1. SistaCafe
  2. มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบิน : เตรียมตัวขึ้นเครื่อง

เอกสารสำคัญ (สิ่งที่จำเป็น ที่ต้องเตรียมเอาไว้ให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่องบิน)

เอกสารที่ต้องแสดง

บัตรโดยสาร, หนังสือเดินทาง, บัตรขาออก


1. หนังสือเดินทาง (Passport) ณ วันที่เดินทางต้องไม่หมดอายุ และยังใช้ได้อย่างน้อยอีก 6 เดือน พร้อมวีซ่าสำหรับเข้าประเทศนั้นๆ


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2Fe2708303-0457-44ed-b4e6-f43d700c0326.jpeg?v=20240306105849&ratio=0.714

2. บัตรโดยสาร (Boarding Pass) โดยปกติต้องมีทั้งไปและกลับ เพราะบางประเทศจะขอให้แสดงก่อนเข้าประเทศ เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณกลับประเทศไทยแน่นอน


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F3c78a9f3-528c-4fdb-a4ac-2bb5fe8dff73.jpeg?v=20240306105849&ratio=0.423

ในกรณีที่เราได้จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินหรือเอเจนซี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เราพิมพ์ Itinerary หรือ E-Ticket ติดตัวไปขึ้นเครื่องด้วย ใบ Itinerary หรือ E-Ticket ยังไม่ใช่ตั๋วที่ขึ้นเครื่องได้เลย เราจะต้องผ่านกระบวนการเช็คอินเพื่อยืนยันว่าเรามาถึงสนามบินพร้อมขึ้นเครื่อง


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F5432f571-f9fe-4240-8cbc-20e3696f566b.jpeg?v=20240306105849&ratio=0.902ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F0dde4a5e-d09b-4b0c-be6f-399cfab3cb4a.jpeg?v=20240306105849&ratio=0.494

ในกรณีที่ใช้บัตรเครดิตชำระค่าตั๋วเครื่องบิน ทางสายการบินอาจขอดูบัตรเครดิตใบนั้น ควรที่จะพกบัตรเครดิตใบนั้นไปด้วย)


3. บัตรขาออก (ต.ม.6) จะได้รับตอนไป check in


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F59445d8a-7835-4906-a27c-f52b51fbfeeb.jpeg?v=20240306105849&ratio=0.672

4. บัตรประชาชน


ควรมาก่อนเวลา 1.30 - 2 ชั่วโมง

ควรจะกะเวลาให้ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะคิวจะยาวและมีเวลาอีกเยอะสำหรับขั้นตอนต่างๆ ดังนี้


- มีเวลาสำหรับตรวจตราเอกสาร


- มีเวลาเข้าคิว เช็คอิน และรับบัตรขึ้นเครื่อง (Check-in)


- มีเวลาผ่านด่านตรวจคนเข้าออกจากประเทศไทย


- มีเวลาแลกเงิน


- มีเวลาร่ำลา หรือโทรศัพท์ก่อนขึ้นเครื่อง


- มีเวลาเดินสำรวจร้านค้าปลอดภาษี สำหรับขาช้อบปิ้ง


- มีเวลาเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวสำหรับคนที่มักจะตื่นเต้นง่าย


- สุดท้ายมีเวลาเดินหาประตูขึ้นเครื่อง




ตรวจสอบเที่ยวบิน

สามารถตรวจสอบหมายเลขเคาน์เตอร์เช็คอินได้ที่ บอร์ดแสดงสถานะเที่ยวบินผู้โดยสารขาออก (Departure Flight Board) หรือ สามารถตรวจสอบสถานะเที่ยวบินผ่านระบบออนไลน์


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F342106f7-664b-449f-a750-a2ae5212fbd7.jpeg?v=20240306105849&ratio=0.683

เช็คอิน

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F901281fa-a793-47f4-82de-773753995241.jpeg?v=20240306105849&ratio=0.478

1. ไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินช่องผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อทำการเช็คอินโหลดกระเป๋า โดยจะต้องใช้ Itinerary หรือ E-Ticke + หนังสือเดินทาง


2. เราจะได้ใบ ตม. เปล่าๆ มาคนละใบ + บัตรโดยสาร ให้ตรวจสอบความถูกต้อง ชื่อ - นามสกุล ที่นั่ง เกต และเขียนข้อมูลลงในใบ ตม. ให้เรียบร้อย (สำหรับคนไทยจะกรอก 2 หน้า บัตรขาออก และ บัตรขาเข้า การกรอกนั้นให้กรอกด้วยปากกาสีน้ำเงิน หรือ สีดำ กรอกเป็นภาษาอังกฤษช่องละ 1 ตัวอักษร ข้อมูลที่กรอกจะต้องตรงกับ Passport หากเขียนผิดสามารถใช้ลิควิดลบ หรือขีดฆ่าตัวอักษร แล้วเขียนใหม่ได้)


ข้อควรระวัง

ด้านบนสุดให้กรอกนามสกุลก่อน แล้วตามด้วยชื่อ คนไทยมักจะเขียนด้วยความคุ้นเคยขึ้นต้นด้วยชื่อก่อน

ตรวจหนังสือเดินทาง

หลังจากเช็คอิน และ กรอกใบ ตม. เสร็จเรียบร้อยแล้วให้เดินหาป้ายตรวนังสือเดินทาง (Passport Control) แล้วเดินไปตามป้ายเข้าประตูตรวจหนังสือเดินทาง ญาติ และ เพื่อนที่มาส่งจะส่งได้ถึงแค่ตรงนี้

การออกนอกประเทศจะต้องให้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตรวจประวัติว่าเป็นบุคคลที่สามารถออกนอกประเทศได้ ปัจจุบันมีการตรวจหนังสือเดินทางอยู่ 2 แบบ


4.1 ช่องตรวจอัตโนมัติ (Automatic Channel) เป็นช่องขนาดเล็กให้ผู้เดินทางเข้าไปได้ทีละคน ให้เราทำตามขั้นตอน (มีคนช่วยแนะนำ) เมื่อเสร็จแล้วประตูช่องจะเปิดให้เอง มีการบันทึกข้อมูลการออกนอกประเทศที่แถบบันทึกในเล่ม Passport แต่จะไม่มีตราประทับให้เห็น ในขั้นตอนนี้จะถูกเก็บใบ ตม. ส่วนบัตรขาออก (ในสนามบินสุวรรณภูมิจะใช้ช่องตรวจอัตโนมัติเกือบทุกคน)


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2Fce0716e1-50b1-46fb-9215-88aeed41df10.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.750

4.2 ช่องตรวจโดยใช้เจ้าหน้าที่ ให้เข้าไปทีละคน ยื่น Passport ให้กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะเช็คประวัติและลงตราประทับออกนอกประเทศลง Passport และเก็บใบ ตม. ส่วนบัตรขาออก (สนามบินดอนเมืองส่วนมากจะเป็นช่องตรวจโดยใช้เจ้าหน้าที่)


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F5826800c-a786-4581-8a91-a185fefcb408.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.750

สแกนสัมภาระ

นำกระเป๋าผ่านเข้าเครื่อง X-Ray เพื่อนำไปเช็คอินซึ่งเป็นกระเป๋าที่เราจะฝากไปเก็บใต้ท้องเครื่องบิน ต้องดูให้แน่ใจว่ากระเป๋าที่เราโหลดไปใต้ท้องเครื่องนั้น จะไม่มีของจำเป็นที่จะต้องหยิบใช้ระหว่างเดินทางเพราะจะไม่สามารถรื้อออกมาได้อีก ส่วนของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อให้หยิบออกมาวางในตระกร้าให้หมด แล้วเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ รับสัมภาระคืน

(โดยสัมภาระต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 45 ซม. x 25 ซม. โดยสัมภาระต้องมีขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 45 ซม. x 25 ซม.)


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2Ff2990c5a-5f84-4ede-9786-c453a7f3ec35.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.667

รอขึ้นเครื่อง

ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเครื่องอาจจะหาอะไรกิน แวะเดินเล่นช้อปปิ้ง Duty Free ได้ จากนั้นก็ไปขึ้นเครื่องตามเกตที่ระบุไว้ใน Boarding Pass ก่อนเวลา Boarding Time ระหว่างรอขึ้นเครื่องให้สังเกตจอหน้าเกตว่าเป็น Flight ที่เราบินหรือเปล่า เพราะบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนเกต ทางที่ดีควรไปถึงหน้าประตูก่อนเครื่องขึ้นอย่างน้อย 30-40 นาที เร็วกว่านั้นได้ยิ่งดี จะได้ไม่พลาด


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F00341b21-3ab4-4019-8873-2cc59cbecfe2.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.562

7) ขึ้นเครื่อง

ก่อนเครื่องออกจะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่จะขอดู Passport พร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2Fc4e8cbb1-ad60-4a04-895e-85dd291b8242.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.667

ออกเดินทาง

เมื่อขึ้นไปอยู่บนเครื่องแล้วให้นั่งตามหมายเลข สังเกตง่ายๆ จะติดอยู่บริเวณที่เก็บสัมภาระ หากหาไม่เจอสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ เก็บสัมภาระไว้ในช่องด้านบนได้ ส่วนของมีค่าให้เก็บไว้กับตัว จากนั้นก็คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับพนักเก้าอี้ตั้งตรง เปิดม่านบังแสง ปิดโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ดูสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน ที่บนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่จะแจกใบ ตม. ของประเทศที่เราจะไปให้เรากรอกข้อมูล ในบางประเทศอาจจะมีใบศุลกากรให้กรอกเพิ่มอีก 1 ใบ เช่นญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ให้กรอกบนเครื่องให้เรียบร้อยก่อนถึงจุดหมายปลายทาง


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F1552dfc9-3ce6-4082-bdb3-89d7a7bb2f51.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.656

ถึงจุดหมายปลายทาง

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2Fe1075741-a722-4ca0-97d5-6ec21521c49f.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.358

เดินตามป้าย Arrivals หรือ Immigration เตรียมเข้าด่าน ตม. ของประเทศนั้น ให้เตรียม Passport + ใบ ตม. ของประเทศนั้นไว้รอตรวจให้พร้อม เสร็จจาก ตม. ก็ไปรับกระเป๋าที่เราโหลดมา มองหาชื่อเที่ยวบินในป้ายของแต่ละสายพานแล้วไปรอรับกระเป๋าที่ช่องนั้น หลังจากได้กระเป๋าอย่าลืมสำรวจความถูกต้อง ว่าเป็นกระเป๋าของตัวเองหรือเปล่า มีส่วนไหนแตกเสียหายหรือไม่ หากเกิดความเสียหายสามารถขอเคลมกับทางสายการบินได้ตามความเป็นจริง ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็ออกจากอาคารผู้โดยสารได้เลย


- คนที่ไม่มีสิ่งของจะต้องแสดง ให้ออกทางช่องเขียว


- คนที่มีสิ่งของต้องแสดง เช่น นำเข้าสินค้าปริมาณมากในเชิงพานิชย์ ให้ออกทางช่องแดง


รับกระเป๋าเดินทาง

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2Fdc11098c-bcda-444c-9058-1b2a8dc39e3e.jpeg?v=20240306105850&ratio=0.583

เสร็จจาก ตม. จะเป็นทางไปรับกระเป๋าที่เราโหลดมา ให้มองหาชื่อเที่ยวบินในป้ายของแต่ละสายพาน หรือที่หน้าจอรวม แล้วไปรอรับกระเป๋าที่ช่องนั้น หลังจากได้กระเป๋าแล้วให้สำรวจความถูกต้องของกระเป๋าเดินทางว่าเป็นของตัวเองหรือเปล่า ดูว่ากระเป๋ามีส่วนไหนแตกเสียหายหรือไม่ ในกรณีที่เสียหายสามารถขอเคลมกับทางสายการบินได้ตามความเป็นจริง แต่ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ก็เดินออกจากอาคารผู้โดยสารได้เลย


- คนที่ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง (Customs Nothing To Declare) ให้ออกทางช่องเขียว


- คนที่มีสิ่งของต้องสำแดง (Customs Goods To Declare) เช่นนำเข้าสินค้าปริมาณมากในเชิงพานิชย์ ให้ออกทางช่องแดง

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นเครื่อง

Itinerary = ใบรายละเอียดการเดินทาง เรามักจะได้ใบนี้หลังจากที่เราซื้อตั๋วเครื่องบินทางอินเตอร์เนต

Air Ticket = ตั๋วเครื่องบิน

E-Ticket = ตั๋วเครื่องบินแบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบกระดาษ A4 ทางสายการบินหรือเอเจนซี่จะส่งให้หลังจากการจองเสร็จสมบูรณ์ ตั๋วชนิดนี้ไม่สามารถใช้ขึ้นเครื่องได้เลย ต้องไป check in ที่สนามบินในวันเดินทางเสียก่อน ถึงจะได้ตั๋วจริง

Boarding Pass = บัตรโดยสาร / ใบผ่านขึ้นเครื่อง

Departure Time = เวลาเครื่องออก

Boarding Time = เวลาขึ้นเครื่อง

Departing = เครื่องออกจาก (สนามบิน) / เวลาออก

Arriving = เครื่องถึงที่หมาย (สนามบิน) / เวลาถึง


ข้อห้าม

การเดินทางโดยเครื่องบินมีข้อห้ามหลายอย่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ผมจะพูดถึงกฎทั่วไปของทุกสายการบิน ส่วนกฎของแต่ละสายการบิน เช่นน้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง จำนวนสัมภาระติดตัว ฯลฯ ให้ดูได้จากเวบไซต์ของสายการบิน ควรศึกษาก่อนขึ้นเครื่อง


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F9d10e342-ea86-418d-9936-3a31c3476d5e.jpeg?v=20240306105851&ratio=0.666

1.  ห้ามนำของเหลวถือขึ้นเครื่องเกินชิ้นละ 100 ml (ml, cc, g ให้ถือเป็นค่าเดียวกัน) หากมีความ จำเป็นต้องนำของเหลวติดตัวไปด้วยเช่นพวกแชมพู สบู่เหลว ให้ใช้วิธีแบ่งใส่ขวดเล็กๆ หรือถุงใสที่มี ปริมาตรไม่เกิน 100 ml โดยวิธีนี้เราสามารถนำของเหลวติดตัวรวมกันแล้วไม่เกิน 1,000 ml ขนาดของ ของเหลวจะยึดจากฉลากบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก เช่น ครีม ที่ฉลากติดไว้ว่า 120 ml ถึงแม้ว่าจะใช้ไป แล้วครึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ เพราะปริมาตรที่ฉลากระบุไว้เกิน 100 mlของเหลวที่มีปริมาณเกินที่ระบุไว้จะต้องถูกทิ้งขยะ แต่ในกรณีของเหลวโหลดเป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่องจะไม่จำกัดปริมาณ

2. ห้ามนำของมีคม วัตถุไวไฟ อาวุธ ถือขึ้นเครื่อง เช่นกรรไกร มีด คัทเตอร์ ดอกไม้ไฟ ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจเจอจะต้องถูกทิ้งขยะ


3. น้ำหนักกระเป๋า – สัมภาระขึ้นเครื่อง สายการบิน Air asia ให้นำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ขนาดไม่เกิน 56×36x23 cm สำหรับกระเป๋าถือของผู้หญิงหรือกระเป๋ากล้องสามารถนำติดตัวไปได้โดยไม่นับว่าเป็นสัมภาระ, สายการบิน Nok Air (Nok Economy) ให้โหลดกระเป๋าได้คนละ 15 กิโลกรัม

สิ่งของต้องห้าม


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F233%2F087c7d61-9e51-466b-be14-a2d5d62ea302.jpeg?v=20240306105851&ratio=0.666

การที่จะบอกถึงขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน ขอบอกสิ่งของต้องห้ามก่อน จะได้ไม่เผลอนำขึ้นเครื่องไปประเทศปลายทาง การนำสิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศนั้นอาจเป็นการทำผิดกฎหมาย อาจต้องรับโทษทั้งจำ หรือ ปรับ หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต


1. อาวุธปืน กระสุน ประเทศสิงคโปร์ถือว่าการมีอาวุธปืนในครอบครองมีโทษร้ายแรงมาก


2. ยาเสพติดให้โทษ ไม่ว่าจะเข้าประเทศไหน ก็ถือว่ามีความผิดร้ายแรง ยิ่งประเทศสิงคโปร์มีโทษถึงประหารชีวิต


3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ในปริมาณที่เกินกว่าบริโภคเอง จัดเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมปริมาณการนำเข้า จะต้องถูกปรับ ในแต่ละประเทศจะมีปริมาณแตกต่างกันไป โปรดศึกษาข้อมูลก่อนที่จะนำสิ่งเหล่านั้นเข้าประเทศ


4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เสื้อผ้า กระเป๋าของก๊อป ของปลอม ในประเทศโซนยุโรปมีกฎหมายลิขสิทธิ์ การใช้กระเป๋าหลุยปลอม หรือสินค้าปลอมยี่ห้ออื่นๆ ก็มีโทษ แต่ประเทศในโซนเอเชียไม่มีกฎหมายนี้


5. สื่อลามกอนาจาร


บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้