บอกต่อ! รับประทานอาหารอย่างไร? ให้บูทส์สมองในวันที่ต้องใช้งานหนัก

สวัสดีค่ะสมาชิกครอบครัวชาวซิสต้าที่น่ารักทุกๆ คน กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ยเราก็หวังว่าทุกๆ คนจะสบายดีมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์กันถ้วนหน้านะคะ  เปิดมาเจอบทความของเราอย่างนี้แน่นอนค่ะว่าเรามีเรื่องราวดีๆ มาฝากเช่นเคย ว่าแต่เป็นอะไรบ้างนั้นเลื่อนเม้าส์ตามเราไปอ่านได้ข้างล่างนี้เลยค่ะ

ในช่วงที่ต้องใช้งานสมองหนักๆ สังเกตไหมค่ะว่าร่างกายจะอ่อนล้าและไม่มีแรงได้มากกว่าปกติ แล้วถ้ายิ่งเราปล่อยปะละเลยไม่ยอมดูแลตัวเองแล้วละก็ แน่นอนว่าร่างกายของเราเนี่ยก็จะอ่อนแรง ไม่มีพลังงาน ไม่สดใสได้ง่ายๆ บทความของเราในวันนี้จึงเป็นเรื่องการดูแลตัวเองง่ายๆ เช่นวิธีการเลือกรับประทานอาหารในวันที่ต้องใช้งานหนักๆ กับสมองค่ะ

เทคนิคการทานในวันที่ต้องใช้งานสมองหนักหน่วง

1. กินมื้อเช้า

จากผลวิจัยบอกว่านักเรียนที่กินมื้อเช้าไปสอบจะทำคะแนนได้ดีกว่านักเรียนที่อดมื้อเช้า พูดง่ายๆ คือสมองของเราต้องการพลังงานเพื่อที่จะทำงานได้ดี แต่ถ้าเราไม่กินเลยสมองก็ไม่มีพลังงานที่จะใช้ รู้สึกล้า มึนๆ คิดอะไรไม่ค่อยออก ดังนั้นเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง อาหารเช้าที่ควรเลือกคือ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮวีท, มูสลี่ หรือข้าวโอ๊ต เพื่อปลดปล่อยพลังงานช้าๆ ตอนที่เราทำข้อสอบ และเลือกโปรตีนเช่นนม โยเกิร์ต ไข่ จะรู้สึกอิ่มนานค่ะ แต่ถ้าตื่นสายไม่ว่างจริงๆ อย่างน้อยก็เข้าเซเว่นก็ยังช่วยได้ค่ะ

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

จากการศึกษานักศึกษาจากมหาลัยหนึ่งพบว่านักศึกษาที่นำขวดน้ำเข้าห้องสอบจะได้คะแนนมากกว่านักเรียนคนอื่นๆอยู่ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่ได้เยอะไม่ใช่เพราะติดโพยไว้กับขวดน้ำนะคะ แต่เป็นเพราะว่าการที่สมองได้รับน้ำเพียงพอจะทำให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นเช้าวันสอบอย่าลืมดื่มน้ำแก้วใหญ่ๆ เพื่อให้สมองได้รับน้ำเพียงพอ แต่อ่านแบบนี้แล้วขอเตือนจากประสบการณ์ส่วนตัวคืออย่าดื่มใกล้ๆ ก่อนเข้าห้องสอบเพราะจะมัวแต่ปวดฉี่ไม่มีสมาธิทำข้อสอบค่ะ

สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำระหว่างวันแนะนำให้ดื่มน้ำพวก Infused Water หรือน้ำหมักผลไม้แทนค่ะ

3. ไม่ควรกินแป้งเยอะเกินไป

สังเกตไหมคะ ว่าทุกครั้งที่เรากินข้าวมากๆ เราจะรู้สึกอืดและง่วงมากโดยเฉพาะช่วงกลางวัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้ไปง่วงในห้องสอบ ในวันสอบควรหลีกเลี่ยงพวกที่ทำจากแป้งขัดสีอย่าง  ขนมปังขาว, ขนมขบเคี้ยว, ข้าวขาว, ขนมเค้ก และของหวาน เช่น น้ำหวาน, ลูกอม, น้ำอัดลม  แต่แทนด้วยการกินผักผลไม้ อย่างสลัดผักเป็นต้น

4. แบ่งวิธีกินเป็นมื้อเล็กๆ

อย่ากินอาหารในปริมาณมากๆ ในทีเดียว เพราะพลังงานหลักของร่างกายแทนที่จะให้กับสมอง แต่กลับยุ่งอยู่กับการย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป ทำให้สมองไม่ปลอดโปร่ง ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นให้แบ่งย่อยเป็นมื้อเล็กๆ ให้รู้สึกอิ่มพอดีค่ะ

5. คิดให้ดีก่อนลองอาหารใหม่

การทานอะไรที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน อาจเกิดอาการท้องเสียได้นะคะ  อย่าลองอะไรใหม่ๆ ที่ยังไม่แน่ใจหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องเสีย เพราะถ้าท้องเสียขึ้นมาในวันที่ต้องใช้งานสมองหนักๆ คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ค่ะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ วันไหนที่ต้องออกไปต่อสู้กับงาน การเรียน ต้องใช้สมองหนักๆ อย่าลืมเอาทริคที่เรานำมาฝากนี้ไปปรับใช้ดูนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ด้วยรักและสุขภาพดีถ้วนหน้าค่ะ