ครั้งหนึ่งที่ว่างตรงข้ามห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ที่เรียกว่าสี่แยกปทุมวัน เคยเกิดการจัดกิจกรรมเพื่อเรียกร้องให้มีการสร้างหอศิลป์ แทนการสร้างห้างสรรพสินค้า ด้วยแนวคิดว่าศิลปะนั้นจะช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน และเมื่อวันหนึ่งมันสำเร็จเป็นรูปร่าง ประเทศไทยก็ได้มีหอศิลป์ที่ทัดเทียมสากล อันเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมที่นำมาแสดงให้ปรากฏ เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้ศิลปะ และวัฒนธรรม ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับจิตใจของผู้คนให้สูงขึ้น และนั่นคือที่มาของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพ
1) การออกแบบด้วยศิลปะ
หอศิลป์ถูกออกแบบโดยเน้นให้สามารถใช้แสงธรรมชาติในการจัดแสดงงานศิลปะให้ได้มากที่สุด พร้อมรูปแบบทรงสูงที่เหมาะแก่การใช้สอยสำหรับแสดงนิทรรศการหรืองานศิลปะทุกแขนง พื้นที่ทุกตารางนิ้วนั้นยืดหยุ่นต่อการใช้สอย สามารถใช้เพื่อกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมหลายรูปแบบ จึงมีพาเหรดงานศิลป์มากมายที่ถูกจัดแสดงขึ้นให้ประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ได้ศึกษา ที่สำคัญการออกแบบนั้นยังเน้นเพื่อผู้พิการที่ต้องการมาเที่ยวชมอีกด้วย จึงมีทั้งห้องน้ำคนพิการ ลิฟท์เฉพาะผู้พิการที่ชั้น 3 และปุ่มกดลิฟท์สำหรับผู้พิการทางสายตา
2) เราจะได้เห็นอะไรที่หอศิลป์
การแสดงนิทรรศการทางด้านศิลปะเกือบทุกแขนง ทั้งการวาดรูป รูปถ่าย ภาพยนตร์ สถาปัตยกรรมไทย ดนตรี กวี ละคร งานเขียน และอีกมากมายซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยจรรโลงหัวใจของคุณให้อบอุ่นและเต็มอิ่ม นอกจากนี้คุณยังจะได้ชมผลงานศิลปะของเหล่านักศึกษาวิชาศิลปะ จากมหาวิทยาลัยต่างๆซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาแสดงผลงานให้คุณได้ชมยังห้องแกลอรี่อีกด้วย อีกหนึ่งงานที่ไม่ควรพลาด คืองานประกวดหนังสั้นมาราธอน ซึ่งคุณจะได้ชมหนังสั้นที่สุดแสนจะแปลก แหวกแนว สนุกสนาน ไม่เหมือนใคร ฝีมือของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่สำคัญไม่เสียเงินในการเข้าชม จึงไม่แปลกถ้าหากวันนี้หอศิลป์ จะกลายเป็นที่นิยมทั้งต่อนักท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
3) การเดินทางก็แสนง่าย
ด้วยสถานที่ตั้งบริเวณสี่แยกปทุมวันนั้นอยู่ใจกลางเมือง จึงสามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสาร รถแท็กซี่ หรือ BTS ทั้งง่ายและสะดวก แถมไม่เปลืองเงิน วันหยุดพักผ่อนจะลองหาเวลาไปดู รับรองว่าคุ้มค่าต่อเวลาที่เสียไปจนประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพนั้น เปิดทำการตั้งแต่วันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 10 โมง จนถึง สามทุ่ม หยุดทุกวันจันทร์นะ ใครอย่าเผลอไปเชียวล่ะ !
แถมด้วยหลังออกจากหอศิลป์แล้วจะแวะช๊อปหรือเที่ยวต่อในห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ใจกลางเมืองก็แสนจะง่ายดาย แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าพลาด!