สวัสดีค่ะ สาว ๆ ชาวซิสวันนี้เรากลับมาพบกันกับบทความชวนตั้งคำถามว่าเรารักตัวเองหรือว่ากำลังหลงตัวเองอยู่กันแน่ ?ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะ ว่าบางทีคนที่บอกว่าเขารักตัวเองนักหนา แต่จริง ๆ อาจจะเป็นคนหลงตัวเองก็ได้ ความมั่นใจในตัวเอง การรักตัวเองถือเป็นเรื่องที่ดีและต้องมี แต่ถ้ามันมากเกินไปล่ะ จะเป็นการหลงตัวเองหรือเปล่า !? แล้วมันวัดจากอะไร ตรงไหนคือสัญญาณ ? ลองเช็กลิสต์กันดีกว่าค่ะ
ความหมายที่เป็นเส้นบาง ๆ รักตัวเองหรือหลงตัวเอง ? เช็คลิสต์กันหน่อย
การรักตัวเอง คืออะไร?
สรุป
ก่อนอื่นเราจะเริ่มจากการอธิบายว่าการรักตัวเองคืออะไรกันก่อน
การรักตัวเองคือการเห็นคุณค่าในตัวเองและการให้เกียรติตัวเอง
มันคือการให้เกียรติความรู้สึก ความเป็นตัวตนและขอบเขตที่เราได้สร้างขึ้น มันไม่ใช่การเห็นแก่ตัว ถ้าหากว่าเรารักตัวเอง
เราก็จะปฏิบัติต่อตัวเองอย่างดีเหมือนกับที่เราปฏิบัติต่อคนที่เรารัก
มันคือการที่เราพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขและมีคุณค่าโดยที่ไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี เพราะการมีความรักจากตัวเรา จะทำให้เราสามารถพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น คนที่ดีขึ้น คนที่มีความมั่นใจและยังสามารถทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้างได้อีกด้วย
การหลงตัวเองคืออะไร
ต่อมาเราจะมาธิบายกันถึงคนที่หลงตัวเอง การหลงตัวเองคืออะไร
การหลงตัวเองก็คือการที่เราคิดว่าเราคือสิ่งที่สำคัญที่สุดโดยที่ไม่สนใจใครเลย
คนที่หลงตัวเองมักจะไม่มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นและเป็นคนที่ยอมรับคำวิจารณ์ไม่ได้ ต่อให้จะเป็นแค่ข้อโต้แย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม พวกเขาก็จะไม่สามารถที่จะรับมันได้แม้แต่นิด
คนที่หลงตัวเองมักจะคิดว่าตัวเองอยู่เหนือกฏทุกอย่างและเป็นคนที่เก่งกว่าทุกคน โดยลักษณะนิสัยทีเด่นออกมามากที่สุดของคนที่หลงตัวเองก็คือ พวกเขามักที่จะพูดโอ้อวดเกี่ยวกับความสำเร็จของตัวเองและคิดว่าตัวเองคือศูนย์กลางของจักรวาล แต่มากไปกว่านั้น คนที่หลงตัวเองมากที่จะมีนิสัยชอบควบคุม แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามพวกเขาอาจจะดูมีเสน่ห์เวลาที่พวกเขาต้องการอะไรบางอย่าง อีกอย่างก็คือคนที่หลงตัวเองมักจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนัก เพราะพวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น และมักที่จะกล่าวโทษให้กับใครก็แล้วแต่ที่มาชี้ข้อบกพร่องของพวกเขา
สัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังเป็นคนที่หลงตัวเอง
รู้สึกทนไม่ได้ที่เห็นคนอื่นดีหรือว่าเก่งกว่า :โดยทั่วไปแล้วคนที่หลงตัวเองมักที่จะพยายามทำให้ตัวเองเก่งกว่าคนอื่นอยู่เสมอ ในที่นี้หมายถึง สมมุติว่ามีคนมาเล่าว่าเขาไปประสบความสำเร็จด้านไหนมา คนที่หลงตัวเองก็มักที่จะดึงพวกเขาลง ด้วยกันพยายามอวดความสำเร็จของตัวเอง เพื่อให้อีกคนรู้สึกว่าความสำเร็จของพวกเขามันน่าภูมิใจน้อยกว่าของตัวเอง
รู้สึกว่าต้องดูดี ดูเป็นคนเก่ง มากกว่าการที่จะเป็นคนเก่งแบบจริง ๆ :อีกอย่างก็คือพวกเขามักที่จะใส่ใจกับว่าตัวเองดูเป็นคนแบบไหน หรือมักที่จะมองตัวเองผ่านเลนส์ของคนอื่นมากกว่าการที่จะถามความรู้สึกของตัวเองว่าจริง ๆ แล้วเราเป็นคนแบบไหน พวกเขามักที่จะปกปิดความว่างเปล่าของตัวเองด้วยสิ่งของต่าง ๆ อย่างเช่น เสื้อผ้าที่ดูดี หรือเครื่องประดับที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาอยู่เหนือกว่าคนอื่น และก็จะตัดสินคนอื่นที่อาจจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่ดูดี หรือของแบรนด์เนมว่าเป็นคนที่ไม่มีคุณค่า หรือความสามารถเทียบเท่ากับพวกเขา
รู้สึกว่าต้องให้คนอื่นช่วยตัดสินความเก่งของอยู่เสมอ :อีกนิสัยหนึ่งของคนที่หลงตัวเองก็คือ พวกเขามักที่จะขอให้คนอื่นเช็คตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองเก่งพอหรือยัง พวกเขาต้องให้คนอื่นคอยชมตัวเองอยู่เสมอ เพราะว่าพวกเขาไม่รู้สึกถึงคุณค่าของตัวตนของเขาเอง ไม่รู้สึกว่าตัวเองเก่งมากพอโดยแท้จริง
ข้อแตกต่างของการรักตัวเองและหลงตัวเอง
ต่อมาเราจะมาบอกถึงข้อแตกต่างระหว่างการรักตัวเองและกันหลงตัวเองว่ามีจุดไหนที่เด่น ๆ กันบ้างนะคะ
→ คนที่รักตัวเองมักที่จะมีความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจในตัวเองและคนอื่นอยู่เสมอ
ในขณะที่คนที่หลงตัวเองมักจะต้องการให้คนอื่นมองว่าตัวเองมีอำนาจและมีความยิ่งใหญ่กว่า
→ การรักตัวเองคือการยอมรับและโอบกอดในทุก ๆ ด้านที่เป็นเราในขณะที่การหลงตัวเองคือความรู้สึกที่ต้องการจะตัดสินคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
→ การรักตัวเองคือการดูแลและเอาใจใส่ในสิ่งที่เราต้องการในขณะที่การหลงตัวเองคือการควบคุมและใช้งานคนอื่นเพื่อให้พวกเขาทำตามสิ่งที่เราต้องการ
→ การรักตัวเองคือการเป็นตัวตนของเราและเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกในขณะที่การหลงตัวเองมักที่จะติดอยู่กับการพยายามเป็นคนที่เพอร์เฟคสมบูรณ์แบบและไม่มีข้อติ
→ การรักตัวเองคือการพยายามที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขและเติมเต็มในขณะที่การหลงตัวเองมักที่จะก่อให้เกิดความรู้สึกเหงาและว่างเปล่า
꘎♡━━━━━♡꘎
ก็จบกันไปแล้วกับหัวข้อในวันนี้นะคะ ไหนทุกคนได้เช็กลิสต์กันแล้วค้นพบว่าตัวเองกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปแล้วหรือยัง ? จริง ๆ เราคิดว่าต่อให้เป็นคนที่หลงตัวเองก็ยังสามารถที่จะพัฒนาตัวเองได้เสมอค่ะถ้าเรามีความเข้าอกเข้าใจแล้วก็ลองปรับมุมมองในด้านต่าง ๆ ลองใจดีกับตัวเองมากขึ้นเราก็สามารถที่จะกลับมารักตัวเองได้อยู่เสมอแล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อไป อย่าลืมลองอ่านบทความน่าสนใจอื่น ๆ ในhttps://sistacafe.com/กันนะคะ บ๊ายบาย
Is Self-Love Healthy or Narcissistic?
https://www.psychologytoday.com/intl/blog/the-clarity/201702/is-self-love-healthy-or-narcissistic
Cr.https://www.psychologytoday.com/intl/blog/the-clarity/201702/is-self-love-healthy-or-narcissistic
Cr.https://enlightio.com/self-love-vs-narcissism-what-is-the-difference
บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด
https://sistacafe.com/summaries/95193
https://sistacafe.com/summaries/94883
https://sistacafe.com/summaries/93704