1. SistaCafe
  2. น้ำตบแบรนด์ดัง Biotherm Life Plankton Essence และ Clear Essence สูตรไหนเหมาะกับผิวแบบใด ต้องดู !!!

สวัสดีค่า สาว ๆ ชาวซิสต้าคาเฟ่ทุกคน วันนี้จะพาพวกเราไปดูน้ำตบแบรนด์ดังจากฝรั่งเศสที่ชื่อว่า

BIO


เชื่อว่าสาว ๆ สาย

ตบหน้า

ทุกคนคงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน เพราะเอสเซนส์แพลงก์ตอนบำรุงผิวเค้าเลื่องชื่อมาตั้งแต่

สูตรเก่า

จนล่าสุดก็ได้พัฒนา

สูตรใหม่

ออกมาแล้ว ดูผ่าน ๆ ตาก็เหมือนกันจะแทบทุกอย่าง แต่จะต่างกันตรงไหน ยังไงนั้นไปดูกันจ้า ~



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F71049%2F8765fd1b-5b5d-4cce-9554-431fce84d9af.jpeg?v=20240304100916&ratio=1.000

Biotherm Life Plankton Essence (สูตรเก่า)

ตัวนี้เป็นสูตรแรกที่ถูกคิดค้นให้เป็นเอสเซนส์บำรุงผิว มีส่วนผสมของ

Life Plankton

ในน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ จากเทือกเขา Pyrenees ประเทศฝรั่งเศษ ด้วยความเข้มข้นสูงสุดที่ทางแบรนด์เคยใช้มามากถึง

5%

และยัง

อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมเติมความชุ่มชื้นอื่น ๆ อีกเพียบ เพื่อการกอบกู้ผิวเสื่อมโทรม หยาบกร้านให้เหมือนผิวเกิดใหม่

ช่วยลดรอยแดง และนอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเคลมมาอีกว่าเจ้าตัวนี้สามารถช่วยฟื้นฟูให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้นร่วม

3 ปี ใน 8 วัน

ด้วย

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F71049%2F1ec3c190-e290-48f0-8408-6570c1bce3c3.jpeg?v=20240304100916&ratio=1.400

Biotherm Life Plankton Clear Essence (สูตรใหม่)

ต่อมา ตัวนี้เป็นสูตรใหม่ที่ถูกพัฒนามาจากเจ้าตัวข้างบน ด้วยการปรับเปลี่ยนส่วนผสม แต่ยังคงความเข้มข้นของLife Planktonไว้ที่5%เท่าเดิม โดยส่วนผสมที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของสูตรนี้เลยก็คือ อนุพันธุ์ของกรดซาลิไซลิค( Salicylic Acid )นั่นเอง


หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่ากรดตัวนี้มีคุณสมบัติช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเบา ๆ ให้ผิวกระจ่างใสและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ลดการอุดตัน ช่วยควบคุมความมัน และปรับความสมดุลของน้ำและน้ำมันบนผิวหน้าของเรา ตอบโจทย์คนผิวมันและสภาพอากาศอันร้อนระอุอย่างบ้านเราอีกด้วย


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F71049%2Feeb28be4-5bbc-41f7-b8df-ff6563337c5e.jpeg?v=20240304100916&ratio=1.000

เลือกสูตรไหนดี ?

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครที่ยังสับสนงุนงงอยู่ว่าตกลงผิวหน้าแบบฉันจะใช้สูตรไหนดี ?ถ้างบไม่พอ ไม่กล้าลงทุน อยากลองสักตัวเดียวก่อนก็เลือกตามสภาพผิวหน้าตัวเองตามนี้เลยจ้า ~


-

ผิวแห้ง


สำหรับสาวคนไหนที่มีผิวขาดน้ำเป็นทุนเดิม หรือใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องแอร์จนผิวแห้งแตกระแหง เหมือนพื้นนายามหน้าแล้ง ก็คงต้องแนะนำให้สูตรเก่าเค้าดูแลผิวหน้านะคะ เติมความชุ่มชื้นกันไปแบบจุก ๆ


-


ผิวมัน/ผิวผสม



ส่วนสาวคนไหนหน้าผลิตน้ำมันออกมาเยอะเกิ๊น เกินจะทนกับอะไรที่มันหนักผิวเกินไป แม้ผิวจะมันเพราะขาดน้ำ แต่ก็ทนใช้อะไรที่ให้ความชุ่มชื้นมากไปไม่ได้ รู้สึกไม่ถูกจริต ยิ่งเติมยิ่งมัน ผิวเอาใจยาก เดี๋ยวก็มัน เดี๋ยวก็แห้ง คงต้องฝากชีวิตไว้กับสูตรใหม่แล้วล่ะค่ะ ปรับความสมดุล ซึมไว สบายผิวที่แท้ทรู~


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F71049%2Fc0e82274-6451-493f-ada5-da821d27b7c9.jpeg?v=20240304100916&ratio=0.366

ถ้าคุณคนไหน


ไม่ขัดสนเรื่องงบประมาณ



อยากประทินผิวแบบจัดหนักจัดเต็ม ให้

คู่ควรกับความสวยที่ตัวเองมีแนะนำว่าควรจะสอยทั้ง 2 สูตรไปใช้ร่วมกันสูตรเก่าบางเบากว่าใช้กลาง

วัน

สูตรใหม่บำรุงล้ำลึกใช้กลางคืน

เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F71049%2Fe6793d71-e00b-4a78-82fa-8ffbda262af5.jpeg?v=20240304100916&ratio=1.000

*ทั้งนี้ทั้งนั้น สภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ สำหรับคนผิวบอบบางแพ้ง่ายมาก ๆ ไม่มั่นใจ กลัวเสียเงินเปล่า แนะนำว่าให้ลองเทสเตอร์ก่อนเพื่อความมั่นใจนะค้า



~สุดท้ายแล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้ความรู้กับคนที่กำลังสนใจผลิตภัณฑ์ตัวนี้และช่วยให้หลายๆคนที่กำลังลังเลอยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่าบ๊ายบายยยยยยยยย~


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้