1. SistaCafe
  2. อ้วนจริงหรือแค่บวมน้ำ?
ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F92%2F4a82e937-f952-4626-bf44-e0dc05c728e5.jpeg?v=20240306130129&ratio=0.594

สาวๆบางคนอาจรู้สึกตัวบวมอยู่ตลอด ทั้งที่ก็ไม่ได้กินเยอะกินแยะอะไร แต่ว่าน้ำหนักก็ไม่ยอมลด แถมยังรู้สึกเหมือนอ้วนขึ้นอีก ใครเจอปัญหาแบบนี้คงต้องเครียดอย่างแน่นอน อาการที่ดูเหมือนอ้วน แต่ไม่ได้อ้วนจริงนั้นเรียกว่า อาการอ้วนบวมน้ำค่ะ อาการบวมน้ำเกิดจากของเหลวที่ควรเดินผ่านหลอดเลือดและน้ำเหลืองกลับซึมเข้าสู่เซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์ โดยปกติร่างกายของคนเราจะสามารถรักษาระดับความสมดุลของน้ำในร่างกายได้ตามธรรมชาติ ซึ่งพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอาการบวมน้ำ อาจเกิดจากการทานอาหารรสจัดหรือเค็มเกินไป รวมไปถึงอาหารแช่แข็งตามร้านสะดวกซื้อที่มีโซเดียมเยอะ และอาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือน สาวๆคงไม่อยากดูอืดหรือตัวบวมกันใช่มั้ยคะ วันนี้เลยจะนำวิธีลดอาการบวมน้ำมาฝากกันค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F92%2Fa577e5ba-e9fa-4257-a111-555a81165ce2.jpeg?v=20240306130130&ratio=0.666

1. ว่ายน้ำ

อาจจะงงว่าการว่ายน้ำนั้นช่วยได้แน่เหรอ จะไม่ยิ่งทำให้น้ำเข้าร่างกายมากขึ้นเหรอ แต่จริงๆแล้วการว่ายน้ำนั้นสามารถบรรเทาอาการบวมน้ำได้ดีทีเดียวค่ะ เพราะว่าน้ำในสระจะเป็นแรงดันน้ำส่วนเกินจากเนื้อเยื่อออกไปได้ และควรว่ายน้ำในอุณหภูมิ 27-32 องศาเซลเซียส สำหรับคนที่ตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส หรือน้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไป แนะนำให้ว่ายในช่วงตอนเย็นดีกว่าค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F92%2Ff3c09866-e533-4d8e-997c-4b5bffba6e7c.jpeg?v=20240306130130&ratio=0.555

2. งดอาหารรสจัด

อาหารรสจัดนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการบวมน้ำโดยเฉพาะอาหารรสเค็มค่ะ ความเค็มนั้นจะไปกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้จนกว่าไตจะทำหน้าที่ขับออกมา ซึ่งกว่าไตจะขับออกมาก็ใช้ระยะเวลานานถึง 24 ชั่วโมง อีกทั้งการทานอาหารเค็มจัดบ่อยๆอาจเสี่ยงให้เกิดโรคไตตามมาด้วยอีกด้วย



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F92%2Fbb944226-aefe-4d54-b1fb-f96f2a3ae731.jpeg?v=20240306130130&ratio=0.633

3. ดื่มน้ำมากๆ

การดื่มมากๆนั้นก็เพื่อจะได้ช่วยให้อาการบวมน้ำนั้นลดลง ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วขึ้นไป น้ำจะช่วยให้เราขับปัสสาวะและเจือจางความเค็มออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F92%2Fae53fa17-b963-439b-af34-871ba2db5732.jpeg?v=20240306130130&ratio=0.664

4. ทานผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง

ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงจะช่วยขับโซเดียมออกไปจากตัวเราได้ เช่น กล้วยหอม สับปะรด แอปเปิ้ล แตงโม แคนตาลูป เป็นต้น


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F92%2F923ddbd8-d06c-49b2-93b8-7f6a216457b6.png?v=20240306130130&ratio=0.550

5. กินขึ้นฉ่าย

ขึ้นฉ่ายมีสรรพคุณช่วยลดอาการบวมน้ำ และเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่าย ขึ้นฉ่ายนั้นจะช่วยเร่งให้ปัสสาวะเร็วขึ้น ซึ่งการปัสสาวะจะช่วยขับของเสียอย่างโซเดียมในตัวเราออกไปค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F92%2Fa6204ef1-dc4b-47a8-a6ce-bcc497b097c1.jpeg?v=20240306130130&ratio=0.750

6. นอนยกเท้าขึ้นสูง

วิธีนี้จะช่วยให้น้ำที่ขังอยู่ตามขาไหลกลับเข้าระบบไต เพื่อขับของเสียออกมาได้ง่ายขึ้น



วิธีแก้ไขไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ ลองหันมาตรวจสอบตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่าค่ะ อาการบวมน้ำที่ไม่หนักนั้นสามารถรักษาได้ แต่หากปล่อยไว้ระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคอื่นๆตามมา เช่น โรคตับ โรคไต หรือภาวะหัวใจล้มเหลวค่ะ ลองเช็คอาการบวมน้ำของตัวเองด้วยการกดลงไปบริเวณผิวหนังของคุณดู หากลองกดแล้วผิวบุ๋มลงไปแล้วกลับคืนสภาพช้าลง ควรรีบปรึกษาแพทย์ดีกว่า พบกับสาระดีๆได้อีกครั้งหน้าค่ะ



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้