัดว่าเป็นการใช้ความรุนเเรงเเละทำร้ายกันในความสัมพันธ์เช่นกัน คือการทารุณกรรมทางด้านทรัพย์สินเเละการเงิน (Material and Financial Abuse) ค่ะ
โดยการทารุณกรรมทางด้านทรัพย์สินเเละการเงิน ก็คือการขัดขวางสิทธิทางการเงินในความสัมพันธ์โดยปราศจากความยินยอมหรือการใช้เงินเเละทรัพย์สินของอีกฝ่ายในทางที่ไม่ชอบ เช่น การควบคุมการใช้เงินเเละการเข้าถึงทรัพย์สิน การห้ามรับรายได้หรือทรัพย์สิน การขโมยเงินเเละทรัพย์สิน การยัดยอก การฉ้อโกง รวมไปถึงการปกปิดข้อมูลทางการเงินไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ด้วยค่ะ
เอาละ เราได้รู้จักลักษณะเเละประเภทต่างๆ ของความสัมพันธ์ Abusive Relationship กันไปบ้างแล้ว เเต่เอ๊ะ! ในเมื่อการกระทบกระทั้งกันบ้างเป็นเรื่องปกติในความสัมพันธ์ เเล้วแบบนี้เราจะแยกออกได้ยังไงว่าจุดไหนควรไปต่อหรือพักก่อน
สิ่งที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนเลยคือสาเหตุ ความถี่ เเละลักษณะการใช้อำนาจค่ะ โดยปกติแล้วการทะเลาะกันมักจะเกิดจากปัญหาในการเเสดงออกหรือการสื่อสารให้อีกฝ่ายรับรู้ ซึ่งสุดท้ายจะนำไปสู่การพยายามหาทางออกร่วมกัน เเละนับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติระหว่างคนสองคน
แต่การใช้ความรุนเเรงหรือการ abuse ไม่ว่าจะทางจิตใจ ทางอารมณ์ การใช้กำลัง หรืออื่นๆ มักจะเกิดอย่างบ่อยครั้งเเละพยายามมีอำนาจเหนือกว่า จึงทำให้อีกฝ่ายอีกฝ่ายนั้นรู้สึกด้อยค่านั้นเองค่ะ
Conflict กับ Abuse แตกต่างกันยังไง ?
ดังนั้นการหมั่นสังเกตเเละตรวจเช็คความสัมพันธ์นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยเเก้ไขปัญหาที่เจอร่วมกันเเล้ว ยังช่วยให้เราสามารถเเยกเเยะได้ระหว่างความขัดเเย้งกันตามปกติ หรือการ abuse ที่มากเกินกว่าปกติค่ะ ซึ่งวันนี้https://sistacafe.com/เองก็ได้เตรียมเช็กลิสต์ Red Flags เพิ่มเติมมาฝากเพื่อนๆ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเช็กสถานะความสัมพันธ์ของเราได้ง่ายขึ้นด้วย
ไปดูกันเลยดีกว่า
Red Flag ของAbusive Relationship ที่ไม่ควรมองข้าม
Red Flag ข้อที่ 1. Love Bombing ระเบิดความรัก
การทิ้งระเบิดความรัก หรือ Love Bombing มักจะมีลักษณะความสัมพันธ์ในช่วงเเรกที่ทุกอย่างหวานหยดย้อยสุดเบอร์ เพื่อสร้างความประทับใจเสมือนพบเจอคนที่หลุดออกจากในฝัน เเต่ที่จริงเเล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำนั้นเพื่อต้องการให้ตายใจเเละควบคุมอีกฝ่ายในความสัมพันธ์นั้นเอง!
ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณ Red Flag ที่ควรระวังเนื่องจากว่าเป็นการบอกถึงบุคลิกเเบบหลงตัวเอง (Narcisstic Personality Disorder) ซึ่งสามารถนำไปสู่การ abuse ทางอารมณ์ จิตใจ หรือร่างกายค่ะ
Red Flagข้อที่ 2. Unsafe and Insecurity ความรู้สึกไม่ปลอดภัย
เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในความสัมพันธ์ที่เราจะรู้สึกสบายใจเเละปลอดภัย เเต่ถ้าในความสัมพันธ์นั้นทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง ไม่สามารถออกไปทำสิ่งต่างๆ ไม่สามารถพูดคุยกันอย่างสบายใจ หรือเกิดความกลัวขึ้นอย่างบ่อยครั้ง นั้นอาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนในความสัมพันธ์นี้เเล้วล่ะ
Red Flagข้อที่ 3. Disrespect ไม่ให้เกียรติเเละไม่ให้ความเคารพ
ใหญ่มาก ซึ่งทุกคนไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะการให้เกียรติเป็นรากฐานในความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามนั้นไม่ได้หมายถึงการทำสิ่งยิ่งใหญ่โตเวอร์วังเสมอไป เเต่สามารถเป็นสิ่งพื้นฐานต่างๆ ในความสัมพันธ์ได้ค่ะ เช่น การไม่ดูหมิ่นหรือว่ากล่าวอีกฝ่าย การให้เกียรติพื้นที่ส่วนตัว การเคารพการตัดสินใจ เเละอื่นๆ อีกมากมาย
Red Flagข้อที่ 4. Crossing Physical Boundaries การก้าวข้ามขอบเขตทางด้านร่างกาย
อีกหนึ่ง Red Flag ที่สามารถเห็นได้ชัด เมื่อคู่ของเราพยายามยัดเยียดการกระทำต่างๆ เมื่อเราไม่ยินยอม เช่น การพยายามบังคับกอดหรือจูบ เเล้วเรารู้สึกว่านั้นเป็นการก้าวข้ามขอบเขตของเรามากเกินไปค่ะ ซึ่งขอบเขตหรือพื้นที่สบายใจของเเต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงด้วยเช่นกัน
Red Flagข้อที่ 5. Less Socializing บีบบังคับให้ลดการพบปะในสังคม
หากในความสัมพันธ์นั้นๆ ไม่ต้องการให้เพื่อนๆ ออกไปเข้าสังคม ไปเฮฮากับเพื่อนฝูง ไปพบปะพี่น้องครอบครัว หรือเเม้กระทั่งต้องการเวลาทั้งหมดของเพื่อนให้ใช้เเค่กับเขาคนเดียว ก็สามารถจัดว่าเป็นข้อควรระวังอีกหนึ่งข้อค่ะ เพราะนั้นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงลักษณะนิสัยบางอย่าง เช่น ชื่นชอบการบงการ หรือเเนวโน้มที่จะเกิดการ abuse ในความสัมพันธ์ค่ะ
Red Flagข้อที่ 6. Gaslighting การบิดเบือนความจริง
คือการทำให้อีกฝ่ายสับสนในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวโทษ หรือทำให้ไม่เเน่ใจ หรือเเม้กระทั่งบิดเบือนความจริงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพฤติกรรมเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมจิตใจของอีกฝ่ายนั้นเอง
Red Flagข้อที่ 7. Constant Reassure เรียกร้องการยืนยันความรู้สึกบ่อยครั้ง
เป็นเรื่องปกติที่ในความรักเราจะต้องการการยืนยันความรู้สึกให้เเน่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการบอกรัก หรือการเเสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่ามีคุณค่าเพียงพอ เเต่ถ้าหากความต้องการนั้นมากเกินไป อาจเป็นการบอกนัยๆ ว่าอีกฝ่ายมีความไม่ปลอดภัยหรือ insecure ในตัวเองสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การ abuse ทั้งในทางร่ายกาย ทางอารมณ์ หรือจิตใจค่ะ
Red Flagข้อที่ 8. Immediate Response จำเป็นต้องตอบกลับทันที
ในปัจจุบันนี้โลกโซลเชี่ยลมีผลอย่างมากกับชีวิตเรา อย่างไรก็ตามเราทุกคนนั้นต่างก็มีพื้นที่ในชีวิตจริงที่เเยกกับโลกโซลเชี่ยล ดังนั้นนับไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องตอบกลับทันที อย่างไรก็ตามหากในความสัมพันธ์ของเรานั้นเรียกร้องให้เราตอบ LINE Facebook หรือ DM ทันที นั้นอาจสะท้อนถึงความต้องการควบคุมการใช้ชีวิตของเรา หรือความรู้สึกไม่มั่นคงในจิตใจ ซึ่งสามารถเป็นสัญญาณ Red Flag ได้เหมือนกันนะ
Red Flagข้อที่ 9. Forcing Non-consensual activities การบังคับกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ต
ถัดมาอีกหนึ่งสัญญาณเตือนคือการบังคับกิจกรรมบนโลกอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้บล็อค อันฟอลโลว์ อันเฟรนด์บุคคลที่เรารู้จักในชีวิต หรือการบังคับให้ส่งรูปภาพหรือคลิปอนาจารโดยที่ปราศจากความยินยอม หากการกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง นั้นอาจหมายถึงการมีปัญหาในการยอมรับ ให้เกียรติเเละความเคารพสิทธิของกันเเละกัน ซึ่งสามารถนำไปสู่การ abuse ในรูปแบบต่างๆ ค่ะ
Red Flagข้อที่ 10. Privacy to Public การนำเรื่องส่วนตัวมาสู่สาธารณะ
ขึ้นชื่อว่าเรื่องส่วนตัวนั้น ก็ควรถูกเก็บไว้พูดคุยเป็นการส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราสบายใจที่จะเล่าให้คนนี้ ความลับที่เราพร้อมจะเปิดเผยให้ไม่กี่คน หรือปัญหาที่เป็นการทะเลาะส่วนตัว เเต่หากประเด็นเรื่องราวเล่านั้นถูกนำมาเปิดเผยต่อสื่อโซลเชี่ยลหรือผู้คนจำนวนมาก โดยที่ไม่ได้รับการยินยอมจากเรา นอกจากจะเป็นก้าวข้ามขอบเขตเเล้ว ยังอาจเป็นการสื่อโดยนัยว่าจะนำไปสู่การ abuse รูปแบบต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ
Red Flagข้อที่ 11. Stalking การแอบติดตาม
ไม่ว่าจะเป็นการเเอบตามไปยังสถานที่ต่างๆ โดยไม่ให้รู้ตัว หรือการเเอบติดตามกิจกรรมต่างๆ บนโลกโซลเชี่ยล ทำอะไร ไลค์อะไร เม้นท์ใคร อยู่ที่ไหน ไปกับใคร สิ่งเหล่านี้ก็นับว่าเป็น Red Flag เนื่องจากเป็นการเเสดงให้เห็นถึงความหวงเเหนมากเกินไปเเละไม่สามารถเคารพพื้นที่ส่วนตัวได้ และสามารถนำไปสู่การใช้ความรุนเเรงเมื่อเกิดความขัดเเย้ง หรือการทำร้ายทางอารมณ์เเละจิตใจ
Red Flagที่ 12. Forcing and block your financial activities บังคับหรือขัดขวางกิจกรรมทางการเงิน
ไม่ว่าจะเป็นการขู่เข็ญ การไม่เปิดเผยหรือการปกปิดข้อมูลทางการเงิน หรือการห้ามเราออกไปทำงาน หรือพฤติกรรมใดๆ ก็ตามที่สื่อว่าเป็นการกำจัดสิทธิทางการเงินของเรา ไม่ว่าจะเล็กน้อยเเค่ไหนก็ตามก็จัดเป็นข้อควรระวัง เนื่องจากสามารถนำไปสู่การทารุณกรรมทางด้านทรัพย์สิน
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่พบลักษณะพฤติกรรม Red Flags ในความสัมพันธ์ของเราบ่อยๆ ที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจกับทั้งสองฝ่าย ชาวซิสทั้งหลายอาจอยู่ในจุดที่ต้องลองคิดทบทวนดูจริงจังเเล้วล่ะ ว่ารักครั้งนี้ของเราควรไปต่อหรือพักก่อน
สรุปปิดท้าย
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เเค่ในความสัมพันธ์ของเราเองที่ควรหมั่นตรวจเช็ก เเต่เราเองก็ควรสังเกตความสัมพันธ์ของคนรอบตัวด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่าเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนเเปลงที่ผิดแปลกไปจากเดิม ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่าเขาหรือเธอกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีการใช้ความรุนเเรง เช่น มักพบรอยฟกช้ำตามร่างกาย หรือมีสภาพจิตใจที่เเย่ลงต่อเนื่อง เราสามารถยื่นมือขอความช่วยเหลือเเละติดต่อกับหน่วยงานเฉพาะที่ช่วยเหลือได้ที่เบอร์ 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม หรือ 1323 สายด่วนสุขภาพจิตได้เลยค่ะ
วันนี้เราก็ได้รู้จักลักษณะเเละรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมของ Abusive Relationship กันไปแล้ว ซึ่งเราหวังว่าเพื่อนๆ เองจะสามารถดูเเลหัวใจของตัวเอง เเละรู้ว่าเราควรจะทำยังไงต่อไปกับรักครั้งนี้ เพราะ SistaCafe เชื่อว่าหัวใจดวงน้อยๆ ของเรา คู่ควรกับความรักที่ดีต่อใจเราที่สุด เราหวังว่าทุกคนจะได้เจอกับความรักดีๆ นะคะ
แล้วครั้งหน้าเราจะเอาสาระดีๆ อะไรมาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะชาวซิส!
อ้างอิง
https://kidshealth.org/en/teens/abuse.html
https://health.clevelandclinic.org/domestic-abuse-how-to-spot-relationship-red-flags/
https://psychcentral.com/blog/how-to-distinguish-between-normal-marital-arguments-and-abuse
https://www.medicalnewstoday.com/articles/gaslighting
https://justicechannel.org/law-in-topic/hot-issue-help
