เจ็บแล้วต้องจำ! รวม 7 บทเรียนที่ได้จากการ “ อกหัก ” ถึงความสัมพันธ์จบลง แต่ช่วยให้มองเห็นอะไรชัดเจนขึ้น
สาวๆ คนไหนที่เพิ่งอกหักมาแบบสดๆ ร้อนๆ ก็อาจจมปลักอยู่กับความเสียใจ แต่เราอยากให้ตั้งสติแล้วลองอ่าน 7 บทเรียนที่ได้จากการ “ อกหัก ” ที่มันอาจจะช่วยสอนให้ได้เรียนรู้และมองเห็นอะไรบางอย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้
เผยแพร่: 6 ส.ค. 2564 19:00 น.
Views: 12,146
รหัสบทความ: 85786
♪♪♪ ก็ขึ้นชื่อว่าความรัก ความรักในชีวิตจริงไม่มีอะไรแน่นอน
ใจมันอ่อนแอแพ้ความรัก เพึ่งรู้ว่ารักในชีวิตจริงมันยิ่งกว่าในนิยาย ♪♪♪
ฮายค่ะซิส (✿◕◡◕) เห็นเราเปิดบทความมาด้วยเพลงอกหักแสนเศร้าเคล้าน้ำตาแบบนี้ ก็คงพอจะเดากันได้แล้วนะว่าท็อปปิกที่หยิบมาชวนเมาท์กันก็หนีไม่พ้นเรื่องความรักนั่นเองค่ะหากสาวคนไหนเคยมีประสบการณ์เลิกรากับคนรัก เธอก็คงจะรู้สึกเหมือนกันแน่ๆ เลยว่าการทำใจยอมรับกับจุดจบของความสัมพันธ์ มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ ภายในไม่กี่วันหรอกนะ เพราะช่วงเวลาที่ได้คบหาและใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับ ( อดีต ) คนรัก มันก็มีทั้งช่วงเวลาที่ดีที่ได้มีความสุขร่วมกันและความทรงจำดีๆ ระหว่างกันมากมาย หลายคนเลยอาจยังมูฟออนจากรักครั้งเก่าไม่ได้และเจ็บปวดใจมาจนถึงตอนนี้
แต่รู้รึเปล่าคะว่าการเลิกรามันไม่ได้มอบความเจ็บปวดเสียใจอย่างเดียวเท่านั้นหรอกนะ หากลองตั้งสติและคิดทบทวนให้ดีๆ ความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวังมันอาจช่วยสอนอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนก็เป็นได้วันนี้เราเลยจะพาไปส่อง7 บทเรียนที่ได้จากการ “ อกหัก ”ว่ามันทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรบ้าง???
●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●
❶ จงฟังและเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง
บางครั้งการที่สาวๆ เจ็บปวดจากความรัก อาจไม่ได้เป็นเพราะโดนคนรักโกหกหลอกลวงหรอกนะคะแต่เป็นตัวเธอเองที่มองข้ามความรู้สึกของตัวเองและหลอกตัวเองไปวันๆ ว่า“ ความรักตอนนี้ก็ดีแล้ว ”/“ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เราทนได้ ”/“ เขายังรักเราอยู่แน่นอน ”เป็นต้นแล้วสาเหตุที่ทำให้คนเลือกที่จะหลอกตัวเองว่าสถานการณ์ความรักมันยังดีอยู่ ก็เป็นเพราะว่าไม่อยากยอมรับความจริงว่าความสัมพันธ์มาถึงทางตันนั่นเองค่ะแต่ในเมื่อได้เรียนรู้จากความรักครั้งที่ผ่านมาแล้วว่าการไม่สนใจความรู้สึกของตัวเอง มันไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์ความรักดีขึ้นและไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้ หากเธอได้เริ่มต้นความรักครั้งใหม่ก็ต้องยอมฟังความรู้สึกและเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองให้มากขึ้นด้วยนะ
❷ เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใครได้
หลายคนอาจคิดว่าความรักจะเปลี่ยนแปลงคนเราได้… แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยของอีกฝ่ายให้เป็นคนรักในอุดมคติได้หรอกนะเพราะการที่คนเราจะเปลี่ยนแปลงนิสัยและพฤติกรรมได้นั้น มันต้องเกิดจากการที่เขาอยากเปลี่ยนมันเพื่อตัวเองมากกว่าหากเธอคาดหวังว่าหลังจากที่คบกันแล้วจะเปลี่ยนให้คนรักเป็นผู้ชายในแบบที่เธอต้องการ ต้องรักเธอมากที่สุด ต้องดูแลเธอเหมือนเป็นเจ้าหญิง หรือต้องตามใจเธอทุกอย่างแบบไม่ขัดเลยสักนิด ต่อให้จะเปลี่ยนคนรักอีกกี่ครั้งหรือเริ่มต้นใหม่กับใครอีกกี่คน ก็มีหวังต้องจบความสัมพันธ์ลงเหมือนเดิมทุกครั้งนั่นแหละ
❸ แค่ความรักอย่างเดียว ไม่พอที่จะทำให้ความสัมพันธ์ยืนยาว
เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เวลาอินเลิฟตกอยู่ในห้วงเวลาแห่งรัก ก็คงจะแอบวาดฝันว่ารักครั้งนี้ต้องเหมือนเทพนิยาย เธอเป็นเจ้าหญิง เขาเป็นเจ้าชาย แต่งงานกันไปแล้วจบแบบ Happy Ending…แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงต้องแยกระหว่าง“ ความฝัน ”และ “ความจริง ”ออกจากกันให้ได้นะ เพราะไม่ใช่ทุกคู่ที่จะจบด้วยการรักกันยืนยาวหรือแต่งงานสร้างครอบครัวในฝันเสมอไป ที่สำคัญแค่“ ความรัก ”เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ความรักสุขสมหวังยาวนานได้แต่ระหว่างคนสองคนยังต้องมีความผูกพัน ความเข้าใจ ความเชื่อใจ ความเห็นอกเห็นใจ และองค์ประกอบอื่นๆ อีกหลายอย่างเพราะฉะนั้นหากความรักครั้งที่ผ่านมามีแต่ความรักและความหลงใหลในกันและกัน ก็ไม่น่าแปลกใจที่ความสัมพันธ์จะหวานชื่นได้เพียงแค่ไม่นาน แล้วระดับความหวานค่อยๆ จืดชืดลงจนต้องเลิกรากันไปในที่สุด
❹ อย่าใช้ความดีเพื่อเอาชนะใจใคร
สำหรับคนที่ประสบการณ์ความรักยังน้อยมากๆ หรือเพิ่งเคยคบหากับใครจริงๆ จังๆ เป็นครั้งแรกเธอก็อาจคิดแบบโลกสวยว่าถ้าทำดีกับคนรักให้มากๆ ตามใจเขาทุกอย่าง หรือทำตัวเป็นแฟนสาวแสนดีที่เข้าอกเข้าใจเขาเสมอ มันอาจจะช่วยทำให้เขารักเธอมากขึ้นและเห็นคุณค่าในตัวเธอมากขึ้นใช่มั้ยละแต่เราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าอย่าใช้ความดีเพื่อเอาชนะใจใครเด็ดขาด เพราะมันไม่มีทางสำเร็จหรอกนะ เธอไม่เคยได้ยินที่คนเขาชอบพูดกันว่า“ ความรักไม่ใช่รางวัลตอบแทนความดี ”หรอ?!หากความดีมันเอาชนะใจใครได้จริงๆ ก็คงไม่มีผู้หญิงนิสัยดีประหนึ่งแม่พระโดนทิ้งกันเกลื่อนกลาดขนาดนี้หรอกค่ะ ขอให้ท่องจำไว้เลยนะว่าถ้าคนมันไม่รัก ต่อให้ทำดีขนาดไหนเขาก็ยังทิ้งเธอไปได้อยู่ดีนั่นแหละ
❺ อารมณ์โกรธชั่ววูบอาจทำให้เธอรู้สึกเสียใจทีหลัง
การทะเลาะกันระหว่างคนรักมันถือเป็นเรื่องธรรมดาที่คู่รักทุกคู่ต้องพบเจอกันมาแล้วทั้งนั้น แต่ถ้าคู่รักคู่ไหนที่ไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง อันนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากๆ เลยนะ เพราะการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบ่อยๆ เป็นเวลานาน ก็อาจมีเรื่องบางอย่างที่เขาทำแล้วเธอไม่ชอบ หรือทัศนคติของคนสองคนอาจไม่ตรงกันบ้างแล้วหากความรักครั้งที่ผ่านๆ มาสาวซิสและคนรักเป็นพวกไม่มีใครยอมใคร ปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำจนเผลอพูดจาทำร้ายจิตใจ หรือลงมือเขวี้ยงปาข้าวของจนบ้านแทบพังอยู่บ่อยๆ เมื่อถึงเวลาที่ระดับความโกรธเบาบางลงไปแล้ว เธอก็คงรู้สึกเสียใจทีหลังและคิดว่าไม่น่าทำแบบนั้นใช่มั้ยล่ะดังนั้น หากมีโอกาสได้เปิดใจคบกันใครคนใหม่ แทนที่จะใช้อารมณ์แก้ปัญหาก็ควรใช้วิธีหันหน้าพูดคุยกันด้วยเหตุผล จะได้ป้องกันไม่ให้เรื่องราวบานปลายและรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้ด้วยนะ
❻ ต่อให้ความสัมพันธ์จะจริงจังแค่ไหนก็เลิกรากันได้อยู่ดี
สาวๆ คะ ต่อให้เธอและคนรักจะคบกันมาเป็นเวลานานหลายปี หรือความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูมีความจริงจังมากๆ แต่ระยะเวลาและความจริงจังมันก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าความรักครั้งนี้จะยืนยาวไปตลอดได้หรอกนะเพราะหัวใจคนเราอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ วันนี้เธออาจรู้สึกรักเขามากๆ และคิดว่าชีวิตนี้คงขาดเขาไปไม่ได้ แต่พอมีเรื่องเข้ามาทำให้รู้สึกเสียใจหรือกระทบความรู้สึก ก็อาจทำให้ใจของเธอเปลี่ยนไปและหมดรักเขาเรื่อยๆ ก็เป็นได้เพราะฉะนั้นเวลามีความรักก็อย่าคาดหวังว่ารักนี้จะต้องยืนยาวไปตลอดกาล แต่ให้พยายามทำทุกๆ วันให้ดีที่สุดแทน แบบนี้หากต้องเลิกรากันไปเธอจะได้ไม่รู้สึกเสียดาย และทำใจยอมรับความสัมพันธ์ที่จบลงได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง
❼ อย่าคิดว่าเดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง
ทุกครั้งเวลามีปัญหากับคนรักไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องใหญ่ก็ตาม สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดเลยก็คือการเงียบหรือเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองคนเดียวเพราะถึงแม้ช่วงแรกๆ เธอจะยังพอแบกรับความไม่พอใจและความเสียใจเอาไว้ได้ แต่พอเวลาผ่านไปนานๆ เข้าและถึงจุดๆ นึงที่ทนรับไม่ไหวอีกต่อไป ก็จะระเบิดตู้มลงทีเดียวแบบรวบยอดทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ จนไม่สามารถพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจและต้องจบลงที่การเลิกรานี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ได้จากการอกหัก ที่ช่วยสอนให้เธอรู้ว่าเวลาความรักมีปัญหาต้องหันหน้าพูดคุยกันเพื่อบอกเล่าความรู้สึก ความคิด และสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจ รวมทั้งช่วยกันหาทางปรับจูนและแก้ไข้ปัญหานั้นๆ เพื่อให้ความสัมพันธ์เดินหน้าต่อไปได้ค่ะ
●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●・○・●
เป็นยังไงบ้างคะ หลังจากที่ได้อ่านไปจนครบทั้ง 7 ข้อแล้ว สาวๆ รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าความรักที่ไม่สมหวังมันช่วยสอนอะไรเราได้หลายอย่างเลยนะ เพราะช่วงแรกๆ ที่เพิ่งอกหักอาจมีแต่ความรู้สึกเสียใจ โกรธเกลียด และอ้างว้างขั้นสุดแต่พอเวลาผ่านไปและเริ่มทำใจได้มากขึ้น แล้วได้หันกลับไปมองความสัมพันธ์ครั้งที่ผ่านมา ก็จะช่วยให้เธอมองเห็นชัดเจนขึ้นว่าตัวเองเคยทำพลาดไปตรงไหนบ้าง สิ่งไหนที่ไม่ควรทำเพราะมันอาจบั่นทอนความรัก หรือหากจับสัญญาณอะไรได้บางอย่างก็ควรเริ่มระมัดระวังให้ดีๆ เพื่อที่เวลามีความรักครั้งใหม่จะได้ไม่ทำผิดซ้ำแบบเดิมจนรักพังอีกไงล่ะ (ˇʃƪˇ)
