เคยไหมคะชาวซิสเจอแบบนี้ทีไรเป็นเซ็งทุกที แถมเสียดายเงินด้วยเพราะรองพื้นบางตัวก็ราคาแพ้งแพง แถมเฉดสีก็อาจจะขายต่อยากอีก ที่เราเลือกสีรองพื้นไม่เป๊ะหรือสีดรอปหนักมากก็ไม่ได้เป็นความผิดน้าแค่เรายังไม่รู้เท่านั้นเอง บทความนี้เราก็เลยจะเองค่าฟังขนาดนี้แล้วก็อยากรู้แล้วละซี่~ ว่ามันมีเทคนิคดี ๆ ยังไง งั้นมาส่อง 7 ทริคเด็ดซื้อรองพื้นยังไงให้เฉดสีตรงกับผิว ไม่ดรอปไม่พัง มีแต่ความเป๊ะปังอลังเวอร์กันเลยจ้า > 3 <
✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦
• 7 ทริคเด็ดเลือกซื้อ “รองพื้น” ยังไงให้เฉด “พอดีผิว” มีแต่ความเป๊ะไม่มีโป๊ะ •
➀ เลี่ยงการแต่งหน้าในวันที่เลือกซื้อ
อันดับแรกไม่ได้เป็นข้อห้ามหรือบอกว่าห้ามทำนะคะ แต่ว่าถ้าเลี่ยงได้อยากจะให้เลี่ยง ก็คือการแต่งหน้าไปในวันที่เลือกซื้อนั่นเองค่ะถ้าใครซื้อรองพื้นเคาน์เตอร์แบรนด์ดัง ๆ เช่นBobbi Brown, Dior, Laneige ฯลฯก็อาจจะไม่มีปัญหานะคะเพราะ BA เขาสามารถลบและลงบนผิวเราให้ได้เลย บางที่สามารถแต่งให้ทั้งหน้าก็ยังได้ แต่ถ้าเป็นพวกแบรนด์ทั่วไปในร้านค้าจะค่อนข้างยากนิดนึงเพราะไม่มีบริการตรงนี้ ยังไงก็พยายามเลี่ยงแต่งหน้าหรือพกพวกแผ่นเช็ดที่ผสมคลีนซิ่งมาด้วยเพื่อเช็ดบริเวณที่จะสวอชหรือปาดบนหน้าด้วยเน้อ ที่แนะนำแบบนี้เพราะว่าถ้าเราแต่งหน้าไปแล้วมันจะทำให้หน้าของเราสีไม่ตรงกับผิวจริง เวลาเลือกรองพื้นสีที่ได้ก็จะไม่ใกล้เคียงกับผิวสุดท้ายก็ต้องไปซื้อใหม่อยู่ดี ดังนั้นเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเน้อ
➁ รู้อันเดอร์โทนของตัวเอง
ต่อมาคือการรู้อันเดอร์โทนตัวเองเลยค่า อันเดอร์โทนก็คือโทนผิวของเรามันออกไปทางเฉดสีไหน โดยทั่วไปจะแบ่งได้ 3 เฉด คืออันเดอร์โทนเหลือง ( Warm Tone )ผิวจะอมเหลือง,อันเดอร์โทนธรรมชาติ ( Neutral Tone )สีผิวจะไม่ได้เหลืองมากและไม่ได้อมชมพูมาก อยู่ในโทนกลาง ๆและอันเดอร์โทนชมพู ( Cool Tone )สีผิวอมชมพูนั่นเอง โดยเราจะสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ก็คือเช็คเส้นเลือดที่ข้อมือ ถ้าใครมีเส้นเลือดออกโทนเขียวหรือเขียวเข้ม ๆ ก็แสดงว่าอันเดอร์โทนเหลืองส่วนใครเส้นเลือดสีน้ำเงิน ๆ เขียว ๆ ก็แสดงว่าอันเดอร์โทนธรรมชาติและถ้าใครมีเส้นเลือดสีน้ำเงิน ม่วง ๆ ก็แสดงว่าผิวอันเดอร์โทนชมพูแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมเช็คว่าบนหน้าเรามีเส้นเลือดไหมด้วยน้า ถ้ามีก็ลองสังเกตว่าเป็นโทนอะไรแล้วหลังจากนั้นก็ไปที่ข้อต่อไปกัน!
➂ รู้ความเข้มและสว่างของสีผิวตัวเอง
ความเข้มหรือสว่างของผิวดูเหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายนะเออ มีหลายคนมาก ๆที่รู้สึกว่าสีผิวเราไม่ได้สว่างขนาดนั้นหรอก ไม่ได้เข้มขนาดนั้นหรอกและส่วนใหญ่ที่คิดแบบนั้นก็มีผลมาจากการดูภาพในโฆษณาของแบรนด์แล้วดันเทียบกับผิวเราจริง ๆคือมันก็พอจะดูเป็นแนวทางได้น้าแต่อยากให้ทุกคนรู้ว่าสีจอมือถือ สีจอไอแพด สีจอคอมมันไม่ตรงกันทั้งหมดเลยมีโอกาสที่สีจะเพี้ยนกับความจริง เช่น เราเป็นคนผิวค่อนข้างขาว แต่บางแบรนด์ถ่ายเฉดสีแรก ๆ สว่างมาก เราก็เลยดูเทียบกับผิวจริงว่าเอ๊ะเราไม่น่าจะขาวขนาดนั้นนะ เลยไปลองเฉดที่เข้ม ๆ ถ้าซื้อหน้าร้านยังพอจะเปลี่ยนทันแต่ถ้าซื้อออนไลน์โอกาสซื้อแล้วใช้ไม่ได้สูงมาก ดังนั้นต้องรู้น้าว่าเราผิวสว่างหรือเข้มถ้าสว่างก็มองเฉดเลขต้น ๆ แบบ 1 2 3 แต่ถ้าผิวเข้มหน่อยก็ไปทางเฉดกลาง ๆ หรือท้าย ๆ เลย แล้วก็อย่าลืมเช็คอันเดอร์โทนด้วยเน้อ
➃ เลือกเฉดสีที่ใกล้เคียงกับเฉดผิวมา 3 เฉด
ได้อันเดอร์โทน ได้รู้ความสว่างหรือเข้มของผิวกันไปแล้ว ลองดูค่ะว่าสีรองพื้นในขวดสีไหนที่ใกล้กับผิวเรามากที่สุดเช่น รองพื้นมีเบอร์ 1-6 สีที่ดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกับผิวเรามากที่สุดคือเบอร์ 2 ก็เอาเบอร์ใกล้ ๆ อย่างเบอร์ 1 และเบอร์ 3 มาสวอชพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ที่ให้สวอชพร้อมกัน 3 สีก็เพราะว่าเผื่อสีในขวดที่มันดูใกล้เคียงผิวเราที่สุดมันดรอปจนเข้มเกินไปเราก็จะได้เลี่ยงมาซื้อสีที่สว่างกว่าแทน แต่รองพื้นไม่ได้สีดรอปเสมอไปน้าบางครั้งอาจจะเพราะสภาพอากาศต่าง ๆ ด้วยเหมือนกัน แต่ถ้ามันดรอปแนะนำว่าเปลี่ยนแบรนด์หรือเปลี่ยนรุ่นอาจจะสะดวกกว่าค่า
➄ ปาดรองพื้นบริเวณกรอบหน้า
ขั้นตอนต่อมาสำคัญมาก ๆ เลยค่ะ นั่นก็คือการใช้รองพื้นปาดบริเวณกรอบหน้าถ้าใส่แมสก์จะปาดบริเวณหน้าผากก็ได้ ( ในกรณีที่สีหน้าผากกับผิวหน้าตรงกัน )แต่ถ้าชัวร์ที่สุดแนะนำว่าให้ปาดตรงสันกรามค่ะ ปาดลากยาวลงมาที่คอเลย เวลาปาดให้เอาเนื้อรองพื้นมาปาดแบบแน่น ๆ เลยนะคะมันจะเห็นชัดที่สุด หลังจากนั้นก็ดูว่าสีไหนแมทช์กับทั้งหน้าและคอที่สุดก็เลือกสีนั้นเลยค่ะกรณีที่คอเข้มกว่าหน้าแนะนำว่าให้ยึดหน้าไว้ก่อนน้าแต่ก็อย่าลืมเช็คผิวกายด้วยเน้อถ้าผิวกายเราเข้มกว่าหน้าก็แนะนำว่าให้เลือกรองพื้นแมทช์กับสีผิวกายเพราจะทำให้ทุกอย่างดูกลมกลืนกันมากขึ้นแต่ก็ขึ้นอยู่กับทุกคนด้วยน้าว่าชอบแบบไหนถ้าอยากให้ผิวหน้าผิวหน้ากับคอแมทช์กันก็พอก็เลือกตามเฉดผิวหน้าและคอได้เล้ย!
➅ เช็คด้วยแสงธรรมชาติด้วย
หลายครั้งที่ทุกคนหลงลืมไปเลยว่าแสงในร้านค้าหรือในห้างมันจะไม่ได้เป็นสีขาวหรือถ้าเป็นสีขาวก็สว่างมากไปถ้าอยากให้รองพื้นสีเป๊ะจริง ๆ ได้คุณภาพจริง ๆแนะนำว่าให้เช็คที่แสงธรรมชาติเลยค่ะ ก็คือปาดเสร็จปุ๊บเดินออกไปหาแสงธรรมชาติแล้วดูเลย ถ้าลองกับเคาน์เตอร์แบรนด์ก็บอก BA ไว้ได้นะคะว่าขอไปเดินเล่นสักพักก่อนเดี๋ยวมาซื้อ พนักงานส่วนใหญ่จะเข้าใจค่ะ อ้อ!ทางที่ดีพกกระจกเล็ก ๆ ไปดูจะเห็นสีรองพื้นชัดสุดน้าดูจากกล้องหน้ามือถืออาจจะไม่เป๊ะเท่าไหร่ วิธีเช็คสีรองพื้นที่ดีที่สุดคือสีไหนกลืนไปกับผิวหรือแทบจะเป็นสีเดียวกับผิวก็คือสีนั้นเลยค่ะแต่ถ้าเช็คสีแล้วว่าอันไหนเป๊ะสุดก็อย่าเพิ่งซื้อเน้อ ให้ไปต่อที่ขั้นตอนสุดท้ายเล้ยยย
➆ ได้สีที่ต้องการแล้วลองเกลี่ยบนใบหน้า
ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่าให้ลองเอารองพื้นสีที่ใกล้เคียงผิวเรามากที่สุดมาลงสักที่บนหน้าจะหน้าผาก หน้าแก้มหรือสันกรามที่เดิมก็ได้ เกลี่ยให้เข้ากับผิวของเราหลังจากนั้นไปเดินเล่นสักพักประมาณ 30 – 60 นาทีก็ได้ค่ะ แล้วให้เช็คสีรองพื้นอีกครั้งนึงด้วยแสงธรรมชาติ ถ้าสีรองพื้นดรอปก็ให้ซื้อสีเบอร์ที่สว่างกว่า 1 เฉดแต่ถ้ารองพื้นกลืนกับผิวได้ดีก็ซื้อโลดค่า ส่วนถ้าใครไปซื้อที่เคาน์เตอร์แบรนด์ดังก็ให้เขาลงทั้งหน้าหรือลงครึ่งหน้าให้ได้เลยเน้อหลังจากนั้นก็ทดสอบตามขั้นตอนทั้งหมด แค่นี้ก็จะได้รองพื้นที่ตรงใจ ใช่กับผิวเราแล้วละค่า!
เป๊ะตรงใจ ♥ ด้วย 7 ทริคเลือก " รองพื้น " ยังไงให้ใช่ในแบบเรา แถมยังใช้ได้อย่างคุ้มค่า
https://sistacafe.com/summaries/91346
✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦ ✦
ครบทั้ง 7 วิธีแล้วค่า ไม่ยากเลยใช่ม้า? แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยน้าอยากให้ทุกคนใจเย็น ๆ เพราะการเลือกรองพื้นเราไม่สามารถที่จะรีบได้เลยถ้ายังไม่ได้เฉดที่ตรงกับผิวหรือเฉดที่ต้องการหรือถ้าเรารีบซื้อไปสุดท้ายใช้แล้วไม่ชอบ ไม่เข้ากับผิวก็ต้องขายต่อให้/ยกให้คนอื่นอยู่ดี ของแบบนี้พิถีพิถันหน่อยก็จะคุ้มค่าแถมยังแฮปปี้ด้วยเน้อ และถ้าใครได้เฉดที่ตรงใจแล้วแต่อยากได้รองพื้นในร้านค้าออนไลน์ทำยังไงได้บ้าง แนะนำว่าให้เสิร์ชในเว็บไซต์Findationเลยค่ะ ( วิธีนี้เราได้มาจากเจ๊อ้อช่องกดที่ชื่อแล้วไปติดตามเจ๊กันได้น้า )กรอกสีรองพื้น คุชชัน คอนซีลเลอร์หรืองานผิวที่ใช้ลงไป มันจะขึ้นแบรนด์รองพื้นและงานผิวต่าง ๆ ที่เฉดสีตรงหรือใกล้เคียงกันมาให้แต่มีข้อจำกัดคือรองพื้นจะเป็นแบรนด์ดังกับแบรนด์ Drug Store หรือแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่นนิดหน่อยนะคะ แบรนด์ไทยยังไม่มี แต่ก็ถือว่าช่วยเลือกสีรองพื้นได้ประมาณนึงเลย