1. SistaCafe
  2. รักเราไปทางไหนดี? ชวนซิสทบทวน ข้อคิดคู่รัก ‘ อยู่ด้วยกันก่อน ’ หรือ ‘ ศึกษากันก่อนอยู่ ’

#อยู่ก่อนแต่งหรือแต่งก่อนอยู่ปัญหาโลกแตกที่คนรุ่นใหม่ๆ มักหยิบยกขึ้นมา ถกเป็นประเด็นกัน จะอยู่ด้วยกันก็ดูไม่ดี แต่ไม่ลองอยู่ด้วยกันเลยมันก็ไม่เวิร์คเอ..แล้วตกลงแบบไหนมันดีกว่ากันนะวันนี้เราจะลองมาแยกข้อดีและข้อเสีย ของทั้งการอยู่ก่อนแต่ง และ แต่งก่อนอยู่ว่าเราควรจะต้องทำตัวยังไงนะ ถึงจะใช้ชีวิตรักได้อย่างมีความสุข บนความพอดี และประเพณีบ้านเรา


แต่งก่อนอยู่

ข้อดีของ #แต่งก่อนอยู่

ถูกหลักประเพณีอันดีงาม

แต่งก่อนอยู่เป็นขนบธรรมเนียมหลักของคนไทยที่จะให้ ' คู่รัก ' มีพิธีการ ' แต่งงาน ' ก่อนที่จะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันพื่อใช้ชีวิตคู่ และรับผิดชอบสิ่งต่างๆ ร่วมกัน ในการกระทำหลังจากนี้ซึ่งจริงๆ แล้วการที่คนสมัยก่อนเค้าไม่ให้คู่รัก อยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน อาจจะมีสาเหตุมาจากต้องการที่จะป้องกัน ความผิดพลาดจากการท้องซึ่งไม่สามารถหาใครมารับผิดชอบได้เพราะ ยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นกิจลักษณะแถมยังจะโดนป้าข้างบ้านเอาไปเม้า แบบแซ่บๆ อีกว่าลูกบ้านนั้นเค้าอยู่กินกันก่อน เพราะว่าสังคมไทย เป็นสังคมที่คนอยู่ร่วมกันแบบกลุ่มก้อน ไม่ได้มีอิสรภาพทางตัวตนเท่าฝรั่ง คนไทยเลยถือเรื่องเหล่านี้มากๆ


อยู่ก่อนแต่ง

ในบ้านเราอาจจะไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมนี้มากนัก เพราะส่วนมากถ้าเคยเห็นคนที่อยู่ด้วยกันก็แต่งงาน ก็จะเป็น ฝรั่ง หรือชาวต่างชาติ ซะส่วนมาก แต่สาวๆ รู้มั้ยคะว่าจริงๆ แล้ววัฒนธรรมการ ' อยู่ก่อนแต่ง ' เนี่ยเค้ามีขึ้น เพราะเหตุผลของการอยู่ร่วมกันในระยะยาว !!การที่เรา ได้ลองอยู่ด้วยกันก่อน ที่จะตัดสินใจ อยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต เรียนรู้นิสัยใจคอในมุมต่างๆ ทำให้เราได้เข้าใจคู่รักของเรามากขึ้น แถมยังแน่ใจมากขึ้นด้วยว่า อยากจะแต่งงาน หรืออยู่กับคนนี้ตลอดไป


ธรรมเนียม ประเพณี

แน่นอนอยู่แล้วว่า

ถ้ายึดตามธรรมเนียม ประเพณีบ้านเราแล้ว การ

' แต่งก่อนอยู่ 'คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาโลกแตกนี้

เพราะเป็นการคบหากันในสายตาผู้ใหญ่ ไปไหนมาไหน ทำอะไรด้วยกัน ผู้ใหญ่ในบ้านก็ยังพอรับรู้อยู่บ้าง



แต่ในปัจจุบันที่ยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไป มีคู่รักที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานมากขึ้น และการย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ใช่การขัดศีลธรรมทั้งหมด

ราบใดที่เรายัง " เข้าตามตรอก ออกตามประตู " ทำอะไรที่สามารถรับผิดชอบได้ และยังคงติดต่อคนที่บ้านอยู่เสมอ ให้เขาได้รับรู้ความเป็นไปในด้านต่างๆ กันบ้างง


Lifestyle การใช้ชีวิต


เพราะคู่รัก ของเราก็เหมือนกับ รูมเมทที่แต่ละคนก็จะมีนิสัย ยิบย่อย สิ่งที่ชอบ ข้อห้าม ที่ต่างกัน การได้ลอง อยู่ด้วยกันก่อน จะทำให้เราเรียนรู้ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตของ คู่รัก เรามากขึ้นบางคนอาจจะ สกปรก แต่ถ้าต้องมาอยู่กับคนที่รักสะอาดมากๆ ก็คงตีกันตาย เพราะการเจอกันแค่อาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้ง ต่ออาทิตย์มันไม่เหมือนกับ อยู่ด้วยกัน 24 ชม. ไงละซิสส


แต่เพราะว่าทุกคนก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองถ้าเกิดเราจะต้องมาอยู่กับใครสักคนตลอดเวลา โดยไม่มีพื้นที่ ที่เป็นของเรา อีกต่อไปก็สามารถนำไปสู่ การเลิกรา หรือ หย่าร้างได้เหมือนกัน


การเรียนรู้ระหว่างกันและกัน

ด้วยนิสัย ความคิด ไลฟ์สไตลที่ต่างกัน ก็ต้องมีความขัดแย้งกันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว การอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง ก็เหมือนการปรับตัวเข้าหากัน เพิ่มตรงนั้น ลดตรงนี้

และเตรียมพร้อมเพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับความรักทั้งคู่



แต่ในอีกด้านหนึ่ง สำหรับคู่รักที่แต่งก่อนอยู่ก็สามารถทำในส่วนนี้ได้เช่นกัน โดยการใช้เวลาร่วมกัน ผ่านอุปสรรค หรือเหตุการณ์ต่างๆ ไปด้วยกัน ลองคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจ


เพราะ ความเข้าใจ ยอมรับ และปรับตัว คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในทุกๆ ความสัมพันธ์ แม้ว่าจะอยู่หรือไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม



ว่าด้วยเรื่องบนเตียง


ถึงแม้ว่า

จะอยู่หรือไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตามอยากให้สาวๆ ทุกคน ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้


พราะว่า การที่เราประกอบกิจกรรมบนเตียง แบบที่ไม่ได้ป้องกัน หรือไม่มีความรู้ในเรื่องต่างๆ ที่มากพอ เช่น การทานยาคุม หรือการนับวันที่เสี่ยงต่อการท้อง

มีโอกาสที่สาวๆ อาจจะติดโรคทางเพศสัมพันธ์ หรือ ท้องโดยที่ยังไม่พร้อมได้

เพราะฉะนั้น ดูแลตัวเองดีๆ และป้องกันไว้ดีกว่าต้องมาแก้สิ่งมากมาย ดีกว่านะคะ สาวๆ


การหย่าร้าง

สำหรับคู่ที่ อยู่ก่อนแต่งนั้น มีโอกาสที่จะเกิดการหย่าร้าง สูงกว่า คู่ที่แต่งก่อนอยู่เพราะการที่เราอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน ทำให้ความสัมพันธ์อาจถึงจุดอิ่มตัว และเริ่มที่จะค่อยๆ ถดถอยลงไปเรื่อยๆ



นอกจากนี้ ความตื่นเต้น ในครั้งแรก ของทุกสิ่ง ก็จะน้อยลงไปด้วย


เช่น ความข้าวใหม่ปลามัน หลังจากแต่งงาน การย้ายบ้านครั้งแรก การแต่งบ้านด้วยกันครั้งแรก เป็นต้น



ถ้าไม่อยากให้รักต้องล่ม สาวๆ ก็อย่าลืมหากิจกรรมต่างๆ ทำด้วยกัน เพื่อเพิ่มไฟแห่งความตื่นเต้นนั้นให้กลับมาอีกครั้งนะคะซิสสสส


เล่นเอาปวดหัวกันเลยทีเดียวนะคะ สำหรับปัญหานี้ส่วนตัวแล้วเราคิดว่า ตราบใดที่เราโตพอที่จะรับผิดชอบทุกอย่างได้แล้ว และทำทุกอย่างแบบกลางๆ ใช้ชีวิตของตัวเอง โดยไม่ลืมขนบธรรมเนียมของบ้านเราแค่นี้ก็พอเวิร์คแล้ว ไม่วุ่นวาย


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้