Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจ ที่ไม่ได้มีแค่ขบวนพาเหรดสุดอลังหรือสีรุ้งสวยงามเท่านั้น แต่เป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลอง “การมีอยู่” ของทุกตัวตน เพื่อประกาศให้รู้ว่า “เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร เพศไหน ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะยืนบนโลกนี้” โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิดในการเป็นตัวเอง ไม่ต้องแอบ ปิดบัง ปกปิดตัวตน และไม่ต้องขอโทษใครในการที่จะเป็นตัวเอง
ในยุคนี้ที่เปิดกว้างให้กับการตั้งคำถามเกี่ยวกับทุกกรอบ ทุกคำนิยาม ทุกเพศ ทุกความรู้สึก Pride Month คือพื้นที่ปลอดภัยที่เราจะสามารถหาคำตอบของตัวตน และเป็นพื้นที่ที่เราสามารถประกาศให้โลกรู้ว่า “ความหลากหลายไม่ใช่ปัญหา แต่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ของความต่าง”
และเบื้องหลังธงไพรด์แต่ละผืนที่โบกสะบัด ไม่ได้มีแค่สี...แต่มีเรื่องราว ความฝัน และน้ำตาของผู้คนมากมายที่เคยถูกมองไม่เห็น บทความนี้ซิสจะพาไปสำรวจโลกของธง Pride ในแบบที่อ่านแล้วทั้งเข้าใจ และอาจจะยิ้มออกได้ในใจว่า เราทุกคน “สามารถเป็นตัวเอง”
・・・・・・・・・・・・・・・・
จุดเริ่มต้นของ Pride Month

“ เบื้องหลังธงไพรด์แต่ละผืนที่โบกสะบัด ไม่ได้มีแค่สี แต่มีเรื่องราว ความฝัน และน้ำตาของผู้คนมากมายที่เคยถูกมองไม่เห็น ” เราขอเริ่มด้วยการพาทุกคนย้อนรอยกลับไปในอดีต จากจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆ ก่อนจะกลายมาเป็น Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจกันค่ะ
ในยุคก่อนการมีความรักกับเพศเดียวกัน หรือแม้แต่การแสดงออกที่ตรงข้ามกับเพศสภาพของตนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในสังคม ทำให้การใช้ชีวิต อย่างเปิดเผย ของกลุ่ม LGBTQIA+ เรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว แต่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะมีสถานที่ลับแห่งหนึ่ง ซึ่งรู้กันว่าเป็นเหมือนพื้นที่เล็กๆ ที่พวกเขาเหล่านี้จะได้ปลดปล่อยตัวตน ความเป็นตัวเองออกมา นั่นก็คือ Stonewall Inn บาร์ลับยามค่ำคืนย่านกรีนวิชวิลเลจ และบาร์แห่งนี้นั้นเองคือจุดกำเนิดของ Pride Month ที่แลกมาด้วยน้ำตา
คืนวันที่ 28 มิถุนายน 1969 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจค้นบาร์ Stonewall Inn แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนในบาร์ต่างก็ขัดขืนและไม่ยอมต่อการเลือกปฏิบัติของตำรวจ จนกลายเป็นการจลาจลที่ขยายวงกว้างออกมาบนถนนบริเวณหน้าบาร์ ต่อมามีผู้คนจำนวนหลายพันคนมาที่บาร์เพื่อชุมนุมและแสดงพลังของชุมชน LGBTQIA+ สู่ชาวโลก
จากเหตุการณ์จลาจลและความรุนแรงในวันนั้น นำมาสู่การเดินขบวนเรียกร้องสิทธิสำหรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศครั้งแรกในวันที่ 28 มิถุนายน 1970 ที่นิวยอร์ก เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ Stonewall และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่กลุ่ม LGBTQIA+ ออกมาเดินพาเหรดเพื่อแสดงจุดยืนของตนเองต่อมาจนถึงปัจจุบัน
・・・・・・・・・・・・・・・・
ธงสีรุ้ง : เรื่องราวและความหมายของแต่ละสี

ทำไม “สีรุ้ง” (Rainbow Flag) จึงเป็นตัวแทนความหลากหลายทางเพศ ?
ผู้ให้กำเนิดธงสีรุ้ง คือ กิลเบิร์ต เบเกอร์ (Gilbert Baker) ศิลปินและนักเคลื่อนไหวชาว LGBTQIA+ โดยเบเกอร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง "Over the Rainbow" ที่ร้องโดย จูดี การ์แลนด์ (Judy Garland) นักร้องและนักแสดง ผู้ถูกยกย่องให้เป็นเกย์ไอคอนคนแรก
รวมไปถึงเบเกอร์ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "ธงห้าเชื้อชาติใต้หนึ่งสหภาพ" ที่ใช้ในช่วงการการปฏิวัติซินไฮ่ เพื่อโค่นล้มราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองจีน การปฏิวัติได้เปลี่ยนการปกครองของประเทศไปสู่ประชาธิปไตยและสถาปนาสาธารณรัฐจีน ที่เป็นธง 5 สีแนวนอน ประกอบไปด้วยสีแดง เหลือง น้ำเงิน ขาว ดำ นอกจากนั้น สายรุ้งยังเป็นความสวยงามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แสดงถึงการรวมตัวของทุกเฉดสี เปรียบเหมือนตัวแทนของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย
ธงสีรุ้ง ถูกใช้ครั้งแรกในงานพาเหรด "San Francisco Gay Freedom Day" เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2521 มีทั้งหมด 8 สี มีความหมายแตกต่างกันออกไปดังนี้
สีชมพูเฉดฮอตพิงก์ (Hot pink) เป็นตัวแทนของ เพศ (Sex)
สีแดง (Red) เป็นตัวแทนของ ชีวิต (Life)
สีส้ม (Orange) เป็นตัวแทนของ การเยียวยา (Healing)
สีเหลือง (Yellow) เป็นตัวแทนของ แสงอาทิตย์ (Sunlight)
สีเขียว (Green) เป็นตัวแทนของ ธรรมชาติ (Nature)
สีเทอร์ควอยส์ (Turquoise) เป็นตัวแทนของ เวทย์มนตร์ (Magic)
สีน้ำเงินคราม (Indigo) เป็นตัวแทนของ สันติสุข (Serenity)
สีม่วง (Violet) เป็นตัวแทนของ จิตวิญญาณ (Spirit)
จนในปี 2522 สีชมพูแบบฮอตพิงก์ และสีเทอร์ควอยส์ ได้ถูกตัดออกไป และธงสีรุ้งจะเหลือเพียง 6 สี ที่ใช้อยู่ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เป็นธงที่ถูกนำมาใช้ร่วมกันมากที่สุด หลังจากนั้น Rainbow Flag ก็ถูกวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ ตามกลุ่มความหลากหลายที่เพิ่มขึ้น
จนมาถึงธงรุ่นล่าสุดอย่าง Intersex-Inclusive Progress Pride Flag ถูกสร้างโดย "วาเลนติโน เวคคิเอตติ" (Valentino Vecchietti) แห่ง Intersex Equality Rights UK ซึ่งได้เพิ่มกลุ่ม Intersex หรือบุคคลผู้มีลักษณะทางเพศกำกวม เข้าไปในธงด้วย มีการอัปเดตธงในปี ค.ศ. 2021 และทำหน้าที่เป็นธง LGBTQIA+ มาจนถึงปัจจุบัน
・・・・・・・・・・・・・・・・
รู้จัก ธงไพรด์ (Pride Flags) ของกลุ่มเพศและอัตลักษณ์ต่างๆ

แม้ ธงสีรุ้ง (Rainbow Flag) จะเป็นสัญลักษณ์ที่รู้จักอย่างแพร่หลายของ Pride Month แต่ทุกคนทราบไหมคะว่า ไม่ได้มีแค่ธงสีรุ้งเท่านั้น ที่บอกเล่าเรื่องราวและเป็นเหมือนตัวแทนแห่งความภูมิใจของชาว LGBTQIA+ เราลองไปทำความรู้จัก ธงไพรด์ (Pride Flags) ของกลุ่มเพศ และอัตลักษณ์ต่างๆ เพิ่มเติมกันดีกว่าค่ะ
ธงคนข้ามเพศ (Transgender Pride Flag)
‘ทรานส์’ ย่อมาจากคำว่า Transgender หรือในภาษาไทยคือ ‘คนข้ามเพศ’ เป็นคำที่ถูกนำมาใช้ในการนิยามผู้ที่ข้ามอัตลักษณ์ทางเพศ จากเพศกำเนิดไปสู่ตัวตนทางเพศของตัวเอง
สีของธงคนข้ามเพศประกอบไปด้วย สีฟ้าอ่อนและสีชมพูอ่อนสื่อถึงเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง และสีขาวสื่อถึงกลุ่มคนที่เป็นกลางทางเพศ หรือคนที่มีเพศกำกวม (intersex) นอกจากนี้ ความสมมาตรของธงยังทำให้เห็นว่า “ไม่ว่าธงจะโบกไปอย่างไร ความหมายที่ส่งออกไปก็จะสะท้อนถึงตัวตนได้เช่นเดิม”
ธงนอนไบนารี (Non-binary Pride Flag)
Non-binary นอนไบนารี คือคนที่ระบุว่าตัวเองไม่ใช่ทั้งชายและหญิง ซึ่งรวมถึงกลุ่มเควียร์ queer (คำเรียกโดยกว้างของเพศที่สาม) และกลุ่ม genderfluid (คนที่มีความลื่นไหลของอัตลักษณ์ทางเพศที่สามารถเปลี่ยนไปมาได้) นอนไบนารีจึงมักต้องการให้ผู้อื่นเรียกแทนว่า they/them มากกว่าสรรพนามระบุเพศ
ธงของคนกลุ่มนี้จึงประกอบด้วยสีต่างๆ ที่แทนคนกลุ่มย่อยของนอนไบนารี ได้แก่ สีเหลืองแทนคนที่เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด , สีขาวแทนความเป็นกลางทางเพศ , สีม่วงลาเวนเดอร์แทนคนที่เป็นเควียร์ และสีดำแทนคนที่ไม่ต้องการระบุเพศ
ธงไบเซ็กชวล (Bisexual Pride Flag)
Bisexual หมายถึงบุคคลที่สามารถมีความรักได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง หรือเรียกสั้นๆ ว่า ไบ (Bi) เป็นรสนิยมทางเพศ หรือความสนใจทางเพศที่มีต่อบุคคลอื่น คนที่มีรสนิยมแบบไบเซ็กชวลอาจมีประสบการณ์ทางเพศ อารมณ์ ความรัก กับคนที่มีลักษณะทางเพศที่เป็นเพศเดียวกับตัวเอง หรือเพศตรงข้าม ไม่เจาะจงว่าเป็นเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น
สีของธงไบเซ็กชวลคือการผสมผสานกันระหว่างสีชมพูกับสีน้ำเงินและเกิดเป็นสีม่วงที่อยู่ตรงกลาง โดยสีชมพูแทนความดึงดูดต่อเพศเดียวกัน , สีน้ำเงิน แทนความดึงดูดต่อเพศตรงข้าม และสีม่วงแทนความดึงดูดต่อคนทั้งสองเพศ ซึ่งก็คือนิยามของไบเซ็กชวลนั่นเอง นอกจากนี้ ความกลมกลืนของธงยังสะท้อนถึงลักษณะของคนที่เป็นไบเซ็กชวลที่สามารถผสมกลมกลืนไปกับทั้งกลุ่ม straight และกลุ่มคนที่ชอบเพศเดียวกันอีกด้วย
ธงแพนเซ็กชวล (Pansexual Pride Flag)
Pansexual แพนเซ็กชวล คือคนที่เปิดกว้างเรื่องความรักโดยไม่ใช้เรื่องเพศเป็นตัวกำหนด (pan- มาจากภาษากรีก แปลว่า ทั้งหมด) ความดึงดูดต่อคนทั้งหมดถูกสะท้อนออกมาในธงของแพนเซ็กซวล
สีของธงแพนเซ็กชวลประกอบไปด้วย สีชมพูแทนความดึงดูดต่อเพศหญิง สีฟ้าแทนความดึงดูดต่อเพศชาย และสีเหลืองแทนความดึงดูดต่อเพศใดๆ ก็ตามที่ไม่ใช่ชายหรือหญิง
ธงเอเซ็กชวล (Asexual Pride Flag)
Asexual เอเซ็กชวล คือคนที่ไม่รู้สึกดึงดูดทางเพศกับใคร หรือไม่ค่อยมีความสนใจกิจกรรมทางเพศ ไม่ว่าจะเป็น กอด จูบ หรือเพศสัมพันธ์ จนอาจเรียกว่าเป็นคนที่ไม่ฝักใฝ่ทางเพศ
สีของธงเอเซ็กชวลประกอบด้วย สีดำแทนความไม่ฝักใฝ่ทางเพศ , สีเทาแทนความก้ำกึ่งระหว่างฝักใฝ่ทางเพศและไม่ฝักใฝ่ทางเพศ , สีขาวแทนความเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม LBGTQIA+ อื่น ๆ และสีม่วงแทนการรวมกลุ่ม

ธงเลสเบี้ยน (Lesbian Pride Flag)
Lesbian คือ ความรู้สึก รสนิยมทางเพศของผู้ที่มีรสนิยมชื่นชอบเพศเดียวกัน ในแบบผู้หญิงรักผู้หญิง
สีของธงของเลสเบี้ยนค่อนข้างมีหลายรูปแบบ และมีการปรับเปลี่ยนหลายครั้ง แต่ธงที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบันคือธงที่ใช้แถบสีส้มและสีชมพูเป็นหลัก ซึ่งมีทั้งเวอร์ชัน 5 แถบและ 7 แถบ ประกอบด้วย สีส้มเข้ม แทนความไม่สอดคล้อง , สีส้มอ่อน แทนการรวมกลุ่ม , สีขาว แทนความสัมพันธ์ที่มีเอกลักษณ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง , สีชมพู แทนความสงบและสันติภาพ และสีกุหลาบเข้ม (dark rose) แทนเฟมินิสต์ สำหรับเวอร์ชัน 7 แถบจะมีการเพิ่ม สีส้ม แทนความอิสระ และสีชมพูหม่น (dusty pink) แทนความรักและเซ็กส์
ธงอินเตอร์เซ็กซ์ (Intersex Pride Flag)
หนึ่งในธงที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ต่างจากธงอื่น ๆ นั่นคือธงของอินเตอร์เซ็กซ์ สำหรับ Intersex คือคนที่มีลักษณะทางร่างกายไม่เป็นชายหรือหญิงชัดเจน เนื่องจากมีโครโมโซมเพศที่แตกต่างออกไป
โดยสีของธงอินเตอร์เซ็กซ์ ประกอบไปด้วยสีเหลืองเป็นหลัก สื่อถึงความไม่ใช่ชายหรือหญิง และใช้วงกลมสีม่วง สื่อถึงความสมบูรณ์และถูกต้อง ไม่ว่าอินเตอร์เซ็กซ์จะเลือกเส้นทางใดก็ตาม
ธงเจนเดอร์เควียร์ (Genderqueer Pride Flag)
Queer หรือเควียร์ เป็นคำเรียกกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ใดๆ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นเพศไหน จะรักใคร จะชอบเพศไหน ไม่จำกัดว่าจะต้องรักชอบกับเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น คนที่ไม่จำกัดว่าเป็นเพศใดและต้องรักเพศใด ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender identity) ที่อยู่เหนือคำจำกัดความทางเพศโดยสิ้นเชิง
สีของธงของ Genderqueer มีแถบสีลาเวนเดอร์ ขาว และเหลืองอมเขียว แถบสีลาเวนเดอร์เป็นการผสมผสานระหว่างสีน้ำเงินและชมพู ซึ่งเป็นสีที่โดยทั่วไปมักจะเกี่ยวข้องกับผู้ชายและผู้หญิง และเป็นตัวแทนของความไม่สมบูรณ์แบบทางเพศและอัตลักษณ์ของความหลากหลายทางเพศ แถบสีขาวแสดงถึงอัตลักษณ์ที่ไร้เพศหรือเป็นกลางทางเพศ ส่วนแถบสีเหลืองอมเขียวเป็นสีตรงข้ามกับสีลาเวนเดอร์บนวงล้อสี แสดงถึงอัตลักษณ์เพศที่สามและอัตลักษณ์ที่อยู่นอกกรอบทางเพศ
ธงอะเจนเดอร์ (Agender Pride Flag)
Agender อะเจนเดอร์ หมายถึงการไม่มีเพศ ไม่มีอัตลักษณ์ทางเพศ หรือเป็นกลางทางเพศ เป็นบุคคลที่มองว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ได้เป็นเพศใดๆ
สีของธงของ Agender ประกอบไปด้วยแถบสีดำและสีขาวแสดงถึงการไม่มีเพศ ในขณะที่แถบสีเทาแสดงถึงบุคคลที่ไม่มีเพศเลย และสุดท้ายแถบสีเขียวแสดงถึงบุคคลที่ไม่ระบุเพศ
ธงสเตรจอัลลี่ ( Straight Ally Flag)
‘Ally’ หรือ ‘Straight Ally’ คือ ‘พันธมิตร’ คำที่ใช้เรียก heterosexual (ผู้ที่มีรสนิยมชอบเพศตรงข้าม) หรือ cisgender (ผู้ที่เพศสภาพตรงกับเพศกำเนิด) ที่ยืนหยัด สนับสนุน และผลักดันกลุ่ม LGBTQ+ แบบไม่มีเงื่อนไข
สีของธงของ Straight Ally ประกอบไปด้วย สีดำและสีขาวเป็นสีพื้นของธงที่ใช้แสดงถึงคนรักต่างเพศ และตัวอักษร “A” สีรุ้ง ซึ่งย่อมาจากคำว่า “Ally” (พันธมิตร) อยู่ตรงกลางธง และมีสีรุ้งเพื่อแสดงถึงการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQIA+
・・・・・・・・・・・・・・・・
Inclusive Brands that Support LGBTQIA+ Rights ( Schwarzkopf Freshlight)

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนความหลากหลายทางเพศอย่าง " ชวาร์สคอฟ (Schwarzkopf) " เนื่องจากแบรนด์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของวัฒนธรรม LGBTQIA+ ที่มีชุมชนที่เข้มแข็งในปัจจุบัน ทำให้ชวาร์สคอฟ รวมถึง ชวาร์สคอฟ เฟรชไลท์ เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดอันเปิดกว้างทางสังคม รวมถึงสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมในด้านต่างๆ มาโดยตลอด
นอกจากนั้นทางแบรนด์มีความมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรและสังคมที่ทุกคนได้รับการยอมรับ เคารพ และมีโอกาสเท่าเทียม ไม่ว่าจะมีเพศสภาพ อัตลักษณ์ทางเพศ หรือรสนิยมทางเพศไหนๆ และที่สำคัญ ชวาร์สคอฟ (Schwarzkopf) ยังสนับสนุน Pride Month อย่างเต็มที่ ในฐานะช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลาย เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พร้อมสนับสนุนทุกเสียงจากชุมชน LGBTQIA+
・・・・・・・・・・・・・・・
ในเดือนพิเศษแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลาย และเสรีภาพอย่าง Pride Month สำหรับใครที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุมชน LGBTQIA+ ออกมาเดินพาเหรดโบกสะบัดธงสีรุ้งให้สวยงาม ลองมาเพิ่มความสนุกให้กับลุคใหม่รับ Pride Month ด้วยการเปลี่ยนสีผมสีสันสดใส ขอแนะนำ ชวาร์สคอฟ เฟรชไลท์ ( Schwarzkopf Freshlight ) ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่ช่วย บล็อกผมเสีย ล็อกสีนาน ฟื้นผมสวย ประกอบไปด้วย
- Omegaplex ช่วยปรับโครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรง ป้องกันผมขาดง่าย ผมเสีย ช่วยบำรุงลึกถึงแกนผม
- Fibre Bond 4.5 Technology ช่วยถนอมสีผมด้วยค่า PH4.5 ปรับสภาพเส้นให้สีผมติดนาน ไม่หลุดง่าย
- Hydrolyzed Keratin ทำให้ผมแข็งแรงสุขภาพดี ป้องกันปัญหาผมชี้ฟู และขาดหลุดร่วง
มีให้เลือกใช้ด้วยกัน 2 รุ่น คือ
1. Schwarzkopf Freshlight Milky
ครีมเปลี่ยนสีผม เม็ดสีแน่น สีติดทนนาน แต่ไม่แสบหนังศีรษะ มาพร้อมฝาหวีในกล่อง ง่ายต่อการทำสี แค่ชโลมลงบนเส้นผมและนวดให้ทั่วศีรษะก็ได้สีผมสวยๆ แล้ว มีให้เลือกมากกว่า 14 เฉดสี หลากหลายสไตล์เหมาะกับ Pride Month สุดๆ ได้แก่ บลอนด์ทองสว่าง Honey Gold , น้ำตาลมอคค่า Melty Mocha , แดงสว่าง Enchanting Red , บลอนด์เบจอ่อนพิเศษ Premium Beige , น้ำตาลสว่างประกายเขียวมะกอก Olive Beige , น้ำตาลเทาสว่าง Mirror Ash , น้ำตาลเทาชมพู Pink Ash , บลอนด์ทอง Passion Blond , น้ำตาลเทาเขียวมินต์ Mint Ash , น้ำตาลเทาเขียวเข้ม Green Ash , บราว์ ชูการ์ Brown Sugar , น้ำตาลช็อกโกแลต Chocolate Brown , น้ำตาลคลาสสิก Classic Brown และดำธรรมชาติ Natural Black
2. Schwarzkopf Freshlight Foam
โฟมเปลี่ยนสีผม แบบฝาปั๊มช่วยให้การเปลี่ยนสีผมเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ปั๊มโฟม และชโลมเนื้อโฟมลงบนเส้นผม เหมือนการสระผม โฟมนุ่มๆ เนื้อละเอียดจะสามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดี ให้สีผมสวยสม่ำเสมอและไม่ทำให้แสบ คัน หนังศีรษะ มีสีมากถึง 9 เฉดสี ได้แก่ น้ำตาลประกายชมพู Melty Cherry , น้ำตาลประกายทองแดง Cream Chiffon , น้ำตาลเทา Berry Ash , น้ำตาลเทาอ่อนสว่าง Silky Ash , บลอนด์เบจ Vanilla Beige , น้ำตาลเทาอ่อน Airy Ash , น้ำตาลเทาประกายน้ำเงิน Wonder Ash , บลอนด์ทอง Lemon Blond และ น้ำตาลเทาเข้ม Sugar Ash
Freshlight Milky ราคา 319 บาท
Freshlight Foam ราคา 359 บาท
พิกัด : ร้านค้าชั้นนำทั่วไปและ online Schwarzkopf official shop ทั้งใน
Facebook - https://www.facebook.com/FreshlightThailand/
Lazada - https://www.lazada.co.th/shop/schwarzkopf
Shopee - https://shopee.co.th/schwarzkopf_official_store
・・・・・・・・・・・・・・・
ธงไพรด์แต่ละผืนล้วนมีเรื่องราวและความหมายที่สะท้อนถึงประสบการณ์ของผู้คนกลุ่มนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นธงสีรุ้งที่สื่อถึงความหลากหลายของทั้งชุมชน LGBTQIA+ หรือธงเฉพาะกลุ่มอื่นๆ ทุกผืน ต่างก็โบกสะบัดเพื่อบอกโลกว่า “เราภูมิใจในตัวตนของเรา” และเพื่อส่งต่อความเข้าใจให้แก่คนรอบข้าง ในบรรยากาศของ Pride Month ที่เต็มไปด้วยสีสันและรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจนี้ หวังว่าบทความของเราจะช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้ เคารพและยอมรับความหลากหลายของกันและกันมากยิ่งขึ้นไปด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้มาร่วมเฉลิมฉลองไปกับเดือน Pride Month อันเต็มไปด้วยสีสันและความหลากหลาย ด้วยลุคสีผมสนุกๆ ที่จะช่วยบ่งบอกถึงตัวตนของทุกคนไปกับ ชวาร์สคอฟ เฟรชไลท์ ( Schwarzkopf Freshlight ) ด้วยกันนะคะ ^^
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง bangkokbiznews , thestandard.co , adecco.co.th
บทความแนะนำ

Born This Way พวกเราทุกคนคือคนสวย ส่องเก็บตกงาน Bangkok Pride 2025 | บทความของ SIS RECAP | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/born-this-way-bangkok-pride-month-95335

คำศัพท์เพศหลากหลาย รับ Pride month เพื่อเข้าใจกันมากขึ้น | บทความของ SIS TALK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/LGBTQIA-Vocabs-94709

แต่งหน้าสีรุ้ง เทรนด์เมคอัพสดใส พร้อมเฉิดฉายในงาน Pride Month | บทความของ chollychon | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/rainbow-makeup-ideas-90837

คอสตูมสีรุ้ง แมตช์ลุคสตรีทฉลอง Pride Month ด้วยสีสันสดใส Colorful | บทความของ chollychon | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/rainbow-costume-ideas-84034