1. SistaCafe
  2. มาส์กหน้ายังไงให้เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง?

การมาส์กหน้าอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีการที่จะทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม มีชีวิตชีวา และรับสารอาหารได้เต็มที่กว่าการทาครีมบำรุงผิวเพียงอย่างเดียว แต่วิธีการมาส์กหน้าก็มีอยู่หลายวิธี และมีสูตรทีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้นสาวๆ ทั้งหลายจ๋า เรามาดูกันเถอะว่า สภาพผิวของใคร เหมาะกับสูรมาส์กหน้าแบบไหนกัน

ประโยชน์ของการมาส์กหน้า

การมาส์กหน้ามีมาแต่สมัยโบราณ โดยเริ่มจากการนำส่วนผสมธรรมชาติ อย่างผัก ผลไม้ และน้ำผึ้ง มาผสมให้เข้ากัน ซึ่งจะต้องใช้เวลานานและยุ่งยากไปสักหน่อยในการเตรียมส่วนประกอบให้เหมาะกับสภาพผิว


การมาส์กหน้าเป็นทั้งวิธีการทำทรีทเม้นต์บำรุงผิว และวิธีการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกกว่าการล้างหน้า เพราะการมาส์กหน้าสามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้ผิวได้พักผ่อน จึงสามารถเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า เพราะผิวได้ดูดซึมสารบำรุงจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่


เราควรมาส์กหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น มีชีวิตชีวา และรับสารอาหารได้เต็มที่กว่าการทาครีมบำรุงเพียงอย่างเดียว หากเราหมั่นมาส์กหน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เราจะสัมผัสได้ถึงผิวที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และมีผิวหน้ากระจ่างใสเนียนนุ่ม ดูสุขภาพดี หรือที่เรียกว่าผิวเปล่งประกายมีออร่านั่นเอง

การเลือกมาส์กให้เหมาะกับสภาพผิว

ผิวมัน มีสิวเสี้ยน และมีไขมันอุดตันในรูขุมขน

ควรเลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของโคลนเบส ซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลผิวได้ดี เน้นมาส์กที่มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ  มีส่วนประกอบของ AHA และ BHA  หรือมีส่วนประกอบของพืชธรรมชาติอย่างแตงกวา ชาเขียว สารสกัดชา เกล็ดของรำข้าว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการแทรกตัวเข้าไปยับยั้งการขับน้ำมันภายในเซลล์ผิว หรือ Sebum ที่คั่งค้างอยู่ตามรูขุมขน อันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และการอักเสบ


ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื่น

ควรเลือกมาส์กที่มีสารอาหารที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิว อาทิ น้ำผึ้ง ออยล์ ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก สาหร่าย เพื่อให้เกิดความชุ่มชื่นและแน่นกระชับ


ผิวบอบบางแพ้ง่าย

ควรเลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของชาเขียว คาโมมายล์ ใบบัวบก วิชซ์ฮาเซล และสาหร่าย


ผิวมีปัญหา ฝ้า กระ และจุดด่างดำ

ควรเลือกมาส์กที่มุ่งเน้นให้ผิวขาวใส เพื่อลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ซึ่งส่วนใหญ่มาส์กเหล่านี้จะมีส่วนผสมของวิตามินซีเพื่อให้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกลับมา เนียนเรียบ อ่อนนุ่ม และเปล่งประกาย


ผิวมีริ้วรอย

ควรเลือกมาส์กที่เสริมการทำงานของเซลล์ผิวให้แข็งแรง หรือมาส์กที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน หรือสารบำรุงบริสุทธิ์จำพวกเปบไทด์ เพราะมีคุณสมบัติในการแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ผิวชั้นลึกได้ดี จึงจะมีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน ไร้ร่องลึก


การเลือกใช้มาส์กให้ได้ประโยชน์สูงสุด จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการ ส่วนจะทำมาส์กได้บ่อยแค่ไหนคงขึ้นอยู่กับชนิดของมาส์ก เช่น มาส์กที่ให้ความชุ่มชื้นสามารถทำได้ทุกวัน เหมาะสำหรับคนที่มีสภาพผิวแห้ง ผิวมีริ้วรอย และผิวบอบบางแพ้ง่าย ส่วนมาส์กที่ช่วยให้ผิวขาว หรือลดความมันอาจจะทำได้เพียงแค่สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง เท่านั้น

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้