1. SistaCafe
  2. Project Pan เทรนด์อวดเมคอัพที่ใช้ใกล้หมด รักษ์โลกฉบับสายบิวตี้

เทรนด์รักษ์โลกยังไง้ยังไงก็มาแรงเสมอเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้พลังงาน การแยกขยะ ลด Fast Fashion (ลดการซื้อเสื้อผ้าตามเทรนด์ หันมาซื้อเสื้อที่ได้ใส่ซ้ำ ได้ใช้จริง) รวมไปถึงสายบิวตี้ก็เริ่มมีเทรนด์รักษ์โลกเพิ่มขึ้นด้วยนะเออ ซึ่งเทรนด์ที่ว่าก็คือ "Project Pan" นั่นเองค่ะ เป็นเทรนด์ที่ชาว TikTok กำลังฮิตสุด ๆ เลย แล้วก็เริ่มมีการรณรงค์หรือเชิญชวนให้ทุกคนมาทำตามกันด้วย แต่เอ๊... แล้วมันคือเทรนด์เกี่ยวกับอะไรกันแน่ ถ้าอยากจะรู้แล้วก็มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันด้านล่างนี้เล้ย!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


Project pan คืออะไร ?

พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว หลาย ๆ คนคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมคะว่า Project Pan คืออะไร? โพรเจกต์แพนก็คือเทรนด์การใช้เครื่องสำอางให้หมดหรือเห็นแพน (อะลูมิเนียมที่ใส่เครื่องสำอาง) เห็นขวดที่เริ่มใสแล้วนั่นเองค่ะ จริง ๆ เจ้าเทรนด์นี้เคยฮิตมาแล้วในปี 2018 แต่กลับมาฮิตอีกครั้งในช่วงปลายปี 2024 จนถึงปัจจุบันเลย เนื่องจากว่าบิวตี้แบรนด์หลาย ๆ แบรนด์มีการออกสินค้าตามเทรนด์กันเยอะมาก ลูกค้าสายบิวตี้ก็ตามซื้อรัว ๆ บางคนก็คือไม่ได้เน้นซื้อใช้แต่เน้นซื้อเก็บไว้ก่อน บางคนก็ซื้อแก้เครียด ก็เลยกลายเป็นปัญหาเครื่องสำอางและสกินแคร์ล้นโต๊ะเครื่องแป้ง อินฟลูเอนเซอร์หลาย ๆ คนเลยมาชวนทำเทรนด์อวดเครื่องสำอางที่ใช้ใกล้จะหมดกันแทนการอวดเครื่องสำอางใหม่แกะกล่อง แถมบางคนยังสอนวิธีใช้ยังไงให้คุ้มค่าที่สุดด้วย ช่วงนี้ก็เลยเป็นเทรนด์ดังในแอปฯ TikTok ไปเลยนะคะ ซึ่งเทรนด์ Project Pan เนี่ยสอดคล้องกับ Sustainable Beauty หรือความงามแบบยั่งยืนด้วยนะเออ แต่มันคืออะไรนั้นมาทำความรู้จักเพิ่มเติมกันต่อเลยจ้า


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

กระแส Sustainable Beauty มาจากอะไรกันนะ ?

ขอเกริ่นก่อนว่าหลาย ๆ ครั้งเวลาที่เราใช้เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ เราจะให้ความสำคัญกับส่วนผสมข้างในเป็นหลัก แต่เราดันลืมนึกไปว่าแพ็กเกจสวย ๆ ดี ๆ พวกนั้นเมื่อใช้หมดแล้วก็กลายเป็นขยะดี ๆ นี่เอง และขวดหรือแพ็กเกจของหลาย ๆ แบรนด์ ก็ทำมาจากพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งมันส่งผลเสียต่อโลกและสิ่งแวดล้อมมาก ๆ ยิ่งช่วงนี้มีการรณรงค์เรื่องการทิ้งขยะและเรื่องปัญหาโลกร้อน คนเลยหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและโลกมากยิ่งขึ้น แล้วก็ทำให้วงการความสวยความงามเริ่มให้ความสนใจและเกิดการตระหนักรู้เพิ่มมากขึ้นจนเกิดกระแส Sustainable Beauty ขึ้นมานั่นเองค่ะ


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

Sustainable Beautyคืออะไร ?

ซึ่งหลังจากมีกระแสนี้ขึ้นมา ก็ทำให้หลาย ๆ แบรนด์หันมาใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติและออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งผลวิจัยพบว่าหากใช้ผลิตภัณฑ์ Refill รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 70%เลยทีเดียว! และเจ้าเทรนด์ ‘Sustainable Beauty’ นั้น ก็เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยใจความสำคัญของเทรนด์คือส่วนผสมต่าง ๆ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงกระบวนการและที่มาของส่วนผสมต่าง ๆ นั้นต้องไม่เป็นอันตรายต่อโลกใบนี้ พูดง่าย ๆ ก็คือส่วนผสมไปจนถึงการผลิตต้องได้มาจากแหล่งที่มีจริยธรรมและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังต้องมีการรองรับอย่างชัดเจน เช่น สัญลักษณ์ต่าง ๆ หรือคำเคลมหรือการรับรองจากทางแบรนด์ที่ว่าแพ็กเกจที่ใช้หมดแล้ว สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เป็นต้น


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


Sustainable Beautyช่วยโลกยังไง ?

ถ้าพูดแบบเข้าใจได้ง่ายที่สุดคือลดปัญหาขยะและช่วยลดโลกร้อนได้นั่นเองค่ะ เพราะการที่แบรนด์ความสวยความงามหันมาเลือกใช้ส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อผิวและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงเลือกใช้แพ็กเกจที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ ก็ถือว่าเป็นการลดขยะ แถมยังไม่เป็นอันตรายและส่งผลกระทบต่อ ๆ ไปถึงสิ่งแวดล้อมและสัตว์ด้วย ถือว่าเป็นการรณรงค์ในอีกรูปแบบนึง ยิ่งถ้าคนให้ความสำคัญและสนใจมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มคนที่ให้ความใส่ใจต่อโลกมากขึ้นด้วย โดยรวมแล้วนี่ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีดี ๆ วิธีนึงที่เราจะช่วยรักษาโลกใบนี้ของเราให้อยู่กับเราไปได้นาน ๆ เลยนะคะ ดังนั้นมาช่วยกันทำดีกว่า เรามีวิธีมาแนะนำด้วย!


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


แชร์ฮาวทูใช้เมคอัพยังไงให้หมด ห้ามใจยังไงไม่ให้ซื้อเพิ่ม!

แน่นอนว่าถ้าเป็นคนแต่งหน้าหรือชอบเครื่องสำอาง ชอบสกินแคร์คือมันอดไม่ได้จริง ๆ ที่อะไรออกใหม่มาแล้วจะไม่ซื้อ แต่ ๆ ถ้าเราอยากจะลองทำเทรนด์ Project Pan หรือช่วยโลกด้วยเทรนด์ Sustainable Beauty มันก็ต้องหักห้ามใจกันนิดนึง แน่นอนว่าเรามีฮาวทูดี ๆ มาแนะนำด้วย อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ทำแล้วได้ผล จะมีอะไรบ้างมาดูกันเล้ย!

  • ไม่หมดไม่ซื้อใหม่เด็ดขาด : ตั้งเป้าไว้เลยค่ะว่าถ้าเครื่องสำอางตัวไหนยังไม่หมดหรือยังไม่หมดอายุ ห้ามซื้อใหม่เด็ดขาด ถ้าเราซื้อใหม่เราจะต้องมีบทลงโทษให้ตัวเองเล็ก ๆ เช่น ถ้าซื้อบลัชออนชิ้นใหม่โดยที่ชิ้นเก่ายังไม่หมด เดือนนี้จะต้องเก็บเงินเพิ่มตามราคาบลัชออนที่ซื้อ เป็นต้น
  • คิดเสมอว่ามันจำเป็นไหม : เนื่องจากเครื่องสำอางมันมีความแตกต่างในตัวเอง ทั้งเฉดสีและฟินิชต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะอยากแต่งหน้าโทนสีที่ไม่ได้มีบนโต๊ะเครื่องแป้ง แน่นอนว่าทางออกก็คือต้องซื้อใหม่นะคะ ดังนั้นก็ต้องคิดเสมอค่ะว่ามันจำเป็นมากไหม เราซื้อมาเพราะอะไร ซื้อแล้วจะได้ใช้ต่อไหม เช่น อยากซื้อบลัชออนกับอายแชโดว์ตัวใหม่เพราะอยากจะแต่งโทนนี้ไปงานรับปริญญา แต่ปกติไม่ได้ชอบใช้โทนสีนี้เท่าไหร่ คงจะไม่ได้แต่งบ่อย ๆ ก็อาจจะต้องคำนวณมาว่าจำเป็นต้องซื้อใหม่ไหม คุ้มค่าไหม ถ้าไม่ก็อยากให้ตัดใจไม่ซื้อของใหม่น้า
  • ยั้งใจด้วยการบอกว่าถ้าไม่ซื้อจะมีเงินไปทำอย่างอื่น : หลายคนหักห้ามใจไม่ค่อยจะไหว งั้นลองคิดว่าถ้าเราไม่ซื้อชิ้นใหม่ เราก็จะมีเงินเก็บไปทำนั่นทำนี่ได้นะ เช่น ถ้าเราไม่ซื้อคุชชันตัวใหม่อันนี้ เราก็จะมีเงินไปกินบุฟเฟต์เลยนะ เอาเงินไปกินบุฟเฟต์อิ่มกว่าอีก คุชชันที่ใช้ประจำก็ยังไม่หมดเลย ไม่ต้องรีบซื้อหรอก เป็นต้น
  • ตั้งงบสำหรับซื้อเครื่องสำอาง/สกินแคร์ : ก่อนจะซื้อตั้งงบให้พอเหมาะก่อนเลยค่ะว่าจะซื้ออะไรบ้าง ทั้งหมดคร่าว ๆ เนี่ยประมาณกี่บาท เพราะถ้าไม่ตั้งไว้ บอกเลยว่าบานปลายแน่นอนค่ะ อันนี้ก็น่าสนใจ อันนี้ก็น่าลองเต็มไปหมด ดังนั้นการตั้งงบไว้ก่อนก็จะทำให้เราจำกัดการซื้อได้ในปริมาณที่เหมาะสมนะคะ แต่ก็อย่าตั้งงบต่ำ - สูงเกินไปเพราะอาจจะทำให้สุดท้ายซื้อไม่ครบหรือซื้อมากเกินไปได้เหมือนกัน
  • ถ้าอยากใช้หลาย ๆ แบบให้ซื้อแบบซอง : ถ้าเป็นคนขี้เบื่อ อยากลองไปเรื่อย ๆ หลาย ๆ ชิ้น แนะนำให้ใช้แบบซองก็ดีนะคะ ปริมาณไม่เยอะ ใช้ไม่นานก็หมด แถมยังใช้ได้หลากหลายสี หลากหลายเนื้อสัมผัสด้วย

5 วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่เราใช้ในการยับยั้งชั่งใจเรื่องการซื้อเครื่องสำอางที่ใช้แล้วได้ผลเสมอนะคะ ยังไงก็ลองไปปรับใช้กันดูน้า นอกจากนี้ทางเราขอแอบ แนะนำแบรนด์รักษ์โลกน่าสนใจให้ทุกคนไปลองซื้อมาใช้ กันด้านล่างด้วย ใครสนใจเตรียมจดโลดค่า~


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


ป้ายยาแบรนด์บิวตี้รักษ์โลก Sustainable Makeup


The Body Shop

แบรนด์แรกที่เราหยิบมาแนะนำในวันนี้ The Body Shop เพื่อน ๆ น่าจะรู้จักกันดี เขาเป็นแบรนด์ที่มีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทดลองเครื่องสำอางกับสัตว์ ซึ่งเขาได้มีแพลนลดการใช้พลาสติก และยกระดับสู่ธุรกิจยั่งยืน หนึ่งในกลยุทธ์ของเขาก็คือ มีการเปิด “Refill Station” ผลิตภัณฑ์ดูแลผมและร่างกาย ภายในร้าน The Body Shop ทั่วโลก ลูกค้าสามารถนำขวดที่ใช้หมดแล้ว ล้างและเช็ดให้แห้ง นำกลับมาเติมใหม่ได้ ทั้งเขายังส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ ที่ทำมาจาก “พลาสติกรีไซเคิล”​ อีกด้วย 


Burt’s Bees

ถัดมาที่อีกหนึ่งแบรนด์ที่โด่งดังมาในผลิตภัณฑ์ตระกูลลิปบาล์ม หรือลิปบำรุงริมฝีปาก ซึ่งนอกจากเขาจะใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติแล้ว ทางแบรนด์ยังทำงานร่วมกับ TerraCycle® อีกด้วยนะ ซึ่งตัวแพ็กเกจของเขา ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบดั้งเดิมที่เป็นตลับหรือจะเป็นแบบแท่งก็ล้วนทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลทั้งสิ้น เลิศมาก!


Kora Organics

Kora Organics เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยนางแบบสาวสวย โดยสกินแคร์และเครื่องสำอางของเขาจะเน้นความบริสุทธิ์และปลอดสารเคมี เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสามารถให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและใช้ได้อย่างปลอดภัย ทั้งเขายังไม่มีการทดลองในสัตว์ด้วย ที่สำคัญยังปราศจากสารสังเคราะห์หรือสารเคมีในส่วนผสมและในกระบวนการผลิตอีก แถมบรรจุภัณฑ์ของเขายังสามารถนำไปรีไซเคิลและย่อยสลายได้ทางชีวภาพอีกด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดี ๆ ที่น่าสนับสนุนมาก!


CAUDALIE

CAUDALIE อีกหนึ่งแบรนด์สกินแคร์ที่หลาย ๆ คนให้ใจ รู้มั้ยว่าเขาเป็นสมาชิกองค์กร 1% for the Planet ตั้งแต่ปี 2012 ทั้งทางแบรนด์ยังได้มีโครงการปลูกต้นไม้ทดแทน โดยสามารถทำได้ถึง 6 ล้านต้น ใน 8 พื้นที่ทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอีกด้วย นอกจากนี้ ทางแบรนด์ CAUDALIE ยังช่วยลดการผลิตภัณฑ์ขยะพลาสติกได้ถึง 13 ตัน และขยะบรรจุภัณฑ์ถึง 33 ตัน ในส่วนการผลิตบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ ที่สำคัญคือ สินค้าของแบรนด์นี้ยังเป็น 100% วีแกน และเป็น Cruelty free ปราศจากส่วนผสมจากสัตว์ และทดลองในสัตว์อีกด้วยนะ ปังมาก!


Aveda

Aveda อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่หลาย ๆ คนไว้วางใจ เขามาพร้อมบรรจุภัณฑ์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้บรรจุภัณฑ์ PET ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% สำหรับบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์จัดแต่งผม พูดง่าย ๆ ก็คือ ทางแบรนด์ได้มีการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หลังการบริโภคในทุกบรรจุภัณฑ์ แถมเขายังเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ออร์แกนิก และเป็น cruelty-free อีกด้วย ทั้งนี้ทางแบรนด์ยังมีการระดมทุนเพื่อทำกิจกรรมสนับสนุนทางสิ่งแวดล้อมอีก เลิศเวอร์!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥



เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนหันมาให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยนะคะ เพราะงั้นแล้วทำต่อไปกันค่ะ โลกนี้เป็นของเราทุกคนเพราะฉะนั้นเราก็ควรใส่ใจและให้ความสำคัญเขาเยอะ ๆ แล้วก็ลองหันมาเลือกใช้สกินแคร์/เครื่องสำอางที่เป็น Sustainable Beauty และใช้เครื่องสำอางอางจนหมดตามเทรนด์ Project Pan กันด้วยนะคะ นอกจากจะดีต่อผิวแล้ว ยังดีต่อโลกเพราะช่วยลดขยะอีกด้วยนะ เพราะงั้นต้องสนับสนุนแบรนด์ดี ๆ แบบนี้กันเยอะ ๆ นะคะ และนอกจากแบรนด์ที่แนะนำเบื้องต้นแล้ว ยังมีแบรนด์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะแยะเลย ชาวซิสและนักอ่านลองไปหาดูเพิ่มเติมกันได้น้า สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้วค่า บ๊ายบาย


ขอบคุณรูปภาพหน้าปก และภาพประกอบบทความจาก Instagram : thebodyshop, burtsbees, koraorganics, caudalie, aveda, รวมถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ sephora.co.th


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ!

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1