เพราะความสวยรอไม่ได้.. หืมมมม เปิดมาก็สโลแกนโฆษณาเลย แต่จริงๆ แล้วที่ขึ้นต้นแบบนี้ เพราะวันนี้บีขนสกินแคร์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมารีวิวค่ะ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนขั้นตอนสุดท้ายของใบหน้าเลย
มีตัวไหนบ้าง มาดูคร่าวๆ กัน
มาดูหน้าสดบีสักหน่อย
บอกก่อนว่าปัญหาผิวของบีคือ สิว ( โดยเฉพาะใต้คาง ) รอยสิว ซึ่งมีลักษณะแดงๆ จะอยู่ช่วงหน้าผากและคางค่ะ และรูขุมขน ที่จะกว้างในบางที ส่วนปัญหาอื่นๆ ไม่ค่อยมีค่ะ
หน้าผากจะมีรอยสิวซะเยอะ ( เขินจัง ส่วนคางมีสิวผุดๆ โผล่ๆ บ่อยครั้งค่ะ )
ผลิตภัณฑ์ที่บีเลือกใช้ส่วนใหญ่เลยจะเป็นพวกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องสิว รอยสิว รูขุมขน ผิวชุ่มชื้นค่ะ
มาดูแต่ละตัว ตามขั้นตอนกันเลย
อันดับแรก บีจะใช้โทนเนอร์ค่ะ
Acqua Alle Rose Tonico Rinfrescante
โดยใช้คู่กับสำลี บรรเลงลงไปที่หน้าเราแบบเบาๆ
ว่ากันว่า โทนเนอร์จะช่วยปรับสภาพผิวเราให้มีความเป็นกรดหน่อยๆ ซึ่งเป็นผิวตามธรรมชาติของเรา เพื่อรับกับการบำรุงที่ดีในขั้นตอนอื่นๆ ทำให้ครีมต่างๆ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
โทนเนอร์ตัวนี้เป็นของฝรั่งเศสค่ะ โดยส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกว่ากลิ่นไม่ออกเป็นแอลกอฮอล์รุนแรง ใช้แล้วไม่แสบหน้า และโดยส่วนตัวบีไม่แพ้หรือระคายเคืองค่ะ
ต่อกันด้วยน้ำตบตัวดัง
Biotherm life plankton essence
นี่ก็เป็น My Fav ไม่รู้ว่ารีวิวไปกี่รอบแล้ว ช่วยเรื่องสิวได้ดีค่ะ รูขุมขนก็เอาเรื่องงงง
บีจะใช้ต่อจากโทนเนอร์ โดยการเทใส่มือ แล้วขยี้ๆ มือไปมา จากนั้นก็ตบลงที่หน้าดังเพลี้ยะเลย หืมม ล้อเล่นค่ะ ตบเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าก็พอแล้ว
หลังจากนั้นก็ตามด้วยเซรั่มค่ะ
Fiit Skin Natural Activated Stem Cellular Acne Serum
เซรั่มไข่ขาว ชาโคลตัวนี้เข้มข้นมาก บีเลยจะเน้นทาบางๆ ที่ผิวพอค่ะ ตัวนี้จะเน้นๆ ที่เรื่องสิว และรอยสิวค่ะ อีกเรื่องที่ดีงามของเจ้าเซรั่มไขข่าวตัวนี้คือ ช่วยล้างสารพิษในผิว ไม่ว่าเราจะเจอสารพิษ สารเคมี สเตียรอยด์ บลาๆ ตัวนี้ก็จะไปดึงสารพิษเหล่านั้นออกจากผิวค่ะ บีเลยชอบใช้ เพราะรู้สึกว่าเรามีสารเคมีต่างๆ ตกค้างในผิวเยอะมาก อย่างครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางต่างๆ ที่เราใช้ ยังไม่รวมถึงสารพิษต่างๆ ระหว่างวันด้วย ถ้าเราไม่เอาออกซะบ้าง ผิวก็จะรับการบำรุงใหม่ๆ ได้ยาก
อีกอย่างที่ชอบคือส่วนผสมของเค้าจะมาจากธรรมชาติทั้งหมดเลย เลยเน้นไปที่ความปลอดภัยมากๆ นั่นเอง ตัวนี้บีจะหยดเซรั่ม วนกระจายให้ทั่วฝ่ามือแล้วก็ตบๆ กดๆ ลงบนผิวทั่วใบหน้าค่ะ
มาต่อกันด้วยครีม
Flora White Perfect Cream
หลังจากทาเซรั่มไปแล้ว บีก็จะลงครีมต่อค่ะ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวนั่นเอง ตัวนี้ก็วอร์มใส่มือเบาๆ แล้วเกลี่ยลงใบหน้านะคะ
ตัวนี้ก็จะช่วยเรื่องสิว และความชุ่มชื้นเช่นกันค่ะ ตัวนี้มีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย ทำให้ผิวนุ่มๆ
ตบท้ายด้วย
Shiseido Aqualabel Whitening Jelly Essence
ตัวนี้เพิ่งสอยมาตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะเพื่อนที่เป็นแอร์แนะนำ ก็ต้องเชื่อเค้าหน่อยเนอะ เพราะแอร์ผิวจะขาดความชุ่มชื่นมากๆ เลยน่าจะมีผลิตภัณฑ์ดีๆ เยอะ บีจะใช้เจ้าตัวนี้หลังจากทาทุกอย่างหมดแล้ว เป็นการปิดท้ายนั่นเองค่ะ เนื้อครีมเป็นเจลลื่นๆ ทาแล้วเย็นสบายผิวมากเลย
และบีก็ชอบใช้ตัวนี้เวลาขี้เกียจทาครีมเยอะๆ ด้วย ทาเพียวๆ แล้วแต่งหน้าเลย หรือบางทีก็จะหยดเซรั่มไข่ขาวตัว Fiit Skin มาผสมสักหน่อย ให้หน้าชุ่มชื้นขึ้นค่ะ
ตามมาด้วยสกินแคร์ที่ดูแลผิวรอบดวงตาบ้าง
Neutrogena Hydro Boost Eye Roll On
บีเป็นคนหนักหนากับดวงตามาก เพราะเป็นภูมิแพ้ เป็นแบบจริงๆ จังๆ อากาศเปลี่ยนก็แพ้ ตัวอะไรกัดก็แพ้ 555 ค่อนข้างหนักหนา และเส้นเลือดตาจะคล้ำ แบบชัดเจน
ตัวนี้ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง พวกรอยคล้ำ ริ้วรอย เจ้าตัวนี้จะเป็นหัวลูกกลิ้ง แช่เย็นแล้วมากลิ้งที่ตา มันก็จะฟินๆ หน่อย
เย้ๆ ตัวสุดท้ายก็มา
Himalaya Under Eye Cream
ตัวนี้เห็นคนแชร์ในเฟสเยอะมาก ว่าช่วยลดรอยคล้ำใต้ตา ส่วนตัวบีว่าเฉยๆ ( หรือบีอาจจะหนักหนาขั้นสุดท้าย จนเอาไม่อยู่ 55 ) แต่ด้วยราคา และการให้ความชุ่มชื้น จัดว่าดีย์!! ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นดีมากค่ะ เป็นอะไรที่บีใช้ทุกวัน จนติดแล้วก็ว่าได้
โดยจะลงหลัง Neutrogena Hydro Boost Eye Roll On เพราะเจ้าตัวนี้จะไม่ค่อยชุ่มชื้นเท่าไหร่ แต่ Himalaya Under Eye Cream แอบรู้สึกว่าผิวใต้ตาดูมีน้ำมีนวลขึ้นค่ะ
ทำรูปแบบคลิปวิดีโอไว้ด้วย เผื่อสาวๆ
SistaCafe
อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
ทั้งหมดนี่ก็เป็นสกินแคร์ที่บีใช้อยู่ ใช้มาสักพักก็รู้สึกว่าผิวดีกว่าช่วงก่อน อีกเหตุนึงน่าจะเป็นเพราะเรานอนเยอะขึ้นด้วย เลยทำให้รู้สึกว่าอาการหน้าแห้ง ผิวแพ้ง่าย เริ่มจะหายไปแล้ว โดยเฉพาะสิว และรอยสิว ช่วงนี้ก็ลดลงไปมากๆ เลยค่ะ
ใครหาทางแก้เรื่องพวกนี้อยู่ ก็ลองสอยๆ ตามบีได้ เพราะแต่ละตัวก็ราคาไม่แพงเลย ( แต่ใช้งานได้ดีย์!! )