อยากกินทาร์ตไข่! เห็นโปสเตอร์ขายเมนูทาร์ตไข่ตามห้างแล้วอดน้ำลายไหลไม่ได้ สีเหลืองอมน้ำตาลเกรียมๆ หอมหวาน โอ๊ย ใครจะอดใจไหว
。゚+.( °∀°)゚+.゚
อั
นที่จริงจะซื้อกินแบบยกโหลมันก็ง่ายดี อร่อย ไม่ต้องทำเองด้วย -.- แต่เพราะเราเป็นสาวซิสต้าที่ช่างจินตนาการ แม้แต่ทาร์ตไข่เราก็อยากเติมแต่งหน้าตาเป็นการ์ตูนตลกๆ บ้าง จะได้กินไปยิ้มไป มีความสุข >< เห็นทีต้องคาดผ้ากันเปื้อน สวมหมวกแล้วเข้าครัวด้วยตัวเองแล้วล่ะ!
วันนี้เรามี
สูตรทำทาร์ตไข่แสนอร่อย พ่วงความมุ้งมิ้งด้วยความหวานจากช็อกโกแลต ตกแต่งเป็นหน้าเจ้า Gudetama ไข่ขี้เกียจที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้
รับรองว่าแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร =w=b วิธีทำก็ไม่ยากอย่างที่คิด จะต้องทำยังไงบ้าง เลื่อนลงมาดูข้างล่างกันเลย!
ส่วนผสมทำทาร์ตไข่ Gudetama
สูตรนี้ทำทาร์ตไข่ได้ 6 ชิ้น
เนยจืด 55 กรัม
แป้งเค้ก 100 กรัม
ไข่ ( เอาเฉพาะไข่แดง ) 1 ฟอง
น้ำตาล / น้ำตาลไอซิ่ง 25 กรัม
ไข่ทั้งฟอง ( น้ำหนักราวๆ 55 กรัม )
น้ำตาล 40 กรัม
น้ำร้อน 75 กรัม
นมข้นจืด 30 กรัม
ช็อกโกแลตเล็กน้อย ( สำหรับตกแต่ง )
มาเริ่มทำทาร์ตอร่อยๆ นุ่มละมุนลิ้นกันเลย!
1. ใส่เนยลงไปในชามผสม ใช้ที่ตีไข่กวนให้เป็นเนื้อครีมนุ่มๆ
2. ใส่น้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลทรายขาวปกติ กวนให้เข้ากัน สีส่วนผสมจะซีดจางออกขาวๆ เล็กน้อยนะคะ
3. ใส่ไข่แดงลงไปในชาม ผสมให้เข้ากัน ตีจนส่วนผสมนุ่มฟู
4. ใส่แป้งเค้กลงไป ปั้นให้เป็นก้อนแป้ง ( dough ) พักไว้ในตู้เย็น 15 นาที
5. แบ่งก้อนแป้งออกเป็น 6 ส่วน ปั้นเป็นก้อนกลมๆ เหมือนลูกบอล
6. ใส่ในถ้วยฟอยล์ที่เตรียมไว้แล้ว กดจากส่วนกึ่งกลางแผ่ออกไปรอบขอบนอก เป็นทรงขนมทาร์ต
7. ใส่น้ำตาลลงไปผสมในน้ำร้อน คนจนน้ำตาลละลาย พักไว้ให้อุณหภูมิเย็นลง
8. ใส่ไข่และนมข้นจืดในชามผสม คนให้เข้ากัน
9. ใส่น้ำเชื่อมไซรัปจากข้อ 10 ลงไป ผสมให้เข้ากัน
10. เทลงกระชอน / ตะแกรง เพื่อร่อนส่วนผสมทำคัสตาร์ดค่ะ
11. เทส่วนผสมลงไปในถ้วยแป้งทาร์ต
12. นำเข้าเตาอบในเตาที่อุ่นไว้แล้วด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 11 นาที
13. เมื่อขอบแป้งเริ่มเกรียมๆ เป็นสีน้ำตาล เร่งอุณหภูมิไปที่ 180 องศาเซลเซียส อบต่ออีก 8 นาทีจนกว่าคัสตาร์ดจะสุก
14. ใช้ช็อกโกแลตเหลวในถุงบีบ ตกแต่งเป็นหน้าตาของเจ้า gudetama ตามชอบ
ทาร์ตไข่ขี้เกียจ Gudetama เสร็จเรียบร้อยแล้ว น่าหม่ำสุดๆ ไปเล้ย!!!
ขนมทาร์ตน่ารักๆ เลียนแบบคาแรกเตอร์สุดมุ้งมิ้งของซานริโออย่างเจ้าไข่ขี้เกียจ Gudetama แบบนี้ จะทำกินเองให้ฟิน หรือจะนำมาเป็นเมนูพัฒนาฝีมือ นำไปแจกให้เพื่อนช่วยชิมติชมก็ไม่เลว ทำเป็นขนมในงานเลี้ยงก็ดี หรือจะหาโอกาสทำไปให้หนุ่มที่แอบชอบชิมก็น่ารักจนยิ้มแก้มแตกได้เลย ><