จริงๆ ในการดูคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น สำหรับชาวต่างด้าวอย่างเราแล้ว ก็มีความลำบากพอตัวเลยค่ะบทความนี้เขียนด้วยความที่ว่าตอนเราไปติ่งหาข้อมูลที่เป็นภาษาไทยแทบไม่ได้เลยค่ะ อาศัยถามคนนู้นทีคนนี้ที ก่อนที่จะเลือนลางไปจากหัว ขอเขียนบันทึกไว้หน่อยแล้วกัน
ออกตัวก่อนว่าผู้เขียนไม่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเลย
( ก็ยังกระเสือกกระสนไปตามได้! )
แล้วก็ไม่ได้กูรูมาก แต่พอจะมีประสบการณ์เลยอยากมาแชร์และเป็นกำลังใจสำหรับชาวไม่แมสค่า
จะเล่าตั้งแต่จองตั๋วยังไง ยันถ่ายรูปด้วยยังไงเลยค่ะ!
จองตั๋วยังไง
ระบบการจองตั๋วของบ้านเค้าและบ้านเรา
ไม่เหมือน
กันจ้าาาาา แถมมีการเปิดจองหลายรอบด้วย จริงๆ ตั๋วคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น
ไม่แพง
มากนะคะถ้าซื้อเองได้
อย่างแรกเริ่มจาก เมื่อสาวของเราประกาศทัวร์! เช็คเลยค่ะว่าจะบินวันไหนยังไง
( อันนี้พอดีเราจะไปเที่ยวอยู่แล้ว แล้วดันมีคอนตรงพอดีเลยไปค่ะ )
ก็คืออย่างที่บอกไว้ว่าไม่รู้ภาษา ดังนั้น google translate และ Google Chrome ( browser ) จะเป็นเพื่อนรักของเราจ้า
ทริค
ตอนประกาศทัวร์ ให้เอาชื่อสถานที่จัดไปเสิร์ชเพื่อดูว่าสถานที่จัดใหญ่มั้ย จุได้กี่คน
1
ยิ่งเล็กยิ่งมีโอกาสใกล้มากขึ้นค่ะ
อารมณ์ประมาณ Live ที่ยืนดูทั้งหมด
( บางครั้งมีแยกโซนชายหญิงให้ค่า แต่ถ้าสู้แรงเหล่าโอตะไม่ไหวก็ต้องยอมอยู่โซนหลังๆ )
2 ถ้าสถานที่ไหนเปิดจองแบบ
seat
ด้วยแปลว่า Hall ใหญ่ประมาณนึงค่ะ
3 แบบ seat
อาจจะมี 2 - 3 ชั้น
นะคะ แล้วแต่ความใหญ่ของ Hall
( บางคนได้นั่งชั้น 2 เด้อ T_T แต่ข้อดีคือจะได้เห็นภาพรวมของการแสดงค่ะ )
ส่วนมากทัวร์ของวงที่เราตามอยู่ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 500-5000คน ค่ะ ถ้า 10,000++ จะเป็นคอนเสิร์ตพิเศษต่างๆ
( โดยมาก ) คอนเสิร์ตญี่ปุ่นจะแบ่งรอบจองบัตรประมาณนี้
1.
รอบแฟนคลับ
คือการกดสุ่ม ผลคือได้กับไม่ได้ โดยบัตรคอนเสิร์ตจะถูกส่งมาก่อนวันคอน 2 อาทิตย์ ( ก็คือรู้ที่นั่งก่อน 2อาทิตย์นั่นเอง โดยที่นั่งก็สุ่มจ้า )
2.
รอบทั่วไป
( อันนี้อาจจะเปิด 2 - 3 รอบแล้วแต่ ) บัตรคอนเสิร์ตจะถูกส่งมาก่อนวันคอน 2 อาทิตย์เหมือนกัน แต่เหมือนที่นั่งก็จะสุ่มไม่ดีเท่ารอบแฟนคลับเด้อ
3.
รอบซื้อทั่วไป
ก็คือ
แย่งกันซื้อ
นั่นเองค่ะ อันนี้จองปุ๊บรู้เลยว่าได้ที่นั่งอะไร ( ตอนจ่ายเงินไปจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อ )
----------
4.1
ตั๋วผี
จะมีเว็บที่ขายต่อตั๋วคอนเสิร์ตโดยเฉพาะอยู่ เราก็อาศัยซื้อจากเว็บเหล่านั้นกันค่ะ ราคาอาจจะอัพนิดหน่อย เพราะบางคนสุ่มได้จากรอบแฟนคลับ
4.2
ตั๋วผีรอบ2
เป็นตั๋วผีที่
รู้ที่นั่ง
แล้วนั่นเองค่ะ ( ก็คือ 2 อาทิตย์นั่นแล ) ตรงไหนที่นั่งดีก็คืออัพราคากันรัวๆ ไปเลยจ้า
แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดคือ ต้องรบกวนให้เพื่อนหรือร้านรับกดบัตรกด/จ่ายตังค์ ( ซื้อ ) ให้ค่ะเพราะบางทีต้องจ่ายเงินกับร้านสะดวกซื้อ หรือ ตัดจากบัตรเครดิตญี่ปุ่น และมีที่อยู่ญี่ปุ่น
( ถ้าศิลปินดังมากๆๆๆ ก็อาจจะมีตรวจบัตรสแกนหน้าค่ะ ส่วนของเราก็ชื่อใครก็ได้ค่ะ )
จดหมายให้เค้าส่งมาที่ไปรษณีย์ที่ใกล้ที่พักก็ได้น้า เวลาไปรับก็ใช้พาสปอร์ตยืนยันจ้า( กรณีที่พักไม่สะดวกให้ส่งจดหมาย )
แต่ความพีคคือ เคยเจอคอนนึงที่
รู้ผังวันงาน
ค่ะ! คือ
ป้องกันบัตรผีกันสุดๆ ไปเลยนั่นเอง
แต่จริงๆ แล้วมันก็พอจะเดาๆ ได้จากตัวอักษร ABC แหละเนาะ
ทำไมต้องไปแต่เช้า!
เท่าที่ทราบมาจากคนรอบตัวคือ
1. ซื้อของหน้าคอนแล้วกลับไปเก็บค่ะ ( บางคนรับหิ้ว ก็ไปหาที่เก็บไรงิ้ จะได้ไม่ต้องพะรุงพะรังไปถึงเย็น )
2. กลัวของหน้าคอนหมด ( ถ้าคอนที่ไม่ใช่ทัวร์ มี
ของหมด
แน่นอนค่ะ )
3. มาซื้อ CD เพื่อ
เชกกิ
กับไอดอลค่ะ ( เชกิ = ถ่ายรูปโพลาลอยด์ )
และเหตุผลของเราก็คือ ข้อ 3 จย้าาาาาา
โดยคอนที่เราไปคือ
BiSH ( BRiNG iCiNG SHiT HORSE TOUR )
ของค่าย
WACK
อะอันนี้ก็พูดตามตรงว่า
ไม่รู้ว่าค่ายอื่นเป็นยังไงบ้าง
นะคะ แต่ค่าย
WACK
คือจะมาแนวนี้หมดทุกวงเลยค่ะ
อยากถ่ายรูปกับไอดอลค่าย WACK ทำยังไงงงง
หลักๆ ที่รู้คือเข้าแถว
ซื้อ CD
> จากนั้นจะได้
ตั๋ว
> แล้วเอาตั๋วไป >
เชกิ/ จับมือ
จย้าาา
เหมือนง่ายนะคะ แต่หน้างานเจอหลาย
เซอร์ไพรส์
เลยข่ะ แต่สิ่งที่จะอธิบายต่อไปนี้ ตั้งสติเพื่อทำความเข้าใจกันดีๆ นะ! อาจจะงงๆ หน่อย ~_~
ซื้อ CD ( Single ) 1 แผ่น ได้ตั๋ว 1ใบ
การเชกิ หรือถ่ายรูปเนี่ย จะแบ่งเป็น 2 แบบค่ะ
1.
ถ่ายคู่
( คือไอดอลกะเราเด้อออ )
ตั๋ว 3 ใบ
ถ่ายได้ 1คน ( คือไอดอลและเรา )
2.
Group Shot
( ถ่ายหมู่ จะสอง จะสาม จะสี่คนก็เรียกกรุ๊ปช็อตจ้า )
ตั๋ว 4 ใบ
ถ่ายได้ 2 คน
ตั๋ว 5 ใบ
ถ่ายได้ 3 คน
ตั๋ว 6 ใบ
ถ่ายได้ 4 คน
ตั๋ว 7 ใบ
ถ่ายได้ 5 คน
ตั๋ว 8 ใบ
ถ่ายได้ 6 คน
ดูเหมือน Group shot จะคุ้มกว่า แต่เปล่าจ้าา
เพราะเค้าจะให้ Group shot
ถ่ายเสร็จก่อน
แล้วตามด้วยแยกเดี่ยว ซึ่งเราจะได้ยืนเคียงข้างเหล่าไอดอลของเรา
เพียงแปร๊บเดียวเท่านั้นย์ T_T
ซึ่ง
ถ่ายคู่
จะตามด้วยพูดคุยจับมือบลาๆ เล็กน้อยแล้วลา
( เกิดขึ้นเร็วแหละ แต่นานกว่า Group shot แน่นวล )
ส่วนเรานั้นจะถ่ายรูปกับ member ทั้งวง = 6 คน + คู่ 2 คน = รวมต้องใช้ตั๋ว14ใบ
เรื่องเซอร์ไพรส์คือ ในการซื้อซีดี ( Single ) เพื่อให้ได้ตั๋วเนี่ยซื้อได้ครั้งละ 3 แผ่น เท่านั้น!
แต่โดยมาก ถ้ารอบนั้นเป็น
ซิงเกิ้ล
( ไม่ว่าจะ CD, DVD, Blu-ray ) ก็จะซื้อ 1 แผ่น ได้ 1 ใบ ถ้าเป็น
อัลบั้ม
ก็ซื้อ1 แผ่น ได้ 3 ใบ
มีครั้งนึงตอนไปเราเจอขายเป็น
อัลบั้มพอดี
ซื้อแผ่นเดียว ได้ตั๋ว 3 ใบ ก็คือต่อแถวแค่ 2 รอบก็ได้ครบแล้วจ้า
( ซิงเกิ้ลราคาประมาณ300 บาท, อัลบั้มราคาประมาณ 1,000 บาท,Blu-ray ราคาสรุปคอนนี้ 14 ใบ เราก็ต่อแถวไป 5 รอบค่ะ( เหนื่อยมากข่ะ แถวยาวจนท้อ ถามตัวเองหลายรอบว่าชั้นทำอะไรอยู่ ตอนจ่ายเงินก็ชั้นทำอะไรลงปัยT_T( เราคำนวนค่าเสียหาย กลัวตัวเองรับไม่ได้ )
ซึ่งๆๆๆๆ เห้ยย 14แผ่นแน่ะ หนักมั้ยยย!?!?
เปล่าจ้าา
ได้มาเป็นกระดาษ
จ้าาา ซื้อลมซื้ออากาศสุดๆ ไปเลยยย
ก็คือบอกประมาณว่า ไปเอาแผ่นวันที่ xx ที่ xx ก่อนวันที่ xx นะจ๊ะ
แผ่นยังไม่ออกจ้ะ หน้าตาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้นะจ๊ะ เพราะยังไม่ออกไงจ๊ะ เห็นแค่ชื่อซิงเกิ้ลเท่านั้นค่ะ
( โดยมากเอาที่ HMV ที่ชิบูย่าค่ะ ถ้าไปรับที่อื่นเหมือนจะต้องเสียค่าส่งเพิ่มส่วนชาวต่างด้าวอย่างเราก็อาจจะฝากเพื่อนไปรับ หรือบินไปรับเองอีกรอบก็แล้วแต่ความสะดวกเงินเลยค่ะ )
ทุกอย่างพร้อมแล้ว! พักกินข้าว กินเหล้า รอเวลาคอนเริ่ม!
การเข้าคิวดูคอนเสิร์ต
อย่างที่เกริ่นไปในทริคนะคะ คอนเสิร์ตจะมีแบบยืน กับ ที่นั่ง ( seat )
ถ้าเราจองเป็นที่นั่งไม่ค่อยยุ่งยากค่ะ พอถึงเวลาก็เข้าไปหาที่นั่งตามตั๋วได้เลย หรืออาจจะถามสตาฟใน Hall เลยก็ได้ค่ะ
ส่วน live แบบยืน ( เรียกไม่ถูกแหะๆ ) อันนี้แหละค่ะ
ปัญหาาาาา
พอได้ตั๋วมาตั๋วจะบอกลำดับการเข้าของเราค่ะ
เค้าจะเรียกเป็นคิวค่ะโดยมากจะเรียกเป็นหลักสิบนะเท่าที่เจอเช่น 1-10 , 10 - 20 ไปเรื่อยๆ~
วิธีแก้ปัญหาคือ
1. หากรู้เลขลำดับตัวเองแล้ว ให้ถามกูเกิ้ล/เพื่อนที่พอจะรู้ศัพท์ค่ะ ว่าเลขของเราในภาษาญี่ปุ่นคืออะไรex. ถ้าลำดับคือ 256 เลขที่เราควรรู้คือ 250, 256, 2602. วิธีแรกลำบากไป นี่เลยค่ะ ขอแนะนำให้ดันตัวเองไปใกล้สต๊าฟที่กำลังประกาศเลข แล้วถามนางค่ะ / ไม่ก็ถามคนที่มารอคิวแถวนั้นค่า ส่วนมากก็เจอคนใจดีช่วยบอกให้น้า
มีค่าดริ๊งก์ด้วยเว้ยยยยยย
คิดว่าส่วนมากจะบอกในเว็ปตั้งแต่จองตั๋วแล้วค่ะ ว่าค่าบัตรเท่านี้ กฏต่างๆเก็บค่าดริ๊งก์ 500 เยนด้วยนะจ๊ะ( ส่วนมากจะราคาเท่านี้ค่ะ )
ก็ก่อนเข้าคอนก็เตรียมเหรียญ 500 เยนไว้ให้สต๊าฟก็ได้ค่ะ แต่ส่วนมากก็มีทอนกันแหละ อันนี้เก็บพร้อมตอนฉีกตั๋วเข้าคอนค่ะ จากนั้นเราจะได้ตั๋วเอาไปแลกดริ๊งก์ข้างใน
มีตั้งแต่น้ำเปล่ายันแอลกอฮอลล์จ้า
จะแลกก่อนหรือหลังคอนก็ได้ค่ะ
ปล. วงทั่วไปที่เป็นไลฟ์เล็กๆ ก็เก็บค่าดริ๊งก์กันนะ
เอ้ยยย แท่งไฟเหรอ ไม่ต้องนะ!!ส่วนมากคอนเสิร์ตค่ายWACKจะไม่ใช้แท่งไฟค่ะ ส่วน BiSH นี่ไม่ใช้เลย ยกเว้นแฟนคลับทำ Project กันเอง
คอนเสิร์ตที่เราไปจัดใกล้วันเกิด Ayuni D ( สมาชิกของวง ) มีแฟนคลับแจกแท่ง light stick เค้าก็พยายามบอกเราว่าโบกตอนเพลงนี้ท่อนนี้
ซึ่งทัวร์คอนเสิร์ต BRiNG iCiNG SHiT HORSE ที่เราไปดูเป็น
รอบแรกของทัวร์
ดังนั้นทุกคนจะยังไม่รู้ Setlist และโป๊ะมากที่ดันร้องเป็น
เพลงแรก
ค่ะ
กลายเป็นว่าทุกคนก็ชู light stick ตั้งแต่เพลงแรกเบย
คอนเสิร์ตจบแล้ว ถ่ายรูปตรงไหนน!?
ปัญหาเลยค่ะT_T พอคอนเสิร์ตจบ ก็ต้องหาว่าเค้าถ่ายเชกิกันตรงไหน( ถามสต๊าฟเอา ไม่ก็ตามๆ เค้าไปค่ะ ไม่ยากๆ )ลำดับจะเป็น ศิลปินพักแปปนุงแล้วออกมาจับมือ > Group shot > ถ่ายคู่
( จับมือนี่ไม่แน่ใจว่าควรเรียก handshake shakehand หรือ hi touch ตั๋วใบเดียวแต่ได้จับหกคนแต่เรื่องเกินขึ้นแบบไวมากเลยค่ะอย่าเรียกจับเลย เรียกตบรวดเดียวจบครบวง T_T)
และโลเคชั่นของรอบนี้ก็คือหน้าตู้กดน้ำจย้า!!ดิบๆ แบบนี้แหละ
ถ่ายรูปได้มั้ย ทำไมมีรูป แอบถ่ายมาอ่อ
โดยปกติแล้ว คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ !
ค่ายWACKเป็นค่ายที่ให้ถ่ายรูปได้ค่ะ( อาจจะยกเว้นพวกไลฟ์ตามรายการ TV )คนไม่ถ่ายก็มี ส่วนคนที่ถ่ายก็มีตั้งแต่มือถือทั่วไปยันกล้องโปร-เลนส์บ้องไปเลยค่ะถ้าเป็นไลฟ์เล็กๆ คนที่เป็นเลนส์บ้องเค้าก็จะหลบไปอยู่หลังๆ ให้ค่ะ ( บางทีก็มีโซนผู้หญิงให้ด้วยเด้อ )ก็จะมีรูปสวยๆให้เสพตลอดช่วงทัวร์( ปกติช่วงทัวร์วงญี่ปุ่นจะเงียบมากค่ะ เหมือนวาร์ปหายไป )
ภาพปลากรอบเด้ออ
สรุปว่าช่วงยากที่สุดคือการหาคนจองตั๋วและใช้กำลังกายต่อคิว( แก่แล้วค่ะ เหนื่อยค่ะ )ก็จบแต่เพียงเท่านี้นะคะ สำหรับการตามติ่งไอดอลไม่แมส ( ในไทย ) ของเราข้อมูลผิดพลาดประการใด แจ้งได้นะคะ ยินดีแก้ไข เพราะเขียนจากความทรงจำอันเลือนลางงงส่วนใครที่อยากใกล้ชิดกว่านี้แนะนำให้ไปคอนเสิร์ตต่างจังหวัดค่าสำหรับ BiSH ล่าสุดเราไปที่ โอกินาว่า ก็ใกล้ชิดพอตัวค่ะ
ปล. สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่บิลลี่ที่ช่วยสงเคราะห์ให้ได้ไปติ่ง สอนประหนึ่งจะส่งลูกเข้าอนุบาล