สวัสดีค่า วันนี้ขอมารีวิวเมคอัพกันบ้างค่ะ เนื่องจากได้ลองเมคอัพฝั่งยุโรปแบรนด์นึงแล้วอยากมาเมาท์มอยไม่ไหวละ เพราะใช้ดีเกินคาด นั่นก็คือ KIKO Milano แบรนด์เมคอัพอันดับ 1 จาก Italy

ซึ่งเมคอัพแบรนด์นี้ด้วยความที่เค้ามาจากอิตาลี เมคอัพไอเทมของเค้าเลยได้ Inspire มาจากวงการแฟชั่น เหมือนที่เราเห็นแฟชั่นและการเล่นสีสันต่างๆ ของแฟชั่นมิลาน เบนซ์เห็น Beauty Bloggers รีวิวแบรนด์นี้ในยูทูปค่ะ ตอนที่ดูคือเออน่าลองนะ วันนี้เลยจะมารีวิวกันค่ะ
ขอเริ่มที่พื้นฐานงานผิวกันก่อน นั่นก็คือรองพื้น Instamoisture Foundation เบอร์ 1.4 N



รองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ให้ฟินิชลุคแบบ Soft Matte ระดับการปกปิดปานกลางมี SPF 25 เนื้อเหลวกึ่งน้ำ เกลี่ยง่ายมากกก หัวปั๊มกดง่าย ควบคุมปริมาณการกดได้ดี ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ รอยแดงรอยดำจากสิวปกปิดได้ระดับนึง แต่รอยที่ชัดมากยังต้องใช้คอนซีลเลอร์ปิดทับอีกที ดยรวมคือดีย์ เนื้อบางเบา สีกลืนไปกับผิว ( ส่วนตัวชอบใช้นิ้วทารองพื้นค่ะ ) แล้วคือหลังทาผิวไม่ดูฉ่ำจนเกินไป เหมาะกับช่วงนี้ที่หน้าร้อน ระหว่างวันเท่าที่สังเกตุคือสีไม่ค่อยดรอปเท่าไหร่นะคะ ( มีลงเบสและแป้งฝุ่นทับไปด้วย )
ตามมาด้วยแป้งผสมรองพื้น Weightless Perfection Wet and Dry Powder Foundation SPF 30 เบอร์ WR50


แป้งอัดแข็งผสมรองพื้นที่ช่วยปรับสีผิวให้เนียนและสม่ำเสมอ เนื้อแป้งบางเบา ชอบแพ็กเกจนะ สีเงินดูสวยทันสมัย เนื้อแป้งบางเบาและละเอียดอยู่นะ ถ้าใช้กับผิวที่ไม่ทารองพื้นจะได้งานผิวเนียนธรรมขาติแบบไม่ปกปิด ทาเหมือนไม่ได้ทา แต่ถ้าใช้คู่กับรองพื้นช่วยเพิ่มความกริบงานผิวได้ล่ะ ส่วนตัวใช้ตอนผิวไม่ลงรองพื้นบ่อยที่สุด ชอบงานผิวธรรมชาติค่ะ ใช้เติมระหว่างวันได้ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้นะคะ พัฟที่ให้มานุ่มมาก มีกระจกในตัว และฝาเปิดปิดเป็นแม่เหล็ก ปิดแน่นอยู่นะ
มางานรวมลิปสติกกันบ้างค่ะ ต้อนรับความฉ่ำวาวด้วยลิปกลอส 3D Hydra Lipgloss สี 11 Golden Red

ลิปกลอสจิ้มจุ่มมีประกายชิมเมอร์ช่วยเพิ่มความแวววาวให้กับริมฝีปาก ที่ชอบคือความชุ่มชื้นที่ได้จากลิปกลอส วันไหนรีบขี้เกียจลงลิปบาล์มจะใช้ลิปกลอสตัวนี้ทาเลยค่ะ สีดีแล้วยังมีประกายชิมเมอร์วิ้งค์ๆด้วยอะ เนื้อกลอสไม่เหนอะหนะ ค่อนข้างติดทนอยู่บ้างค่ะ พอทาแล้วริมฝีปากดูอิ่มขึ้นมา ชอบสีชมพูแบบนี้มาก สีสวยละมุน ดูหวานขึ้นมาเลย
มาลิปกลอสอีกตัวกัน Unlimited Double Touch สี 104 Sangria

เป็นลิปกลอส 2 ด้าน ด้านแรกสีเบสอีกด้านนึงคือกลอส เม็ดสีชัดอยู่นะ ทาง่าย เนื้อสัมผัสคล้ายทิ้นส์ ไม่ต้องรอนานก็ทากลอสทับได้ จะบอกว่าใครที่กำลังมองหาลิปติดทนนานอยู่ล่ะก็ ตัวนี้ต้องมีอย่างแรง ที่สุดของการติดทน สีเบสติดทนแล้ว พอลงกลอสตอนแรกคิดว่ากลอสจะหลุดไปก่อน แต่ไม่เลยกลอสเนี่ยช่วยปิดทับอีกที สีทนแล้วยังไม่พอกลอสก็ทนไปอี๊ก!!!!!!!! แนะนำให้ใช้คู่กัน เม็ดสีชัด พอทากลอสช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก ไม่เหนียว ช่วยทำให้ริมฝีปากฉ่ำสวย หัวแปรงทาง่ายทั้งคู่
Gossamer Emotion Creamy Lipstick สี 115 Geranium

ลิปสติกเนื้อครีมมี่ สีแดงชัดมากแม่ ทารอบเดียวรู้เรื่อง เม็ดสีคือที่สุดจริงๆ แล้วแดงสวยมาก แวววาว ไม่ได้ทำให้ดูแก่ด้วยอ่ะ เนื้อลิปแบบครีมให้ความชุ่มชื้นดีค่ะ วันไหนอยากได้ลุคจัดเต็มตัวนี้เอาอยู่ ทาแบบอมเบรได้เหมือนกัน ขับผิวให้ดูสว่างขึ้นด้วยโดยที่ไม่ต้องทำอะไร ฮ่าๆๆๆ ตัวปลอกจะมีปุ่มกด กดแล้วลิปจะออกมา
Smart Fusion Lipstick สี 405 Vintage Rose

ลิปสติกเนื้อครีมแวววาวเล็กน้อย ลิปสติกตัวนี้จะเด่นในเรื่องการบำรุงให้ริมฝีปากชุ่มชื้นยาวนาน สีจะออกส้มนู้ดๆค่ะ ลิปทาง่าย ให้ความขุ่มชื้นเต็มที่มาก สีก็ค่อนข้างชัดแต่ถ้าเทียบกับ Gossamer แล้วตัวนี้จะชัดน้อยกว่าค่ะ ไว้ทาเวลาอยากได้งานเมคอัพสบายๆ เบาๆ หรือ Every Day Look ค่ะ
มาลิปแมตต์กันบ้าง Velvet Passion Matte Lipstick สี 339

เป็นลิปสติกเนื้อครีมแต่ให้ฟินิชลุคแบบ Soft Matte เป็นแมตต์ที่ไม่แห้งผาก คือยังให้ความชุ่มชื้นอยู่ค่ะ เม็ดสีชัดนะ สีแดงตุ่นๆ ออกแดงเข้มสวยงาม ทารอบเดียวจบ สีนี้ทาอมเบรดีมากกกกก ค่อนข้างติดทนเลย ปลอกเป็นแม่เหล็ก ไม่มีปลอกหลุดระหว่างพก แพคเกจจิ้งสวยงาม และพกพาง่าย
Powder Power Lipstick สี 02 Indian Red

ลิปแมตต์เหมือนกับ Velvet Passion Matte แต่ตัวนี้จะเนื้อเบาสบายกว่า เนื้อจะออกแมตต์แบบแป้งแต่ยังได้ความชุ่มชื้นอยู่ สีลิปชัด จะมีเทคนิคการทาค่ะ ทารอบแรกจะได้ฟีลสีเบาๆสบายๆ ทาทับรอบสองจะได้สีชัดขึ้นมาอีก สีออกชมพูตุ่นๆ ออกไปทางเกือบนู้ด สีลิปสติกกลืนไปกับสีริมฝีปาก ได้งานริมฝีปากธรรมชาติสวยดีค่ะ
สรุป
เมคอัพ KIKO ทั้งรองพื้น แป้งอัดแข็ง และลิปสติก ถือว่าใข้ดีนะ คุณภาพดีเกินราคา ใช้ดีหลายตัวเลยค่ะ ส่วนตัวชอบลิปกลอสนะ เพราะสีสวย ทาง่าย และให้ความชุ่มชื้นประกายแวววาว แอบอยากให้มาเปิดเคาน์เตอร์ที่ไทย สาวๆ จะได้ลองเล่นเมคอัพแบรนด์นี้กันค่ะ