พาเหล่าชะนีน้อยคืนถิ่น ปาร์ตี้พบปะเพื่อนพ้องที่ 'สวนสัตว์ดุสิต' (เขาดินวนา)

สวัสดีค่ะสาวๆ

SistaCafe

เชื่อว่าหลายๆ คนเคยคิดอยากจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งใช่ไหมคะ เพราะเรามักจะได้ทำอะไรสนุกๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ โดยที่ไม่ต้องแคร์ใคร แต่พอโตขึ้น เรากลับเลือกแคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง อยากจะทำอะไรเป็นเด็กๆ ก็กลัวถูกคนอื่นหาว่าโตแล้วทำไมเล่นเป็นเด็ก

แต่อยากบอกว่า ช่างคนอื่นค่ะ เราอยากทำอะไร ถ้าไม่เดือดร้อนใครก็ทำไป โอ๊ย เปิดมาเครียดเชียว ฮ่าๆ แค่จะบอกว่าวันนี้

Hidekoririn

อยากทำตัวเป็นเด็กๆ พาเพื่อนๆ ไปย้อนวัยวันหวานกันที่

สวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดินวนา

กันค่ะ ในโครงการพาชะนีน้อยคืนถิ่น เอ้ย ไม่ใช่ !

ไปค่ะ ไปแต่ตัวทัวร์คนเดียวแบบโนสนโนแคร์ อิอิ

สวนสัตว์ดุสิต

สวนสัตว์ดุสิต

หรือที่เราส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ

เขาดินวนา

โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2438 เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อก่อนเป็นสวนสาธารณะ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ต่อมามีการย้ายสัตว์ต่างๆ อาทิเช่น กวางดาว มาจากสวนอัมพร และ ย้ายลิง จระเข้ ฯลฯ มาจากสวนสราญรมย์

การเดินทาง

พาสาวๆ มาออนทัวร์ด้วยรถเมล์แบบไทยๆ

การเดินทาง

สามารถนั่งรถมาลงอนุเสาวรีย์แล้วนั่งรถต่อได้ค่ะ รถเมล์ที่ผ่านเช่นสาย

18 , 28 , 108 , 125 , 515 , 539 , 542

หรือจะใช้บริการพี่แท๊กซี่ก็ตามสะดวกเลยค่าา

ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

คนไทยผู้ใหญ่ 100 บาทนักเรียนประถม - มัธยม 20 บาทปวส , นิสิต/นักศึกษา , ทหาร , ตำรวจ ( ในเครื่องแบบ ) 50 บาทผู้สูงอายุ ( 60ปีขึ้นไป ) , คนพิการ , พระภิกษุเข้าชมฟรีชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาทเด็ก 70 บาทยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 10 บาทรถยนต์ 50 บาทรถบัส 60 บาท

แผนที่สวนสัตว์ดุสิต

ทำความรู้จัก เหล่าสัตว์โลกน่ารัก ภายในสวนสัตว์เขาดิน

ฮิปโปโปเตมัส

เป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างเกือบถึง 180 องศา เหงื่อเป็นเมือกสีแดงอ่อนให้ความชุ่มชื่นกับผิว ตัวผู้จะฉุนเฉียวง่ายในช่วงผสมพันธุ์ และมีแรงกัดของกรามมากที่สุดในบรรดาสัตว์โลกทุกชนิด ขนาดที่ว่าจระเข้เจอฮิปโปยังต้องยอมแพ้

ฮิปโปโปเตมัส ที่สวนสัตว์ดุสิตตัวแรก ได้แก่

แม่มะลิ

เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2509 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเดินทางมาสวนสัตว์ดุสิตในวันที 8 มิถุนายน 2510 ผิวของแม่มะลินั้นจะมีสีคล้ำกว่าตัวอื่น เพราะว่าอายุเยอะที่สุด แม่มะลิ มีลูกสองตัวได้แก่

มะขามกับถั่วแดง

นกฟลามิงโก

อย่างที่เรารู้จักกัน คือคอและขายาว ขนสีชมพู แต่ขนสีชมพูนี้ก็มีตั้งแต่ชมพูซีด จนถึงแดงเลือดหมู เป็นเพราะได้สารอัลฟาและเบตาแคโรทีนจากอาหารจำพวกกุ้งและเห็ดรา แต่พวกนกตามสวนสัตว์มักจะขนเปลี่ยนเป็นสีขาวเพราะขาดสารอาหารพวกนี้ แต่ทดแทนได้ด้วยแครอทและบีทรูท

เจ้าพวกนี้ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ๆ ตามหนองหรือตามบึง

ขอบอกก่อนว่าพวกนางบินได้นะ แต่มักบินไกลๆ ในตอนกลางคืน แต่ถ้าบินกลางวันก็จะบินสูงมากๆ เพื่อหลบพวกสัตว์นักล่า

นกฟลามิงโกเป็นสัตว์ที่ไม่มีประสาทรับรู้กลิ่น เลยมักจะส่งเสียงดังอยู่ตลอดเวลา เพราะพ่อแม่นกจะจำลูกของตัวเองได้จากเสียงร้อง

สัตว์ปีกอื่นๆ

หมีหมา

เป็นหมีขนาดเล็ก หากินเป็นคู่ ชอบอยู่ในป่าทึบ ปีนต้นไม้เก่งกว่าหมีควาย ชอบนอนบนต้นไม้สูงๆ บางครั้งร้องเสียงคล้ายสุนัขเลยเรียกว่าหมีหมา แต่บางครั้งก็ชอบยืนเหมือนคน เลยเรียกว่า

หมีคน

ตอนเราไป เจอเจ้าตัวนี้ออกมานั่งเรียกแขกอยู่ที่โขดหินพอดีเลยค่ะ น่ารักมากๆ แต่ท่าทางเหมือนน้องหมามากเลย

ต่อมาเรามาต่อกันที่โซนบรรดาลิงๆ สารพัดสายพันธุ์ค่ะ เช่น

ชะนี  ค่างห้าสี คอมมอนมาร์โมเสท ลิงกระรอก ฯลฯ

ที่น่าสนใจคือเจ้า

ค่างห้าสี

ค่ะ ที่มีสีสันสวยงาม แถมยังขี้เล่น มานั่งแอ็คท่าโชว์นักท่องเที่ยวกันไม่มีพัก

ค่างห้าสีชอบอยู่เป็นฝูง ฝูงละ 10 - 50 ตัว เป็นสัตว์ที่ถูกขึ้นบัญชีในฐานะสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ แถมยังเพาะพันธุ์ยากอีกต่างหาก แต่ปัจจุบันสวนสัตว์ดุสิตสามารถเพาะพันธุ์ค่างห้าสีได้มากกว่า 30 ตัว ถือว่าเป็นจำนวนที่มากที่สุดในโลก

นกแคสโซเวรี

ถูกจัดเป็นนกประเภท

แรไทต์

คือบินไม่ได้ แต่มีรุปร่างใหญ่แบบยุคก่อนประวัติศาสตร์ ประเภทเดียวกับนกกระจอกเทศ นกอีมู และนกกีวี สีสันสวยงาม

แคสโซเวรี เป็นนกที่มีเสียงร้องทุ้มต่ำ และมีหงอนขนาดใหญ่บนหัว นักวิทยาศาสตร์บางคนสันนิฐานว่าหงอนของมันช่วยในการส่งเสียงร้อง คล้ายกับไดโนเสาร์บางสายพันธุ์ เช่น

พาราซอโรโลฬ , แลมบีโอซอรัส

เท้าของมันมี 3 นิ้ว นิ้วกลางสามารถยาวได้ถึง 5 นิ้ว มีกรงเล็บแหลมคม ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวด้วยการกระโดดถีบ ขอบอกว่าเป็นนักเตะ นักถีบเลยล่ะ

เสือโคร่งขาว

สีขาวเป็นความผิดปกติของผิวหนัง ที่มีจำนวนเม็ดสีน้อยเรียกว่า ภาวะด่าง แต่ไม่ใช่สัตว์เผือก ( ถ้าเสือโคร่งเผือก จะมีสีขาวทั้งตัว ตาสีชมพู ) เป็นชนิดย่อยของเสือโคร่งเบงกอล เพราะรูปร่างลักษณะเหมือนหมดทุกอย่าง เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างหาได้ยาก ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 200 ตัวทั่วโลก ส่วนใหญ่จะเป็นตามสวนสัตว์  เป็นสัตว์ที่ว่ายน้ำเก่ง แต่ปีนต้นไม้ไม่เก่ง มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดีย

มาตากแอร์เย็นๆ กันใน

โซนสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก

กันค่ะ ภายในห้องจัดแสดงมีงูสารพัดชนิด ออกไปโซนด้านนอกก็จะเป็นกิ้งก่า เต่า ตะโขง และ จระเข้ สายพันธุ์ต่างๆ ค่ะ

สัตว์ป่าสงวน

หลายคนคงเคยท่องกันมาตั้งแต่เด็กแล้วใช่ไหมคะว่า สัตว์สงวนของเรามีอะไรบ้าง ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร แระ กระซู่ กูปรี ควายป่า ละมั่ง สมัน กวางผา เลียงผา นกแต้วแล้วท้องดำ นกกระเรียน แมวลายหินอ่อน พะยูน สมเสร็จ และ

เก้งหม้อ

สำหรับเจ้าตัวสุดท้ายนั้น เป็นเก้งที่หายากที่สุดชนิดนึงของโลก อดน้ำได้ไม่เก่งเท่าเก้งธรรมดา หากินในพลบค่ำ

สัตว์ชนิดอื่นๆ

เป็นอย่างไรบ้างคะสาวๆ ขอบอกว่ายังมีสัตว์น่ารักๆ รอเพื่อนๆ อยู่อีกเพียบเลยนะคะ อย่างโคอาล่าตัวน้อยที่หลับได้ทั้งวี่ทั้งวัน แมวน้ำ เพนกวิน เสือสารพัดสายพันธุ์ สัตว์กลางคืนก็รอคุณไปหาอยู่น้าา อย่าลืมไปทักทายพวกเขากันนะคะ และปฎิบัติตัวตามกฎ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้วยเพื่อความปลอดภัย และเป็นระเบียบเรียบร้อยนะคะ

ครั้งหน้าเราจะพาสาวๆไปออนทัวร์คนเดียว แบบไม่แคร์ใครที่ไหนในกรุงงเทพ โปรดรอติดตามกันด้วยนะค้าาาา บ๊ายบายย