"ตายแล้ว จมูกวาวมาเชียว หากระดาษซับมันมาใช้หน่อยดีไหมเธอ"
ได้ยินเพื่อนทักมาแบบนี้แล้ว ความมั่นหน้าที่พกพามาจากบ้านตั้งแต่เช้าก็พังทลายลง อับอายหนักมาก! T[]T
ก็คิดว่าใช้รองพื้นสูตร oil-free ตบแป้งฝุ่นสามสี่รอบ เช็คหน้าในกระจกรัวๆ ชัวร์แล้วว่าหน้าแน่นแต่สาวหน้ามัน ยังไงก็เป็นสาวหน้ามันอยู่วันยังค่ำ!
พักเที่ยงเริ่มอาการไม่ดี ตกบ่ายน้ำมันบนใบหน้าเริ่มมาเยือน ฮือ กระดาษซับมันแบรนด์ดีๆ ก็ราคามิใช่น้อย
ถ้ามีวิธีธรรมชาติช่วยทำให้หน้าหายมัน ( หรืออย่างน้อยก็มันช้าขึ้นกว่าเดิมสักหน่อยก็ยังดี ) ก็จะดีมากเลย!!!
จัดไปอย่าให้เสียกับบทความนี้
" 6 วิธีป้องกันหน้ามัน จมูกเรืองแสง "
อย่าปล่อยให้ใบหน้ามันเยิ้มจนคนมาเรียงแถวส่องเพราะนึกว่ากระจก, มาขอลนคางไปทำน้ำมันพราย! ทำตามวิธีง่ายๆ นี้แล้วเธอจะพบว่า
'รู้อย่างนี้ทำซะตั้งนานแล้ว'
รอช้าอยู่ไย เลื่อนลงมาอ่านสิจ๊ะ *-*
1. ท่องไว้ให้ขึ้นใจ "ใบหน้าต้องสะอาด!"
สงสัยไหมว่าทำไมเธอจึงเป็นสาวผิวมัน เพราะใบหน้าของเธอมีต่อมไขมันเยอะยังไงล่ะ!
ถ้าบริเวณไหนมันง่าย มีน้ำมันเยอะ แปลว่ามีต่อมไขมันบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก
ถ้าเธอเป็นสาวผิวมันที่บริเวณ T-zone ( หน้าผากไล่ลงมาถึงจมูก ) ต้องระวังส่วนจมูกเป็นพิเศษ เพราะเป็นส่วนที่ 'มันเยิ้ม' ได้ง่ายที่สุดค่ะ
วิธีพื้นๆ ที่ง่ายที่สุดในการกำจัดความมันส่วนเกินบนจมูกคือ "ทำให้รูขุมขนสะอาดเข้าไว้!"
เพราะรูขุมขนเป็นแหล่งชั้นดีในการสะสมไขมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนจมูก ถ้าปล่อยไว้นานๆ ในที่สุดอาจเกิดการอุดตัน
ทางที่ดีล้างหน้าบ่อยๆ ก่อนใบหน้าจะเป็นสิวจนต้องไปพบคุณหมอดีกว่านะ!
2. ล้างหน้าให้สะอาดด้วย "น้ำเปล่า"
"น้ำเปล่า"
นี่แหละเป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดที่ดีที่สุด! ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสะอาดๆ
( ย้ำว่าสะอาด อย่าไปวักน้ำคลองมาล้างล่ะ! )
บ่อยครั้งเพื่อคงความชุ่มชื่นให้ผิว ขขัดสิ่งสกปรกและไขมันส่วนเกิน
ถ้าใช้โฟม / ครีมล้างหน้าที่มีขายทั่วไป อย่าใช้ล้างหน้าเกิน 2 ครั้ง / วัน
เพราะจะทำให้หน้าแห้งและหยาบกร้านได้ ล้างด้วยน้ำเปล่าจะยังคง
'ความนุ่มของผิว'
ไว้ได้ค่ะ!
3. เช็ดผิวด้วย "น้ำมะนาว"
"น้ำมะนาว"
เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกให้หายไป! ใ
ช้สำลีแผ่น หยดน้ำมะนาวลงไป 2-3 หยด เช็ดน้ำมันออกจากจมูกให้สะอาด
ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง/วัน ช่วยทำให้จมูกหายมันได้ชะงัดนัก ลองดูสิคะ ^^
4. ขัดผิวด้วย "น้ำผึ้งและอัลมอนด์"
"น้ำผึ้งและอัลมอนด์"
เป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์หลายอย่าง กินแยกเดี่ยวๆ ก็อร่อย แต่เมื่อนำมาบดละเอียดผสมกัน จะได้
'สครับผิวจากธรรมชาติ'
ที่ช่วยขจัดปัญหาผิวมันได้ชะงัดนัก
สครับนี้เป็นแบบ
'โฮมเมด'
ทำที่บ้านก็ได้ เพราะสามารถหาได้จากห้องครัว
โดยใช้น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะกับถั่วอัลมอนด์ป่นละเอียด ใช้ทาบนจมูก นวดให้ทั่วแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
ใช้เป็นประจำ ความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกหายไปแน่นอน
5. ใช้สครับผิวสูตร "ลดความมัน"
ถ้าเธอไม่มีเวลาทำสครับผิวเอง ซื้อจากร้านค้าทั่วไปก็ได้!
โดยเลือกสูตร
'ลดความมัน'
มีเม็ดบีดส์ขนาดจิ๋ว เพราะหากเม็ดบีดส์ใหญ่เกินไปอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองและเกิดแผลได้
วิธีใช้ก็ง่ายๆ บีบจากหลอด ( หรือควักจากกระปุก ) แล้วถู นวดวนเบาๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณจมูก ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะได้ผิวหน้านุ่มลื่นไร้ความมัน
ใช้สครับ 2-3 ครั้ง / สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นอกจากความมันจะหายไปแล้ว สิวหัวดำก็หายไปด้วยค่ะ
6. ขัดจมูกด้วย "สำลีชุบน้ำส้มสายชู"
หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง แต่หนึ่งในเครื่องปรุงอาหารอย่าง"น้ำส้มสายชู"ก็ช่วยกำจัดความมันบนใบหน้าได้เหมือนกัน!
ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน ใช้สำลีชุบให้ชุ่ม นำไปถู นวดวนบนจมูก ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
ด้วยวิธีนี้ ไม่ใช่แค่ความมันส่วนเกินบนจมูกจะหายไปเท่านั้น แต่ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกที่จะแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ด้วย ยังไม่นับสิวหัวดำและสิวหัวแดงอีกด้วยคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม!
==============================
หมดปัญหาจมูกมันเยิ้ม แวววาวดุจกระจกกันสักที! แม้ช่วงนี้เทรนด์เกาหลีแบบ 'ผิวฉ่ำแบบดิวอี้' กำลังมาแรง แต่จมูกดิวอี้จะดูเหมือนเธอไม่ได้ล้างหน้ามากกว่า! จมูกมันๆ ( รวมถึงความมันทั้งใบหน้า ) เป็นแหล่งอุดตันชั้นดีของสิวหัวดำ สิ่งสกปรกและคราบมันซึ่งทำให้ผิวดูสกปรก โทรมๆ ไม่สดใสค่ะ
แค่ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดชุ่มชื่นอยู่เสมอ ใช้สครับผิวจากธรรมชาติบ้างเพื่อกำจัดสิวหัวดำและความมันส่วนเกิน เท่านี้เธอก็จะมีผิวสวย สุขภาพดีได้แล้วล่ะค่ะ
ว่าแล้วก็ไปคั้นน้ำมะนาวมาเช็ดจมูกแป๊บ... แล้วพบกันใหม่คราวหน้าค่ะ==============================
Cr. 6 Remedies For An Oily Nose [ boldsky ]
http://www.boldsky.com/beauty/skin-care/2013/remedies-for-oily-nose-033106.html
บทความที่เกี่ยวข้อง
5 เคล็ดลับ ดูแลผิวหน้า สำหรับ 'สาวหน้ามัน'
https://sistacafe.com/summaries/7296
เคล็ดลับวิธีลดหน้ามัน กรี๊ด! หน้ามันทําไงดี ?
https://sistacafe.com/summaries/2693