ทริปล่าทะเลหมอก "กิ่วแม่ปาน" เชียงใหม่ สาวรักผจญภัยห้ามพลาด!
เบื่อความร้อนกรุงเทพ หนีไปขึ้นดอยกันดีกว่าค่ะ
เผยแพร่: 19 ม.ค. 2560 17:22 น.
Views: 6,613
รหัสบทความ: 18965
สวัสดีเจ้า วันนี้หมู่เฮาอยู่กันตี้ เจียงใหม่เจ้าาาาาา
เชียงใหม่
คงเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆ คนเลยใช่มั้ยล่ะคะ ทั้งบรรยากาศบ้านเมือง ทั้งอากาศ ล้วนแต่เป็นสิ่งดึงดูดใจให้ใครๆ ก็อยากไปเที่ยว ยิ่งช่วงฤดูหนาวนี่ โอ้โห แน่นกันไปหมดเลยล่ะค่ะ หลายๆ คนคงมีสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ที่สนใจอยู่ในใจกันแล้ว กว่าครึ่งก็น่าจะเป็นดอย หรือ ม่อน อะไรสักอย่างนึง แต่สำหรับ
Hidekoririn
เสน่ห์ที่มัดใจเราที่สุดคือ
" เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน "
วันนี้เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกิ่วแม่ปานกันค่ะ
ไ
หนๆ ก็ไปดอยอินทนนท์แล้ว แวะไปเดินเล่นกิ่วแม่ปานกันหน่อยดีกว่า ขอบอกว่าสวยอลังการมากเด้อออ !!
กิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงประมาณ2,000เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ ทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของดอยอินทนนท์นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่านำทาง 200 บาท จุดบริการตั้งอยู่ตรงทางเริ่ม โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า ตั้งแต่ เวลา 6 โมง เช้าช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมจุดชมวิวกิ่วแม่ปานคือ เดือนธันวาคม-มกราคมส่วนเดือนมิถุนายน-ตุลาคมเส้นทางนี้ปิดบริการเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ
ข้อมูลติดต่อ
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ป.ณ.2 ม.7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160
โทรศัพท์ 0 5328 6730, 0 5328 6728 โทรสาร 0 5328 6728
ส่วนอุทยานแห่งขาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
โทรศัพท์ 0-5381-8348 หรือ
เมื่อเดินเข้าไปถึง
จุดที่ 3 ป่าต้นน้ำกำเนิดสายธาร
จะพบกับ
น้ำตกลานเสด็จ
เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่ภายรอบมีมอสปกคลุม มีน้ำไหลตลอดช่วงฤดูหนาว ถือเป็นแหล่งต้นน้ำจุดหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำตกแหล่งนี้ไม่อนุญาตให้ลงเล่น
จุดที่ 4 พืชพรรณป่าเมฆ
ส่วนใหญ่ของกิ่วแม่ปานเป็นป่าดิบเขา ป่าเมืองหนาวผสมพืชดึกดำบรรพ์ ไม่มีการผลัดใบแต่ยังเขียวตลอดปี ในช่วงต้นหนาว ป่าจะถูกหมอกปกคลุมจนมองไม่เป็นยอดไม้ เป็นที่มาของชื่อ
ป่าเมฆ
และจุดต่อไปที่เรากำลังจะไปเจอ ต้องขอบอกเลยว่าระหว่างทางที่เดินไปคือเหนื่อยมากๆ 3 กิโลคือไม่ไกลแต่มันชันมากๆ เพราะว่าเราขึ้นเขากัน ถูกมะ 55 แต่ก็นั่นแหล่ะค่ะ พอพ้นป่าตรงนี้ออกไป
สิ่งที่เราได้พบคือพูดเลยว่าหายเหนื่อยมากๆ มันคุ้มที่พยายามขึ้นมาถึงที่นี่ เพราะจะมีหลายคนที่ถอดใจกลับลงไปทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงไฮไลท์ก็มี บอกเลยว่าเสียดายแทน
ที่เราจะพบคือ
จุดที่ 7 คือทุ่งหญ้าเมืองหนาว
ค่ะ
ทุ่งหญ้าเมืองหนาวหรือทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์
ตามสภาพทางธรรมชาติ เป็นทุ่งหญ้าและพืชล้มลุกโล่งกว้างบนเนินเขา ที่มักจะพบในเขตที่สูงและหนาวเย็น ยอดหญ้าที่พัดไปตามลมและท้องฟ้าที่ฟ้าสด ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังอยู่ในหนังอะไรสักเรื่อง หรือไม่ก็วอลเปเปอร์ทุ่งหญ้าที่มาพร้อมกับวินโดว์ มันสุดยอดมากจริงๆ
หลุดจากทุ่งหญ้าเมืองหนาวจะพบกับเฟิร์นทนไฟ
คือไม้เมืองหนาวที่ปลูกปะปนกับต้นสาบหมาที่สามารถทนไฟได้ มีต้นเฟิร์นกูดเกี๊ยะใบหนาแข็ง ลดการคายน้ำ ซ่อนลำต้นไว้ใต้ดิน
และเดินต่อไปจนพบ
จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน
ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่เลย ตรงต่อไปเรื่อยๆ ทางเดินจะแคบลง เรียกว่า
สันกิ่วแม่ปาน
ซึ่งคำว่ากิ่วเป็นภาษาเฉพาะใช้เรียกสันเขาแคบๆ ทางเดินติดหน้าผา สามารถเดินได้แบบเรียงคน แต่มีรั้วไม้ให้นักท่องเที่ยวใช้จับค่ะ เพราะทางค่อนข้างชัน ขอบอกว่าแอบเสียวแต่สวยมากๆ จะเจอกับผาแง่มน้อยต้นกุหลาบพันปี ค่ะ
ต้นกุหลาบพันปี
หนึ่งในพันธุ์ไม้หายาก จะขึ้นอยู่ตามหน้าผาและซอกหินมาสันเสา ออกดอกเฉพาะฤดูหนาวช่วงธันวาคม ถึง กุมพาพันธ์ ปกติจะมีสีขาวด้วย แต่ที่กิ่วแม่ปานพบแต่ดอกสีแดง
ผาแง่มน้อย
แท่งหินสองแท่งสัญลักษณ์ของกิ่วแม่ปาน เป็นแท่งหินประกบคู่กันตั้งอยู่ริมเชิงผา มีอายุหลายร้อยล้านปี มีตำนานว่าเป็นตัวแทนของคู่รัก
จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน
ผาแง่มน้อย
ต้นกุหลาบพันปี
จุดชมวิวพระมหาธาตุนภเมทนีดล
เป็นจุดชมวิวขากลับที่สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ 2 พระมหาธาตุชื่อดังบนดอนอินทนนท์
เป็นอย่างไรบ้างคะ ประเทศไทยก็สวยไม่แพ้ชาติใดในโลกเลยใช่มั้ยล่ะคะ ขอบอกว่า ชอบความรู้สึกตอนไปที่นี่มากๆ ที่ตอนแรกๆ มันเหนื่อยและรู้สึกว่า
ฉันมาทำอะไรที่นี่
แต่พอขึ้นไปเห็นความงามที่ธรรมชาติสร้างข้างบน รู้สึกเลยว่าดีแล้ว ดีมากๆ ที่ขึ้นมา
สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป ถ้ามีโอกาสขึ้นไปเชียงใหม่ก็อย่าลืมแวะไปที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานกันนะคะ เตรียมไปทั้งกล้อง แบต กาย ใจ แล้วไปตะลุยเหนือกันเถอะค่ะ
ส่วนครั้งต่อไปเราจะไปทำความรู้จักกันที่ไหน รอติดตามชมกันด้วยนะคะสาวๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง
