รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/b5/28/da/b528dac69b635c142d4f6e8c05455990.jpg

เวลาที่เราเพ้นท์เล็บด้วยตัวเองที่บ้านแล้วพบว่ายาทาเล็บที่เก็บไว้เริ่มหมุนยาก เปิดไม่ง่ายเหมือนเคย แสดงว่ายาทาเล็บเริ่มส่งสัญญาณว่าความเหนียวยืดเริ่มมาเยือน และยาทาเล็บจะแห้งไปในไม่ช้า สาวๆ หลายคนเห็นแบบนี้แล้วก็เข้าใจว่าน้ำยาทาเล็บคงหมดอายุเหนียวข้นจนใช้ไม่ได้แล้ว งั้นก็โยนทิ้งไปละกัน..

แต่เดี๋ยวๆๆกดปุ่ม rewind ย้อนไปนาทีที่ 0.48 ซักนิดเราจะพบว่าวันนี้เราจะพาสาวๆ มาดูวิธีแก้เหนียวหนืดยืดย้วยหยิบยาทาเล็บขวดเหนียวหนืดนั้นขึ้นมาแล้วมากู้ชีพให้สีกลับมาสวยเข้ม สามารถใช้ทาได้เหมือนเพิ่งซื้อมาจากร้านใหม่ๆ กันเลยค่ะ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/c8/f0/2a/c8f02a0472b3e5e236b4912144c68a8b.jpg

Do : กู้ชีพยาทาเล็บให้หายหนืดหายข้นกันเถอะ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/03/51/db/0351db664eb6b1a70fad07cfa5f07f5f.jpg

เมื่อไหร่ก็ตามที่สาวๆ พบว่ายาทาเล็บของตัวเองมันหนืด มันยืด ข้นจนแทบจะควักออกมาทาไม่ได้ให้ลองใช้วิธีเยียวยาตามขั้นตอนเหล่านี้ดูก่อน

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/fa/8b/69/fa8b691163d355fbf65b9c0fc1c28dc3.jpg

-ลองใช้ทินเนอร์เติมสีทาเล็บหรือ Nail Lacquer Thinnerที่มีอยู่แล้ว หรือหากไม่มีก็หาซื้อมา ลองคำนวณดูก็คุ้มค่านะ เพราะราคาทินเนอร์นั้นถูกกว่ายาทาเล็บขวดใหม่เยอะ แถมเก็บไว้ใช้ได้ตลอดด้วย จากนั้นก็หยดทินเนอร์เติมสีทาเล็บลงในยาทาเล็บขวดเหนียวหนืดขวดนั้นซัก 2-3 หยด

- หยุดนะ อย่าเขย่า! เรารู้นะว่าสาวๆ เตรียมจะเขย่า เชคๆ ให้ยาทาเล็บกับทินเนอร์เติมสีทาเล็บเบลนด์เป็นเนื้อเดียวกัน แต่นั่นหาใช่วิธีที่ถูกไม่ กลับจะทำให้เกิดฟองอากาศในยาทาเล็บขึ้นมาเสียเปล่าๆพาลจะทำให้ยาทาเล็บแห้งและแตกได้ง่ายขึ้นไปอีกด้วยซ้ำวิธีทำให้น้ำยาทั้งสองผสมกันคือการกลิ้งขวดค่ะ ใช้สองมือประคองหมุนขวดไปมา เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

- เตือนก่อนว่าใช้ทินเนอร์เติมสีทาเล็บผสมได้ไม่ได้แปลว่าใช้น้ำยาล้างเล็บผสมแทนกันได้นะคะ!การทำอย่างนั้นเท่ากับว่าเราได้ทำร้ายคุณภาพน้ำยาทาเล็บให้พังและเสียหายเร็วยิ่งขึ้นเพราะยาทาเล็บจะเหนียวจนข้นหนัก ทาไม่ได้เลยล่ะค่ะ

- สำหรับใครที่ไร้ซึ่งทินเนอร์เติมสีทาเล็บจริงๆ แต่จำเป็นต้องแก้ไขน้ำยาทาเล็บให้ใช้ได้ดังเดิมแบบด่วนที่สุด ยังมีอีกวิธีหนึ่งมาให้ลอง นั่นก็คือลองใช้น้ำร้อนค่ะ แต่ไม่ได้ให้หยดลงไปในยาทาเล็บนะ แต่ใช้วิธีจุ่มขวดยาทาเล็บทั้งขวดลงไปในอ่างใส่น้ำร้อน แช่ไว้ซัก 1-2 นาที แล้วจับมากลิ้งบนมืออีกครั้ง ( ตรงขั้นตอนนี้ให้ระวังขวดยาทาเล็บจะร้อนด้วยนะคะ! ) ทำขั้นตอนนี้ซ้ำวนไปจนกว่าจะได้ยาทาเล็บที่เนื้อดีใช้ทาได้สมใจสาวๆ ค่ะ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/cf/10/f1/cf10f1a09eded1bac860e7ad7885f5ee.jpg

Don’t : ป้องกันยาทาเล็บไม่ให้ข้นและให้คงคุณภาพไว้ได้นานที่สุด

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/73/9f/c5/739fc5feb5e02755d987895fc2654625.jpg

เมื่อมีวิธีDoก็มาดูวิธีDon’tเพื่อป้องกันไม่ให้ยาทาเล็บเหนียวเร็วกันบ้าง

- ไม่ควรเก็บยาทาเล็บไว้ในที่ร้อน อับ ชื้น แต่ควรเก็บในที่ที่มีอากาศค่อนข้างเย็นและถ่ายเทดี บางคนอาจจะคิดว่าเก็บไว้ในห้องน้ำน่าจะเวิร์ค แต่หากสาวๆ ใช้ไดร์เป่าผมหรือเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นแล้วล่ะก็ ห้องน้ำก็คงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไหร่นักค่ะ

- วิธีป้องกันไม่ให้แห้งเร็วได้ดีที่สุดคือวางยาทาเล็บเก็บให้ถูกด้าน ไม่ต้องคว่ำท่าพิสดารอะไร เพียงตั้งตรงไว้เฉยๆ ก็ดีอยู่แล้วค่ะ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเปลี่ยนที่แห้งของยาทาเล็บไปแห้งที่คอขวดแทน

- ใช้สำลีจุ่มน้ำยาล้างเล็บให้ชุ่มแล้วเช็ดทำความสะอาดบริเวณคอด้านในของขวดยาทาเล็บ วิธีนี้จะช่วยป้องกันอากาศจากภายนอกไม่ให้เข้าไปข้างในได้ง่ายๆ และทำให้ขวดยาทาเล็บปิดฝาได้สนิทแนบแน่นขึ้นด้วยค่ะ

- ปิดฝาขวดยาทาเล็บให้แน่นเสมอและอย่าเปิดฝาทิ้งไว้นานๆ โดยไม่จำเป็นค่ะ เพราะเจ้าอากาศตัวดีนี่ล่ะทำให้น้ำยาทาเล็บของเราเหนียวหนืดยืดข้นได้เร็วซะเหลือเกิน

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/b9/4d/f3/b94df30f8b9c0b406e59ae7d4daf0709.jpg

ถ้าวิธีDo & Don’tที่ยกมานี้ยังไม่สามารถช่วยชีวิตยาทาเล็บสวยๆให้กลับมามีคุณภาพได้เหมือนเดิมจริงๆ สาวๆ ก็คงจะต้องหาซื้อขวดใหม่ที่สีถูกใจแบบเดิม แต่ถ้ายังไม่เคยลองกู้ชีพยาทาเล็บกันมาก่อนเราก็อยากให้ลองดูค่ะ เพราะวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่เวิร์คมากจริงๆ ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อขวดใหม่ ไม่เสียดายขวดเก่าที่ยังเหลือน้ำยาอยู่ตั้งเยอะ และยังเป็นวิธีอันชาญฉลาดที่ช่วยชีวิตเราให้ง่ายขึ้นยาทาเล็บก็อยู่กับเราได้ยาวนานขึ้น โอ้ย ดีขนาดนี้ก็ทำเถ๊อะ :)

บทความที่เกี่ยวข้อง