ความใกล้ชิดกัน บางครั้งก็ทำให้คนเราหวั่นไหว ใจบาง อยากเขยิบความสัมพันธ์มาเป็นมากกว่าเพื่อนบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่โชคดีเสมอไป เพราะผลกระทบหลังเปลี่ยนความสัมพันธ์มีเยอะมาก เพราะบางคน เป็นเพื่อนที่ดี แต่ไม่ใช่แฟนที่ดีเลยสักนิด ถ้าอยากรู้ว่าการเอาเพื่อนมาเป็นแฟน จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง ลองอ่านบทความนี้กันดู !
#1 ผลกระทบต่อการงาน

บางบริษัทออกกฎว่า ห้ามพนักงานมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวในที่ทำงาน บางแห่งก็ถึงกับขนาดว่า หากแต่งงานแล้วต้องให้คนใดคนหนึ่งลาออก เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัท ป้องกันการถ่ายเทยักยอกทรัพย์สิน ฟังดูอาจจะโหด แต่โลกของธุรกิจคือโลกของการแข่งขันและการรักษาผลประโยชน์ให้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องมีกฎแบบนี้ นั่นจึงเป็นเหตุให้คนที่แอบชอบเพื่อนในที่ทำงานต้องเก็บไว้ใน friendzone อย่าได้หลุดมาเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน บางบริษัทที่ไม่เคร่งมาก หากเราปิ๊งเพื่อนร่วมงานขึ้นมา ต้องคิดให้ดีว่า เราสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานไปพร้อม ๆ กับการมีความรักหรือไม่? สมมติทะเลาะกัน จะรับมืออย่างไร? หากสำรวจตัวเองแล้วคิดว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะรับมือกับหลายเรื่องได้ ก็ควรเป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่ยังเห็นกันต่อไปได้นาน ๆ นั่นแหละดีแล้ว
#2 ใครคนใดคนหนึ่งมีแฟนอยู่แล้ว/ต่างคนต่างมีแฟนอยู่แล้ว

เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะข้ามเฟรนด์โซนมากิ๊กกัน เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติคนที่คบกันอยู่ หยอกอะไรกันในที่ทำงาน เกรงใจคนที่คบอยู่บ้างก็ดีนะคะ ถ้าคิดว่าคนใหม่โอเคกว่าคนเดิม ก็ทำอะไรให้ถูกขั้นตอน อย่าคบซ้อน มันดูไม่ดีต่อทุกฝ่าย
#3 คนที่เราแอบชอบ ก็มีคนที่แอบชอบมาก ๆ อยู่ในใจอยู่แล้ว

การแอบรักเพื่อน แล้วปล่อยให้เพื่อนทำตามหัวใจ ไปจีบคนอื่น ช่วยสานฝันให้เพื่อน เป็นความใจกว้างที่อาจจะดูเจ็บ ๆ แต่ก็ไม่ทำร้ายความรู้สึกเพื่อน และเราก็ยังอยู่กับเพื่อนไปได้นานเท่านานที่ใจต้องการ
แต่ถ้าคิดว่า ไม่อยากให้ค้างคาใจ การสารภาพความในใจออกไปก่อนที่มีใครแย่งเพื่อนเราไป มันก็ดีที่ทำให้เราโล่งใจ ไม่ต้องเก็บความลับไว้อีก แต่ก็อาจจะเสียเพื่อน ในกรณีที่เพื่อนไม่คิดอะไรกับเราก็ได้ หรือถ้ายังโชคดีหน่อย ก็ยังคุยกันได้ต่อไป ทั้ง ๆ ที่ทำตัวไม่ถูก
คิดจะเลือกทางไหน ทบทวนให้ดีค่ะ โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ถ้ารับความเสี่ยงไม่ได้ ก็อยู่ใน friendzone กันต่อไป เดี๋ยวเวลาจะพิสูจน์เองว่าเราเหมาะกับคนไหน เขาเหมาะกับคนไหน
#4 เขาไม่มีรสนิยมเดียวกับเราเลย

ความรักแบบ ' เพศเดียวกัน ' บางทีก็ยากตรงที่เรารู้ว่าเขาก็เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย ยังชอบผู้ชาย ไม่เคยมีประวัติชอบผู้หญิงมาก่อน ก่อนจะสารภาพรักออกไป ดูท่าทีให้ดี คิดให้ดีว่าเรากล้าพอหรือไม่ ยิ่งสนิทมาก ๆ ยิ่งต้องคิดให้ดีก่อนพูด เพราะหากพูดไปแล้ว อาจจะรู้สึกทำตัวไม่ถูก มองเราเปลี่ยนไป ทำตัวแปลก ๆ กว่าเดิมยิ่งกว่าเพื่อนกันแบบชายหญิงซะอีก
#5 ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมาะ หากจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ แทบทุกวัน

ถึงจะดีกับเรามาก อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับการเป็นคู่รักหรือคู่ชีวิตเสมอไป ลองนึกภาพ หากเราเลือกเพื่อนสนิทมาเป็นแฟน แล้วต้องอยู่ด้วยกันเกือบ 24 ชั่วโมง มีข้อเสียอะไรบ้างที่เรารับไม่ได้? ข้อเสียอะไรบ้างที่ยังไงเพื่อนรักเราคนนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนตัวเองได้? ข้อเสียอะไรบ้างที่เราอาจทำให้เพื่อนเราหงุดหงิด ระเบิดอารมณ์ได้?ถ้ารวม ๆ แล้วข้อเสียที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างอึดอัดกันได้เมื่อมาอยู่ด้วยกัน ก็ควรแล้วที่จะเป็นเพื่อนกันไปแบบนี้ เพราะอย่างน้อย ก็ไม่ได้ตัวติดกัน 24 ชั่วโมง มีอะไรไม่พอใจยังพอหลบ ๆ มีระยะห่างที่ไม่อึดอัดมาก
เป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้ว! อย่าคิดมากค่ะ ถ้าเราจะอยู่ใน friendzone กันต่อไป คิดซะว่าเราซื้อความสบายใจของทุกฝั่ง และความสัมพันธ์อันดีในระยะยาว คู่ของเราจะเป็นคนไหน เดี๋ยวเวลาผ่านไป โชคชะตาก็จะนำพาเราไปเจอคำตอบนั้นเองค่ะ ^^