อกหัก หัวใจสลาย! 8 'บทเรียนความรัก' ที่ได้เรียนรู้ เมื่อความสัมพันธ์กับแฟนจบลง จนต้องเลิกรา T_T

สวัสดีค่ะ สาวๆSistaCafeคนน่ารักที่กำลัง' หัวใจสลาย 'ทุกคนจะเป็นรักครั้งแรก หรือเป็นรักครั้งต่อๆ มาแล้วก็ตามที การต้องจบเส้นทางความสัมพันธ์กับผู้ชายที่เราคิดว่า ' จะได้เดินเคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต ' นั้นเจ็บบาดลึกถึงหัวใจเสมอ ทั้งเสียใจ ทั้งรู้สึกโหวงๆ กับการสูญเสียที่จะไม่มีเขาอีกต่อไปบางคนร้องไห้ฟูมฟายเป็นเผาเต่า บางคนนิ่งเงียบแต่น้ำตาไหลไม่หยุด หรือบางคนไม่แสดงออกอะไรเลย แต่สภาพจิตใจพังยับ และไม่ใช่ทุกคนที่จะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดนั้นไปได้ง่ายๆ บางคนหลักเดือน บางคนหลักปี บางคนอาจจะตลอดชีวิตของเขาก็ได้ //แงงงงง YY^YYภาวะอกหักต้องใช้เวลาในการตระหนัก เรียนรู้และยอมรับอย่างช้าๆ ระหว่างนี้วันเวลาอาจรู้สึกยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์ สงสัยว่าเธอจะเปิดใจกับคนใหม่ได้อีกหรือไม่ หรือจะมีวันที่มูฟออนได้จริงๆ หรือเปล่า จะยังกลับมาเชื่อในความรักได้อยู่ไหม เพราะการลืม ' ความทรงจำในอดีต ' นั้นมันไม่ง่ายเลยสุดท้ายแล้วมันก็คือประสบการณ์หนึ่งในชีวิต เป็นครูที่สอนบทเรียนสำคัญต่างๆ ให้เราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดังเช่น' 7 บทเรียนความรักที่ได้เรียนรู้ เมื่อต้องเลิกรากับแฟน 'ในบทความนี้ ที่คนเพิ่งอกหักควรได้อ่าน เพื่อได้ฉุกคิดและนำไปสอนใจ ปรับใช้กับรักครั้งใหม่ในวันข้างหน้านะคะ (´｡• ω •｡`) ♡

1. ได้รู้ว่า ใครที่เป็นห่วง และให้ความสำคัญกับชีวิตเราจริงๆ

ตอนรักยังหวาน มุ้งมิ้งกับแฟนน่ะ เรามักจะหน้ามืดตามัว มองเห็นอะไรไม่ชัดเจนเท่าไหร่หรอก คนที่รู้จักกันห่างๆ ถึงเขาไปรู้เห็นอะไรมา เขาก็ไม่อยากเข้ามายุ่ง อวยไปตามๆ กันบ้าง ทำเฉยบ้าง สุดท้ายเมื่อรักมาถึงทางตัน คนรู้จักผิวเผินเหล่านี้ก็จะสลายหายไปด้วยเช่นกัน

บางคนก็ซุบซิบนินทาเช่น ' ฉันว่าแล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่โอเค ', ' ก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วป้ะว่าไม่เหมาะกัน ' ทั้งที่ตอนรักกันดี คนเหล่านี้ยังมาอวยพรให้ได้แต่งงานกันอยู่เลย การอกหักก็ถือเป็นโมเมนต์ดีที่จะได้รู้ว่า ใครรักและหวังดีกับเราจริงๆ ไม่ใช่แค่เพื่อนกินชั่วครั้งชั่วคราว หรือเพื่อนรักเพื่อนร้ายที่รอแทงข้างหลัง!

คนที่ยังอยู่กับเรา เช่น เพื่อนสนิท ครอบครัว พี่น้อง คือคนที่แคร์และพร้อมให้กำลังใจเราอยู่เสมอ เขาอาจจะเห็นแววไม่ดีในตัวผู้ชายตั้งแต่แรกก็ได้ แต่เขาคิดว่าเธอเลือกมาดีแล้ว ถ้าเธอรักพวกเขาก็พร้อมที่จะรักด้วย หากไปกันไม่รอด เขาก็ยังอยู่ข้างๆ รับฟังเธอระบาย ให้เธอได้ซบไหล่

เพราะไม่ว่าจะโสดหรือมีคู่ พวกเขาก็ยังห่วงเธอไม่เสื่อมคลาย หากชีวิตเธอมีคนเหล่านี้ จงกอดไว้ให้แน่นๆเพื่อผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปได้นะคะ

2. เราหลีกหนี 'การเปลี่ยนแปลง' ไม่ได้ เมื่อรักจบ ก็ต้องจากลา

บางครั้ง ความรักที่ต้องจบลงก็ไม่ได้มีใครเป็นผู้ร้าย แค่คนสองคนที่เติบโตมาต่างกัน จนวันหนึ่งไปคนละเส้นทาง เข้ากันไม่ได้อีกแล้ว จะเจอได้บ่อยกับคู่รักที่คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเรียนจบต้องเข้ามหาลัยคนละที่ หรือเริ่มวัยทำงาน เจอสังคมใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม

สุดท้ายก็ค่อยๆ ห่างกันไปทีละนิด จนวันหนึ่งก็รู้ตัวว่าความรู้สึกน้อยลงจนไปต่อในฐานะแฟนไม่ได้แล้วนั่นเอง

เราขอเรียกจุดจบนี้ว่า ' ความเปลี่ยนแปลง ' ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอในชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่ด้านความรักหรอก อาชีพการงาน ครอบครัว หรือแม้แต่เป้าหมายที่คิดฝันไว้ 10 ปีที่แล้ว เทียบกับตอนนี้ก็ไม่มีทางเหมือนเดิม เพราะการใช้ชีวิตเราเปลี่ยน สังคมรอบข้างเราเปลี่ยน

หากยังมั่นคงเหมือนเดิมก็ดีไป แต่หากเปลี่ยนแปลงจนต้องแยกทาง ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะความเปลี่ยนแปลงมักเกิดขึ้นตอนที่เราไม่รู้ตัว หลีกเลี่ยงไม่ได้สาวๆ หลายคนไม่ได้กลัวการเลิกขนาดนั้น แต่กลัวการเปลี่ยนแปลง ติดบ่วงความผูกพันมากกว่า ซึ่งสุดท้ายเราก็ครอบครองใครไม่ได้ตลอดไปอยู่ดีลองใช้โอกาสนี้กลับมาทบทวนชีวิตตัวเองอีกครั้งบางทีการได้ใช้ชีวิตเป็นสาวโสด อาจชีวิตรุ่งเรืองกว่ามีแฟนก็ได้

3. เราอ่อนแอได้ ไม่ผิด อย่าอายที่จะร้องไห้ หรือขอความช่วยเหลือ

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เธออาจเป็นผู้หญิงที่ยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่เคยเสียน้ำตาหรืออ่อนแอให้ใครเห็น แต่พอเจอการเลิกราครั้งนี้เข้าไปเท่านั้นแหละ ถึงกับทรุด ลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว อาจจะเพราะไม่เคยรักใครเท่าคนนี้มาก่อน ทำใจได้ยาก หรือเป็นรักครั้งแรกที่ไม่มีประสบการณ์ว่าควรรับมือยังไง

ช่วงเวลานี้แหละที่เธอควรขอความช่วยเหลือ ไม่ต้องหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองว่าอ่อนแอ คนเราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ถ้าเราจะจมน้ำแต่มีคนเสนอเชือกมาให้ ใครจะไม่อยากรับล่ะ?

การได้ปลดปล่อยประสบการณ์ความรักแย่ๆ ให้คนอื่นได้รับฟัง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะให้คำแนะนำ หรือแค่รับฟังเฉยๆ เธอก็จะรู้สึกโล่งขึ้นที่ได้ระบายปัญหาออกไป ดีกว่าเก็บกดไว้กับตัวเองเพียงคนเดียว รังแต่จะอึดอัดและส่งผลเสียกับสุขภาพจิตซะเปล่าๆ

หากไม่กล้าขอคำปรึกษาตรงๆ กับคนรอบตัว จะเขียนกระทู้ในเว็บไซต์ โพสต์ในโซเชียล หรือโทรไปขอคำปรึกษาจากรายการต่างๆ ก็ได้ มีทางออกมากมาย ทุกคนพร้อมจะมอบคำแนะนำให้ คนปกติไม่มีใครด่าว่าเธอหรอก เพราะเราทุกคนก็มีช่วงเวลาอ่อนแอกันทั้งนั้น!

4. หลังเกิดมรสุม จะเกิดสายรุ้งที่สวยงามขึ้นเสมอ ชีวิตยังคงมีหวัง!

ไม่ว่ารักครั้งล่าสุดจะทำให้ใจเจ็บ ใจสลาย จนไม่อยากจะมีความรักครั้งใหม่มากขนาดไหน แต่อยากให้สาวๆ จำไว้ว่า ' จะมีสายรุ้งที่สวยงามรออยู่หลังพายุฝนเสมอ ' อาจจะไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ แต่ชีวิตจะไม่ใจร้ายกับเธอตลอดไป

แม้ในช่วงระยะทำใจ คิดในแง่ดีคือจบเสียตั้งแต่ตอนนี้ ยังดีกว่าต้องเสียเวลา 10 ปี 20 ปี กับคนที่สุดท้ายก็ไปกันไม่รอดอยู่ดี หรือถ้าเป็นเหตุผลแย่ๆ อย่างการนอกใจ ก็จะได้รู้นิสัยกันตอนนี้ ดีกว่าแต่งงานกันไปแล้ว มีลูกด้วยกันไปแล้ว หรือถึงมีลูกแล้วก็เถอะ การได้หลุดพ้นจากคนไม่ดี จบตอนไหนก็ถือว่าดีทั้งนั้นล่ะค่ะ!

การเลิกรา ย่อมไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เช่น เธอสอบติดไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่กลัวเรื่องรักทางไกล การเลิกกันก็ทำให้ปัญหานี้หมดไป ทุ่มเทกับการเรียนได้อย่างเต็มที่เพื่ออนาคต, ตอนมีแฟนถูกบังคับให้แต่งหน้าแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้ ลดหุ่นเอาใจเขาตลอด โสดแล้วก็ดี จะได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ ไม่ต้องมีใครมาสั่ง!

แค่ลองปรับมุมมองดู แล้วเธอจะรู้ว่าสายรุ้งงดงามนั้นอยู่ใกล้ๆ เธอมากกว่าที่คิด ;)

5. เราต้องรับผิดชอบตัวเองให้ได้ อย่าเอาชีวิตไปผูกติดกับใคร

บทเรียนหนึ่งที่จะฝังใจสาวๆ ที่พึ่งพาแฟนมากเกินไปก็คือข้อนี้ล่ะค่ะ! ความรักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน  ไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอดไป และทุกคนต้องรับผิดชอบกับผลการกระทำของตัวเอง จะโสดหรือมีแฟน สาวซิสทุกคนก็ควรรับผิดชอบตัวเองให้ได้ อย่าเอาชีวิตไปผูกติดกับคนอื่นมากเกินไป

ทั้งในแง่ของการเงิน ความสามารถ ความต้องการและความรู้สึก เพราะหากคนคนนี้หายไป เธอจะรู้สึกโลกถล่มลงตรงหน้าทันที และยากมากๆ ที่จะกู้ความเข้มแข็งกลับมา

เวลาเรารักหรือผูกพันกับใครสักคนมากๆ เป็นธรรมดาที่เราจะเริ่มเอาเขาเข้ามาอยู่ในชีวิตทีละนิดๆ จนกลายเป็นติดพันอย่างแยกไม่ออก มองเขาเป็นตัวแทนของความรักและคุณค่าในตัวเอง

ซึ่งหากรักกันยืนยาวก็ดีไป ( แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่า แฟนจะจากไปด้วยวิธีอื่น เช่น การเสียชีวิต การป่วย หรือผลประโยชน์ไม่ลงตัว ) แต่ถ้าวันไหนต้องเลิกรา หัวใจของเธอจะสลายอย่างถึงที่สุด กว่าจะฟื้นตัวได้ก็อีกนาน

ทางที่ดีพยายามหาความสุขได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องดึงใครเข้ามาให้วุ่นวาย จึงจะเป็นสุขที่ยั่งยืนที่สุด

6. การเยียวยาแผลใจ ต้องทำไปพร้อมกับทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

บางคนเมื่ออกหัก ก็มักถูกเพื่อนลากไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง ดูหนัง ทำสปาดูแลตัวเอง ทำให้ชีวิตยุ่งๆ เพื่อจะได้ไม่เศร้าจนเกินไป ซึ่งก็อาจช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ช่วยได้แค่ทางกาย พอกลับมาอยู่คนเดียว จิตใจก็สับสน ฟุ้งซ่าน กลับมาเศร้าเหมือนเดิมอยู่ดี

สาวๆ ควรเยียวยาตัวเองทั้งสุขภาพกายและ

' สุขภาพจิต '

ไปพร้อมๆ กัน จะทำให้ฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วกว่า ยั่งยืนกว่าค่ะ

การทำงานอดิเรกที่ชอบ โฟกัสกับสิ่งที่ทำจนความเศร้าเจือจางลงก็เป็นสิ่งที่คนอกหักนิยมทำแล้วได้ผลดี, การปรึกษาปัญหาความรักกับคนอื่นก็ช่วยเรื่องสุขภาพจิต ให้ซึมเศร้าน้อยลงได้ ทำให้เธอคิดถึงมุมมองใหม่ๆ มากขึ้นด้วย หรือจะนั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบก็ดี หากปัญหาซับซ้อนยุ่งยากเกินจะแก้ด้วยตัวคนเดียวจริงๆปรึกษานักจิตวิทยาก็ช่วยได้เช่นกัน

ลองเลือกทำวิธีที่เหมาะกับเธอดูนะคะ (ღ˘⌣˘ღ)

7. ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนมีสาเหตุ แค่เธอจะรู้หรือเปล่าเท่านั้น

แม้ความรักครั้งนี้จะจบลงแบบอิหยังวะ ดูเลิกกันแบบงงๆ ก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าทุกสิ่งมีเหตุผลของมัน อาจจะไม่ใช่เหตุผลเป๊ะๆ 1+1 = 2 เหตุผลที่บอกคนนอกอาจเป็นสิ่งสวยหรูแค่ไหนก็ได้ เช่น

รู้สึกเหมือนเพื่อนมากกว่า, จังหวะชีวิตไม่ตรงกัน, งานยุ่งกันทั้งคู่

แต่ความจริงที่เห็นชัดก็คือ

' เธอและเขาอยู่ด้วยกันไม่ได้อีกต่อไป '

นั่นแหละ

เหตุผลที่ชัดเจน

ที่สุดแล้ว

หากเธอและเขาเคยรักกันมากมาก่อน แน่นอนว่าต้องมีจุดหักเหบางอย่างที่ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไป ลองถามตัวเองว่าเคยถาม เคยใส่ใจความรู้สึกอีกฝ่ายบ้างหรือเปล่า บางครั้งความรู้สึกขัดใจ ไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ พอสะสมมากเข้าก็ทำให้ความรู้สึกลดลงได้

ในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน มีดีเทลเล็กๆ ซ่อนอยู่เยอะมาก ถ้ายังทำได้ ก็ปรับความเข้าใจกันดูก่อน แต่ถ้าเป็นจุดที่เกินปรับ ก็ทำใจยอมรับว่า ต้องปล่อยมือและหาคนใหม่ที่เข้ากันได้ดีกว่าคนเดิม เรื่องก็มีอยู่เท่านั้นเอง

8. เราไม่สามารถมีทุกสิ่งที่ต้องการได้ โดยเฉพาะครอบครองมนุษย์ที่มีจิตใจ

หากชีวิตก่อนหน้านี้เธอมีชีวิตดั่งคุณหนูที่ถูกตามใจมาตลอด อยากได้อะไรก็มีคนหามาให้ พ่อแม่รักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ หัวดีเรียนเก่ง สอบได้คะแนนชนะคนทั้งห้องมาตลอด แต่มาสะดุดที่ดวงความรักไม่ดี เธอคงได้บทเรียนชีวิตบทหนึ่งว่า" มนุษย์ไม่ได้ทุกสิ่งที่ต้องการหรอก แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม "แม้เธอจะทำตัวให้เพอร์เฟกต์ ไร้รอยด่างพร้อยแค่ไหน แต่ความเพอร์เฟกต์ใช้ไม่ได้กับความรักหากเธอไม่ใช่จิ๊กซอว์ที่พอดีกับเขา ก็ไม่สามารถครอบครองหัวใจของเขาได้ เพราะเขาคือมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของ มันเป็นเรื่องเหนือการควบคุม!เขาอาจเป็นแค่คนธรรมดาคนนึง ที่อยากได้คนธรรมดาที่พร้อมจะผิดพลาดไปกับเขา หรือมีเป้าหมายร่วมกันกับเขา แต่เธอไม่ใช่คนคนนั้นเท่านั้นเอง เธอไม่ผิด เขาก็ไม่ผิด แค่เป็นความทรงจำดีๆ ช่วงหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้นอย่างน้อยเธอก็ได้รู้จักความรักมากขึ้น และเรียนรู้ที่จะไม่คาดหวังมากเกินไปจนทำลายความรู้สึกของตัวเองค่ะ

----------------------------

สุดท้ายแล้ว แม้จะเจอบาดแผลอะไรในความรักมา ชีวิตของเราก็ยังต้องดำเนินต่อไป! การเติบโตสู่ช่วงวัยต่างๆ ในชีวิตนั้น ยังต้องเจออะไรที่หนักหนากว่านี้อีกมาก เมื่อเวลาผ่านไปจนแผลเริ่มตกสะเก็ด เธอจะเข้มแข็งมากขึ้น แม้จะต้องเจอเหตุการณ์นี้ซ้ำ ( แต่หวังว่าอย่ามีเลย ) เธอก็จะยิ้มมุมปาก แค่นี้ฆ่าเธอไม่ตายหรอก!เพราะชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นอยู่ตลอด ทั้งตัวเธอเองและคนรอบข้าง การได้รักกันเป็นเรื่องธรรมดา การลาจากกันก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน หากเราได้รักที่ดีก็ถือว่าโชคดี อยู่ดูแลกันไป แต่หากได้รักแย่ มันก็จะเป็นแค่ความทรงจำสีจางในสักวันหนึ่งอยู่ดี เสียใจได้ ร้องไห้ได้แต่อย่านาน ยังมีอนาคตที่ดี ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รอสาวซิสไปสัมผัสอยู่ อย่างน้อยแม้ตอนนี้จะไม่สมหวัง แต่ครั้งนึงก็ถือว่าเคยได้รักและถูกรักใครสักคน ขอให้ทุกคนโชคดีในครั้งต่อไป กับคนที่ใช่กว่าเดิมนะคะ❤

Cr. What Love Teaches Us: 17 Love Life Lessons We Learn From Heartbreak [thelawofattraction.com]https://www.thelawofattraction.com/love-life-lessons-heartbreak/