1. SistaCafe
  2. สูดโอโซนให้เต็มปอด!! กับ 6 สถานที่เที่ยว แหล่งธรรมชาติ เอาใจสาว Eco

สวัสดีค่าสาว ๆ

SistaCafe



เมืองหลวงควันและฝุ่นมากมาย....จริง ๆ เลยนะคะ แถมยังมีแต่ความเร่งรีบ และวุ่นวายสุด ๆ แถมเผลอแป๊บเดียวก็หมดวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ แบบเร๊วเร็ว!! จนไม่ได้ไปเที่ยว พักผ่อนที่ไหนเลย เป็นแบบนี้บ่อย ๆ คงไม่ดีแน่นอนเลยค่ะสาว ๆ เพราะเหมือนเราไม่ได้เติมพลังชีวิตให้กับร่างกาย และจิตใจเราเลย

T^T



งั้นวันนี้เราเลยจะขอเอาใจเพื่อน ๆ ที่อยากท่องเที่ยว หรือพักผ่อนในสถานที่เที่ยวธรรมชาติด้วย

6 สถานที่เที่ยว แหล่งธรรมชาติ สไตล์สาว Eco

กันสักหน่อย ขอบอกเลยว่าแต่ละที่ มีทั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลย ถ้าพร้อมแล้วปักหมุดรัว ๆ กันเลยค่า

>///<



1. คุ้งบางกระเจ้า


มาเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่าค่ะ กับคุ้งบางกระเจ้า ที่อยู่จังหวัดสมุทรปราการ แม้ว่าชื่อจะอยู่คนล่ะจังหวัด แต่ก็ใกล้กรุงเทพมาก ๆ แค่ข้ามเรือจากท่าเรือคลองเตยไปแป๊บเดียว ก็ถึงแล้ว โดยบางกระเจ้านี้ มีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่า 12,000 ไร่ เลยมีสถานที่ให้ท่องเที่ยวมากมาย



โดยเส้นทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยว มักจะชอบเช่าจักรยาน ( บางที่ก็ให้เช่าฟรี ) ปั่นไปรอบ ๆ เส้นทาง ในเส้นทางนี้ ก็จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวภายในชุมชน อย่าง ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง, พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย, บ้านผลิตภัณฑ์ลูกประคบธัญพืช, บ้านธูปหอมสมุนไพร หรือ สวนศรีนครเขื่อนขันธุ์ ที่เป็นสถานที่เช็คอินยอดฮิต และเป็นสวนอนุรักษ์พันธ์ุนก ที่บรรยากาศดี มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ๆ เลย เป็นสถานที่เที่ยวแนวธรรมชาติของคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากตัวเมือง ได้ดีสุด ๆ




2. สวนลุม


คนกรุงเทพฯ หรือคนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก สวนลุมพินี แน่นอนค่ะ เพราะเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ แถมกว้างใหญ่มากถึง 90 ไร่ ตั้งอยู่ในบน ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน ใจกลางตึกสูงใหญ่มากมาย ซึ่งภายในสวนลุมนี้ ก็จะประกอบไปด้วยบ่อน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ หอนาฬิกา ตึกแบบกรีก ศาลาสไตล์จีน ห้องสมุดประชาชนสวนลุมพินี นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมมากมาย ในสวนลุมอีกด้วย  เสาร์-อาทิตย์ ไหนที่สาว ๆ ว่างล่ะก็ ลองไปเดินเล่นที่สวนลุมกันดูนะจ๊ะ




3. สถานตากอากาศบางปู


อีกหนึ่งสถานที่ ที่เหมาะสำหรับไปเที่ยวพักผ่อน ดูะรรมชาติกันสุด ๆ เลยคะ กับสถานตากอากาศบางปู ที่ตั้งอยู่ทางแถบชายทะเลด้านอ่าวไทย ที่มีพื้นที่ทั้งหมด 639 ไร่ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศธรรมชาติ และพันธุ์นกกว่า 200 ชนิด อาศัยอยู่ที่นี้ โดยมี " สะพานสุขตา " เป็นสัญลักษณ์ ที่เวลาไปแล้วต้องไปถ่ายรูปบนสะพานแห่งนี้ พร้อมกับมีไฮไลท์คือการป้อนอาหารนกนางนวล ที่อพยพหนีความหนาวมาจากไซบีเรีย ในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกปี แถมยังเป็นสถานที่ออกเดทสุดคลาสสิคของใครหลาย ๆ คนด้วยนะจ๊ะ ^^



4. อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ


ใครที่ชอบธรรมชาติ โดยเฉพาะแมลงสวย ๆ อย่าง ผีเสื้อและแมลงนานาชนิดล่ะก็ ต้องห้ามพลาดกับสถานที่แห่งนี้เลยค่ะ นั่นก็คือ อุทยานผีเสื้อและแมลง กรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ในสวนวชิรเบญจทัศหรือสวนรถไฟ ใกล้กับเจเจมาร์เก็ต หรือ ตลาดนัดจตุจักร ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราว 6 ไร่ ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก ๆ คือ 1. ส่วนจัดแสดงแนะนำเกี่ยวกับอุทยานผีเสื้อและแมลง 2. ห้องมินิเธียเตอร์จัดฉายเรื่องแมลงกับระบบนิเวศ 3.  บริเวณนิทรรศการ ห้องเพาะเลี้ยงตัวอ่อนของผีเสื้อและแมลง และ 4. ส่วนจัดแสดงผีเสื้อกว่า 500 ตัว 20 ชนิด อยู่ในตัวกรงอาคาร สูง 15 เมตร



นอกจากนั้นยังมีทางเชื่อมไปสวนสาธารณะอีก 3 แห่ง คือ สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และ สวนรถไฟ เรียกได้ว่าเป็น แหล่งเรียนรู้ในโลกกว้างสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัยเลยทีเดียว




เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพมหานครและพระราชมรดกที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานไว้แก่ชาวพระนคร โดยมีจุดเริ่มต้นในปี 2468 ซึ่งทรงครองราชสมบัติครบ 15 ปี ประกอบกับเศรษฐกิจตกต่ำหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงทรงมีพระราชดำริจะจัดงานแสดงพิพิธภัณฑ์สรรพสินค้าและทรัพยากรธรรมชาติ ดังเช่นประเทศตะวันตกทำได้ผลมาแล้ว โดยกำหนดจัดในฤดูหนาวปลายปี 2468 และมีพระราชดำริว่าเมื่อเลิกการจัดงานแล้ว สถานที่นั่นควรจัดทำเป็นสวนพฤกษชาติ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาและใช้พักผ่อน ทรงเลือกบริเวณทุ่งศาลาแดงที่ดินส่วนพระองค์ที่เหลือจากแบ่งเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปแล้ว เป็นที่จัดงานและทรงสละพระราชทรัพย์เป็นทุนประเดิมในการเตรียมสถานที่ ครั้งนั้นมีการขุดสระกว้าง สร้างเกาะลอยกลางน้ำ ตัดถนน และสร้างถาวรวัตถุ เช่น หอนาฬิกา ตึกแบบกรีก ทรงพระราชทานชื่อว่า สวนลุมพินี หมายถึง สถานที่ประสูติแห่งพระพุทธเจ้า ณ ตำบลลุมพินีวัน ประเทศเนปาล แต่ด้วยทรงเสด็จสวรรคตก่อนกำหนดเปิดงานจึงต้องล้มเลิกงานไป ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 โครงการนี้จึงถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง โดยทรงให้เช่าที่ดินด้านใต้ของสวนลุมพินี 90 ไร่ จัดเป็น “วนาเริงรมย์” คล้ายสวนสนุก และนำค่าเช่ามาปรับปรุงที่ดิน ส่วนที่เหลือเปิดเป็นสวนสาธารณะ นับแต่นั้น สวนลุมพินี จึงเป็นสถานที่ให้ความเพลิดเพลินสนุนสนานแก่ประชาชน มีทั้งกรละเล่น แข่งว่าว วิ่งวัว ชิงช้า ม้าหมุน โดยทรงพระราชทานที่ดินให้รัฐบาลดูแล และมีกระแสรับสั่งให้ใช้ เพื่อสวนสาธารณะเท่านั้น ต่อมาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สวนลุมพินี กลายเป็นที่ตั้งค่ายทหารญี่ปุ่น สวนแห่งนี้จึงลดบทบาทลง จนสงครามสิ้นสุดในปี 2495 – 2497 จึงถูกใช้เป็นที่จัดงานฉลองรัฐธรรมนูญและมีการประกวดนางสาวสยาม บริเวณเกาะลอย


5. เกาะเกร็ด


เกาะเกร็ดถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งที่ในเมืองไทย แถมยังอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย โดยเกาะเกร็ดนี้เป็น เกาะ ที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 2,625 ไร่ ภายในเกาะเกร็ดนั้น ก็จะมีสถานที่ให้เช่าจักรยานปั่นชมรอบเกาะ ที่ประกอบด้วย คลองขนมหวาน โรงงานเครื่องปั้นดินเผาศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวมอญ และ วัดชื่อดังต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากเพื่อน ๆ จะเพลิดเพลินกับขนม และของพื้นบ้านแล้ว ยังได้ซึมซับวัฒนธรรมประเพณีที่ดีของไทยได้ด้วยนะ



6. ทะเลบางขุนเทียน


เป็นสวรรค์ของคนชอบทานอาหารซีฟู้ดเลยจริง ๆ ค่ะ กับแถบทะเลบางขุนเทียน ซึ่งนอกจากจะมีร้านอาหารมากมายแล้วยังเป็นพื้นที่ธรรมชาติ มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อย่างป่าชายเลน เพราะมีเนื้อที่ติดกับทะเลอ่าวไทย เลยมีกุ้ง หอย ปูปลา ที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ เหมาะสำหรับสาว ๆ นักกิน หรือสาว ๆ ที่อยากอนุรักษ์ธรรมชาติ จะมาปลูกป่า นั่งเรือชมวิธีชีวิตของชาวบางขุนเทียน ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าทำในวันหยุดนี้เลยค่ะ




เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ กับทั้ง 6 สถานที่ สำหรับพักผ่อน แหล่งธรรมชาติ ให้เพื่อน ๆ ชาวเมืองทั้งหลายได้สูดโอโซนให้เต็มปอด ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นการเติมพลังชีวิต ก่อนที่จะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ และเผชิญความวุ่นวายในเมืองหลวง>///<สาว ๆ คนไหนที่เป็นสาวสาย Eco ก็อย่าลืมปักหมุดกันรัว ๆ เลยนะคะ



สำหรับวันนี้ต้องขอลากันไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ค่ะ บ๊ายบายยย


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้