รีวิวรองพื้น Dermacol ปกปิดเนียนเว่อร์ ไม่เหลือแม้รอยสัก | บทความของ nusine

สวัสดีค่ะ สาวๆSistaผู้รักความสวยความงามและน่าร้ากกก ทุกคน

วันนี้เรามีของใหม่มาฝาก! อู้หู้ ตื่นเต้นสุดๆ เลยยยยยยยยยย(≧∇≦*)

สำหรับคนที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ 'รองพื้น' ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากกก และหารุ่นที่เนียนกริบบวกไม่ดูหนาโบ๊ะยากมากกก เพราะอยากได้แบบ Full coverage ก็ต้องแลกมาด้วยความหนาโบ๊ะทุกที เฮ้อมมมมมม┐(´д｀)┌

แต่ในวันนี้ปัญหานี้จะหมดไป! เราจะมาแนะนำให้สาวๆ ทุกคนได้รู้จักกับรองพื้นที่กำลังเป็นที่พูดถึงในเหล่าบล็อกเกอร์ต่างประเทศอยู่ นั่นก็คือรองพื้นชื่อ

Dermacol

นั่นเองค่า

เรามาดูคุณสมบัติที่ทางแบรนด์เคลมมาดีกว่าว่าทำอะไรได้บ้าง

(★O★)

รองพื้นDermacolนั้นเป็นรองพื้นแบบFull( extreme )coverageสามารถปกปิดได้ทุกริ้วรอยของใบหน้า เพราะมีพิกเมนต์เนื้อสีผสมมาถึง 50% ! ซึ่งการที่ใส่พิกเมนต์มามากขนาดนี้ ทำให้ปาดเพียงครั้งเดียวก็ปกปิดได้ทุกริ้วรอย อีกทั้งยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ,Hypoallergenicหรือใช้แล้วมีโอกาสแพ้น้อยมาก,ปราศจากสารกันบูดและตบท้ายด้วยSPF 30ที่ช่วยป้องกันแสงแดดอ่อนๆ ได้ด้วย

ยัง ยังไม่หมดเพียงเท่านี้! รองพื้น

Dermacol

ยังสามารถเป็นคอนซีลเลอร์ลบรอยหมองคล้ำใต้ตา รอยด่างดำจากสิว ฝ้า กระ รวมไปถึง

รอยสัก

เลยทีเดียว ว้าววววววววววว /แสงพุ่งจากตา

(⚙ȏ⚙)

แต่ถ้าจะพูดถึงคุณสมบัติเด่นสุดของรองพื้นยี่ห้อนี้ ต้องยกให้ '

การปกปิด

' เลย เรียบกริบ เนื้อเนียนไปกับผิว ใช้ได้ทั้งตัวและใบหน้า เขาบอกว่าของเขาเป็นรองพื้นที่ใช้ในวงการภาพยนต์เลยทีเดียวนะ Woooow

เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ จะเป็นเนื้อครีมทาแล้วจะได้ลุคแมทค่ะ ซึ่งบลอกเกอร์บางคนได้บอกว่าเนื้อรองพื้นไม่ได้เป็นแมทแบบสิ้นเชิง แต่ออกไปทางซาตินแมท ( มีประกายบ้าง ) มากกว่า แต่โดยรวมคือมันไม่ดิวอี้อ่ะเนอะ ใครชอบแนวแมท ถูกใจแน่นอน( ^з^) -☆

ปริมาณที่ผลิตภัณฑ์ให้มา มี30 กรัมแต่ซื้อครั้งเดียวใช้ยันปีหน้าแน่นอน!(^ワ^)เพราะใช้เพียงครั้งละน้อยเท่านั้น เนื่องจากรองพื้นนี้มีพิกเมนต์เยอะและเนื้อจะหนากว่ารองพื้นอื่นหน่อยเพื่อการปกปิดที่ดีเยี่ยมระวัง!!!หากเราใช้ปริมาณมากไป จะทำให้ดูหนาเตอะไม่เป็นธรรมชาติได้นะคะสาวๆ

สำหรับคนที่กังวลว่าจะไม่มีเฉดสีที่เข้ากับตัวเองนั้น....ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ! เพราะทางแบรนด์ทำออกมาถึง 13 เฉดเลยทีเดียว(╯✧∇✧)╯แต่เวลาเลือกซื้อต้องดูดีๆ หน่อยน้า เพราะเฉดของเขาจะไปทางเฉดสีชมพูมากเหมือนกัน เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนนะคะ(⊙︿⊙✿)

อือหือออ ยิ่งดูยิ่งกระตุ้นกิเลสให้อยากได้เลยนะคะเนี่ย! แต่ๆ เรื่องน่าเสียดายเรื่องเดียวคือ แบรนด์นี้ยังไม่ได้มาตั้ง Shop โดยตรงในไทยค่ะ!.....(´；д；`)หากอยากได้ต้องพรีออเดอร์มาเท่านั้น

ส่วนราคาก็จะตกหลอดละประมาณ800 บาทเท่านั้นค่ะ ถือว่าคุณภาพสวนทางกับราคามากๆΣ(･口･)ถ้ามาในไทยเมื่อไหร่ สาวๆ อย่าลืมสอยมาลองกันนะ!