เดี๋ยวนี้ใครก็ไปเที่ยวเมืองนอกได้ เพราะตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม ถูกลงเยอะมากจนราคาพอจับต้องได้' ฮ่องกง 'ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่คนไทยไปกันเยอะมาก เพราะถึงแม้ค่าครองชีพจะสูงหน่อย แต่ค่าตั๋ว ค่ากิน ไลฟ์สไตล์ การเดินทางก็ไม่ยุ่งยากเกินจะเข้าถึง
พี่อาร์ตเพิ่งจัดทริปไปเมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมากับแฟน ในเวลา 4 วัน 5 คืน ในงบ 10,000 บาท เป็นทริปแบบรีบ ๆ มาก แต่ก็ถือว่าคุ้ม เลยจะมาแบ่งปันประสบการณ์ค่ะว่าเจออะไรมาบ้างในทริปรีบ ๆ ในส่วนของบทความนี้จะเป็นภาค 1 คือการเตรียมตัวเบื้องต้นก่อนนะคะ
#1 แลกเงินก่อนออกจากไทย
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขอให้เตรียมตัวก่อนออกเดินทางจริงยิ่งดีค่ะ ทริคในการแลกเปลียนจากเงินไทยเป็นเงินฮ่องกงให้คุ้มค่าที่สุดก็คือ ให้สังเกตค่ะว่าแต่ละที่ที่รับแลกเงิน ให้อัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ จดไว้แล้วเรียงลำดับดูค่ะ เจ้าไหนที่แลกแล้วให้ค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกง ( HKD ) เยอะสุด ก็เลือกเจ้านั้นเลยค่ะ
หมายเหตุ :- อัตราแลกเปลี่ยนที่พี่อาร์ตแลกวันที่ 10 ต.ค.61 ก็คือ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง = 4.23 บาทไทยค่ะ ปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าหรือน้อยกว่านี้นิดหน่อย ตีกลม ๆ ก็เป็น1 ดอลลาร์ฮ่องกง = 4 บาทไทยค่ะ- pocket money ก้อนนี้ไม่รวมค่าที่พัก ค่าตั๋วเดินทาง ตั๋วขึ้นกระเช้า ตั๋วเข้าดิสนีย์แลนด์นะคะ เป็นเงินสำหรับกินเที่ยว ใช้ติดตัวอย่างเดียวเลย
#2 ค่าที่พัก ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน
แฟนพี่อาร์ตแพลนไว้ค่ะว่า 2 วันแรกจะอยู่ฮ่องกงกัน อีก 1 วันอยู่มาเก๊า ก็เลยคิดกันว่าที่ฮ่องกงจองห้องพักผ่าน airbnb ละกัน ส่วนที่มาเก๊าจองโรงแรมค่ะ โดยค่าห้องทั้งหมด จ่ายในช่วง 3 เดือนก่อนเดินทางค่ะ
ข้อมูลต่อไปนี้คือการจองห้องพักที่พี่อาร์ตกับแฟนเจอมานะคะ บอกไม่ถูกว่าดีไม่ดียังไง ขอสงวนค่า ใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจกันเองเนอะ
- 2 วันแรกที่เราจองผ่าน airbnb ค่าห้องเฉลี่ยคืนละ 1,600 บาทค่ะ อยู่ในย่านมงก๊ก ( ย่านตลาดนัดเลย ) ไม่ค่อยคุ้ม เข็ดค่ะ เพราะเจอห้องพักแบบห้องอับ ๆ โทรม ๆ จุดปักหมุดก็หายาก ไม่ตรงกับที่ปักหมุดแผนที่ไว้ในเว็บ ( กว่าจะเจอ เดินหากันขาลากเลยค่ะ ) เจ้าของห้องก็ไม่ค่อยเอาใจใส่เท่าไหร่ สิ่งสกปรกเพียบ บริการไม่ค่อยดี พอได้หลับนอนได้ ( พี่อาร์ตแนะนำว่า ใครมาฮ่องกง ให้จองโรงแรมดีกว่าค่ะ เรทสัก 2,000-2,500 ต่อคืน อย่างน้อยก็แลกกับการบริการที่มีครบ ได้มาตรฐาน ไม่ต้องปวดหัวกับการไล่ตามเองแทบทุกอย่าง )
- อีก 1 คืนที่มาเก๊า เราจองโรงแรมกันค่ะ ถูกสุดคือคืนละ 2,500 อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมหรูโซฟิเทล เป็นโรงแรมเล็ก ๆ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบมาก ( ค่าครองชีพที่มาเก๊าค่อนข้างสูงกว่าฮ่องกงค่ะ โรงแรมเลยราคาสูงตามไปด้วย )*ถ้าเก็บเงินได้ก้อนแรก ๆ ประมาณ 6,000 บาท ให้จ่ายค่าโรงแรมไปก่อนเลยค่ะ ยิ่งไกลจากวันเดินทางจริงมากเท่าไหร่ ยิ่งจะหาราคาถูกได้มากเท่านั้น บางโรงแรมมีโปรโมชั่นด้วย แต่ถ้าค่าตั๋วเครื่องบินถูกกว่า มีโปรโมชันอยู่พอดี ก็จองตั๋วเครื่องบินก่อน แล้วค่อยจอง/จ่าย ค่าที่พักทีหลัง ก็ไม่ว่ากันค่ะ แล้วแต่สะดวกเลย**โรงแรมบางแห่ง ให้จองแล้วจ่ายเลย บางแห่งจองแล้วค่อยจ่ายวันที่เช็คอิน อ่านเงื่อนไขดี ๆ นะคะ อย่ารีบกดโดยเห็นแก่ถูกไว้ก่อน
#3 จองตั๋วเครื่องบินก่อนหรือหลังที่พักก็ได้
โดยปกติ เราจะจองตั๋วเครื่องบินก่อนแล้วค่อยจองที่พัก ใครจะแหวกแนวจองที่พักก่อนแล้วค่อยจองตั๋วเครื่องบินก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะการทุ่นค่าใช้จ่าย อย่างไรก็เป็นวิธี' ทยอยจ่ายแต่ละเดือน 'อยู่แล้ว ถ้าใครจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไปแล้ว เดือนต่อไปก็จองที่พักได้เลย หรือถ้าใครจองที่พักไว้แล้ว เดือนต่อไปก็จองตั๋วเครื่องบินได้เลย ( พี่อาร์ตเลือกจองตั๋วเครื่องบินถูกก่อนแล้วค่อยจองที่พักกันทีหลังค่ะ ขาไปเลือกสายการบิน Hongkong Airline ภูเก็ต-ฮ่องกง ขากลับเลือก Air Asia มาเก๊า-ภูเก็ต ค่าตั๋วรวม 5,000 บาทค่ะ สำหรับ 2 คน )
#4 จองตั๋วขึ้นกระเช้าไฟฟ้าผ่าน Klook, จองตั๋วเรือ Speed Boat ข้ามไปมาเก๊า, จองตั๋ว Disneyland
พอจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักไปแล้ว ทีนี้ก็เป็นค่าตั๋วจิปาถะทั้งหลายจากจุดเด็ดสุดของทริปค่ะ ทริปของพี่อาร์ตเล็งไว้แล้วว่าจะต้องผ่าน 3 จุดใหญ่ ๆ เด็ด ๆ กระเช้าไฟฟ้าชมเมือง 360 องศา, เรือสปีดโบ๊ทข้ามจากฮ่องกงไปมาเก๊า และดิสนีย์แลนด์ ซึ่ง 3 อย่างนี้ ควรจะจองผ่านระบบออนไลน์ก่อนเดินทางนะคะ เพื่อวันที่ไปเช็คอินจริง ๆ จะไม่ต้องยุ่งยากอะไรมาก ลดขั้นตอนไปเยอะ
- ค่าตั๋วขึ้นกระเช้าไฟฟ้าแบบไป-กลับ จองผ่านแอพพลิเคชัน Klook คนละ 900 บาท
- ค่าเรือสปีดโบ๊ทคนละ 600 บาท
- ค่าตั๋วดิสนีย์แลนด์คนละ 2,100 บาท
*แนะนำให้จองผ่านแอพพลิเคชันหรือเว็บไซต์ dealcha หรือ shopback จะได้ส่วนลดและเงินคืน ( cash back ) ด้วยค่ะ เก๋มาก ๆ
#5 เตรียมแพ็คของให้พร้อม
จ่ายทุกอย่างพร้อมแล้ว คราวนี้ก็แพ็คกระเป๋า จัดเตรียมข้าวของให้ดีนะคะ เสื้อผ้าก็ใส่สบาย ๆ เหมือนบ้านเราได้เลย เพราะที่ฮ่องกง-มาเก๊า อากาศจะออกอุ่น ๆ ถ้าแนะนำไอเท็มที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ ก็มีแค่ 2-3 อย่างค่ะ
- รองเท้าผ้าใบ : แนะนำให้เป็นรองเท้าวิ่ง หรือรองเท้าออกกำลังกาย หรือรองเท้าผ้าใบแบบไหนก็ได้ที่เดินได้นาน ๆ แล้วยังสบายเท้าค่ะ เพราะที่นี่คนจะเดินเท้ากันเยอะ ไม่ค่อยมีรถส่วนตัวกัน
- หัวปลั๊ก Universal : ที่ฮ่องกง-มาเก๊า รูปลั๊กจะคนละแบบกับบ้านเราค่ะ ที่พักบางที่จะไม่มีหัวแปลงมาให้ ควรหาซื้อก่อนเดินทางไปที่นั่นค่ะ โดยเสิร์ชหาในเน็ตด้วยคำว่า ' Universal Plug ' ถ้าหาซื้อไม่ได้ หรือมันกะทันหันมาก ๆ ( อย่างพี่อาร์ตเพิ่งนึกได้ตอนจะขึ้นเครื่องบินแล้ว 555+ ) ก็พอจะหาซื้อได้ในย่านตลาดนัดค่ะ อันละประมาณ 50 บาทค่ะ ก๊องแก๊ง ไม่ค่อยได้มาตรฐาน แต่ก็พอแก้ขัดได้ ( อารมณ์คล้ายสินค้าร้าน 10-20 บาทบ้านเราแหละค่ะ )
เตรียมของทุกอย่างพร้อมแล้ว เดี๋ยวบทความหน้า พี่อาร์ตจะรีวิววันแรกที่ถึงสนามบินฮ่องกงค่ะ มีอะไรเด๋อด๋า เฮฮาบ้าง รอติดตามกันนะคะ สนุกแน่นอนตามประสาคนไปฮ่องกงครั้งแรกค่ะ ^^