สวัสดีค่ะสาวๆ ซิสต้าทุกคน ^0^คงปฏิเสธไม่ได้ว่า' เส้นผม 'เป็นส่วนที่ผู้หญิงคนไหนก็รัก ก็หวงเพราะผมยาวนำมาทำเป็นทรงผมสวยๆ ได้มากมาย ช่วยเสริมบุคลิกให้สาวๆ ดูดี น่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวขึ้นเป็นกองเพราะอย่างนั้นถึงต้องหาผลิตภัณฑ์ชำระล้างและบำรุง อย่างแชมพู ครีมนวดผม เซรั่ม ทำทรีตเมนต์ที่ร้านต่างๆ ให้ผมเรียบ นุ่มลื่นเปล่งประกายที่สุดยังไงล่ะแต่เดี๋ยวก่อน หมดเงินไปก็เยอะ ทำไมเส้นผมยังแห้งเสีย แตกปลายชี้ฟูรัวๆ จนอยากใส่วิกให้รู้แล้วรู้รอดTTความจริงก็คือ เธอทำข้อผิดพลาดบางอย่างเป็นประจำ แต่มองข้ามไปเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ พอรู้ว่า ' ผิด ' เท่านั้นแหละ มีร้องอ๋อแน่นอน เส้นผมบังภูเขาไปอีกแค่เลิกทำสิ่งเหล่านี้ซะ งานผมสวยสุขภาพดีก็จะมา!!! แน่นอนไปอ่านกันได้เลย ~
1. ไม่หวีผมก่อนสระ
เส้นผมจะอ่อนแอที่สุด ก็ตอนหลังสระผมเสร็จใหม่ๆ นี่แหละ! เพราะเส้นผมเปียกหมาดๆ จะเปิดเกล็ดผมโดยอัตโนมัติ ทำให้แห้งเสีย พันกันเป็นสังกะตังได้ง่าย
เพื่อป้องกันไม่ให้ผมพันกันระหว่างสระผม หวีผมให้เรียบร้อยก่อน! หรือจะหวีระหว่างสระผมก็ได้ หลังใช้แชมพูแล้ว ลงครีมนวดผมตามลงไป สางผมคร่าวๆ ด้วยนิ้วมือก่อน แล้วใช้หวีซี่กว้างหวีให้เรียบก่อนล้างน้ำจนสะอาดค่ะ
2. แปรงผมแค่ ' ส่วนปลายผม ' เท่านั้น
เธออาจเคยได้ยินคำว่า ' แปรงผมมากไป เดี๋ยวผมก็แตกปลายหรอก! ' แต่การหวีผมให้ทั่วทั้งศีรษะเป็นประจำช่วยทำให้น้ำมันบนหนังศีรษะออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผม เป็นครีมนวดผมตามธรรมชาติโดยไม่ต้องไปทำทรีทเมนต์ที่ร้านเพิ่มแต่อย่างใด
นวดหนังศีรษะด้วยแปรงไม้ ( wooden-bristle brush ) เพื่อให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยเร่งให้ผมยาวเร็วขึ้น โดยแปรงจากบนลงล่าง ทำให้เส้นผมมันเงาอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
3. สระผมทุกวัน / วันละหลายๆ ครั้ง
ทำตัวเป็น ' นางสาวรักสะอาด ' มากเกินไปใช่ว่าจะดี! เส้นผมของคนส่วนใหญ่ต้องการการทำความสะอาดก็จริง แต่สระทุกวันก็ไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ
ข้อเสียของการสระผมอย่างเอาเป็นเอาตายคือ สารเคมีจากแชมพูจะกำจัดน้ำมันหล่อเลี้ยงหนังศีรษะออกไปจนหมด ทำให้ผมของเธอแห้งกรอบ ไม่มันเงาและไม่มีชีวิตชีวา แต่ถ้าเธอทนคันศีรษะไม่ได้จริงๆ ( และไม่ได้ใช้น้ำยา / เจลแต่งผม ) จะสระทุกวันก็ได้ แต่ควรใช้แชมพูอ่อนๆ และใช้ครีมนวดผมบำรุงตบท้ายทุกครั้งค่ะ
4. ใช้ครีมนวดผมผิดวิธี
เรามักเชื่อต่อๆ กันมาว่า ให้ใช้ครีมนวดผมที่ส่วน ' ปลายผม ' เท่านั้น เพื่อไม่ให้ปอยผมลีบแบน แต่ที่จริงเราควรใช้ที่ส่วน 'รากผม' ด้วย เพราะเส้นผมส่วนรากก็มีความเสี่ยงจะแตกปลายได้เช่นกันค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชโลมครีมนวดผมรัวๆ จนมันย่องทั้งศีรษะก็ไม่โอเค! ใช้ปริมาณพอดีๆ ที่ไม่ทำให้ผมแห้งพันกันก็พอ ถ้าอยากบำรุงแบบหมักเข้มข้น ทำเพียงสัปดาห์ละครั้ง ไม่ว่าเธอจะมีสภาพเส้นผมแบบไหน ล้างผมให้สะอาดแล้วใช้แชมพูขจัดสารเคมี สิ่งสกปรกจากเส้นผม ( clarifying shampoo ) ครั้งเว้นครั้งเพื่อไม่ให้เส้นผมเหลือสิ่งตกค้างไว้ค่ะ
5. ใช้ผ้าเช็ดผมแรงเกินไป
แม้เราจะคุ้นชินกับการต้อง ' เช็ดผมให้แห้งทันทีหลังสระผม ' เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเปียกชื้นจนเป็นหวัด แต่การใช้ผ้าถูแรงๆ จนเส้นผมหลุดออกมาเป็นกำๆ ก็ดูจะเป็นการทารุณผมจนเกินไปหน่อยนะ!
เช็ดผมแรงเกินไปคือการทำร้ายเกล็ดผม ทำให้ผมกระเซิง พันกัน ฟูเป็นฝอยๆ และแตกปลาย ควรห่อผมในผ้าเช็ดตัวแล้วซับเบาๆ จนแห้ง สางผมด้วยนิ้วเบาๆ อาจแห้งช้าหน่อยแต่เป็นการบำรุงสุขภาพผมในระยะยาวนะคะ ^0^
6. ไม่ใช้ ' ผลิตภัณฑ์ป้องกันเส้นผมจากความร้อน ' ( เช่น ไดร์เป่าผม )
เราต่างก็รู้ดีว่า ' ความร้อน ' โดยเฉพาะจากสารเคมี เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เส้นผมเสียหายมากที่สุด แต่ถ้าเธอไม่สามารถเลี่ยงการไดร์ผม ม้วนผมลอน ยืดผมได้จริงๆ จงใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเส้นผมจากความร้อนทุกครั้ง เช่น สเปรย์หรือเซรั่ม เพื่อปิดเกล็ดผมไม่ให้แห้งเสียค่ะ
ก่อนใช้ไดร์เป่าผม ปล่อยให้เส้นผมแห้งตามธรรมชาติจนผมเริ่มเปียกหมาดๆ ( ใช้นิ้วสะบัดผมเพื่อให้ผมแห้งไวขึ้น ) และใช้ความร้อนของไดร์เป็นระดับ ' อุ่น ' แทนเพื่อไม่ให้ผมแห้งเสียมากจนเกินไป
7. ใช้ความร้อนสูงๆ จ่อที่ผมเปียกหมาด
ผมเปียกกับเครื่องมือหนีบผมร้อนๆ อย่าใช้ร่วมกันเด็ดขาด ผมพังแน่นอน! เครื่องม้วนผม / ยืดผมที่ใช้ความร้อนจะทำลายเซลล์รากผมของเส้นผมที่เปียกหมาดๆ ทำให้ผมอ่อนแอและฟูฟ่องเป็นฝอยขัดหม้อในที่สุด =_=
แม้จะอยู่ในช่วงเวลาเร่งรีบแค่ไหน เธอก็ควรรอให้เส้นผมแห้งสนิทก่อนม้วนผม / ยืดผม หรือนำเส้นผมไปทำความร้อนใดๆ ไม่งั้นผมแห้งชี้ฟูไม่รู้ด้วยนะ
8. ฉีดสเปรย์ที่เส้นผม ' ก่อน ' จัดแต่งทรงผม
เคยไหม... เวลาจะม้วนผมหรือยืดผม ( ที่ฉีดสเปรย์มาเรียบร้อยแล้ว ) จะได้ยินเสียงฉ่าๆ เหมือนเส้นผมจะไหม้ รู้ไหมว่าการฉีดสเปรย์ก่อนทำผม เป็นการทำร้ายผมที่ผิดมาก!
นั่นเพราะแอลกอฮอล์ในสเปรย์ฉีดผมทำปฏิกิริยากับความร้อนจากเครื่องม้วนผม ทำให้เส้นผมแห้งเสีย เป็นฝอยรัวๆ ต้องใช้ ' หลังทำผมเสร็จแล้ว ' เท่านั้นค่ะ
9. ยีผมให้ฟูบ่อยเกินไป
การ 'ยีผม' เพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้สวยงามมักนิยมทำกันในหมู่ไอดอล เซเลบ ลามมาถึงวัยรุ่นไทย โดยใช้ปลายแหลมๆ ของหวีสางแบบย้อนทิศ ทำให้ผมฟูๆ ดูหนาขึ้น แต่ถ้าทำบ่อยเกินไป ระวังจะไม่เหลือเส้นผมให้ยีนะ ร่วงหมดศีรษะซะก่อน!
การยีผมบ่อยๆ ทำให้เกล็ดผมเสียหาย นำไปสู่ผมแตกปลาย ขาดง่ายในที่สุด ถ้าอยากให้ผมหนาอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้สเปรย์เพิ่มวอลลุ่มแล้วไดร์ด้วยความร้อนระดับเบาก็พอค่ะ
10. ทาเซรั่มที่ปลายผมแตกปลาย / ไม่ยอมตัดปลายผมเสียออก
สำหรับสาวๆ ผมยาวที่หวงผม ไม่อยากตัดปลายผมที่แห้งเสียออก พยายามหาเซรั่ม / ทรีตเมนต์อบไอน้ำ / ครีมนวดผมยี่ห้อแพงๆ มานวดเพื่อหวังว่าจะทำให้ผมกลับมานุ่มสลวยเหมือนเดิม ขอแจ้งข่าวร้ายว่าเสียใจด้วย! เส้นผมเสียแล้วเสียเลย ไม่สามารถกู้คืนได้ ต้องตัดออกอย่างเดียว ไม่มีอะไรช่วยได้ค่ะ!
ทางแก้ผมแตกปลายมีอย่างเดียวคือ ' ป้องกัน ' ไม่ให้ผมเสียตั้งแต่แรก เช่น ไม่สระผมบ่อยเกินไป, เช็ดผมแรงๆ, ใช้เครื่องมือทำผมจากความร้อนผิดวิธี หรือคอยเล็มปลายผมออกเป็นระยะๆ
ถ้าเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องปกปิดปลายผมเสีย ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี่ส่วนผสมของขี้ผึ้งหรือเซรั่มที่มีน้ำมันอาร์แกน ( argan oil ) จะช่วยทำให้ปลายผมดูนุ่มลื่นขึ้นได้ค่ะ
====================
เป็นอย่างไรบ้าง มีข้อไหนที่เธอทำอยู่บ่อยๆ บ้างเอ่ย อย่าบอกนะว่าทุกข้อ -.- ( รู้เลยว่าทำไมผมแห้งเสียไม่เลิกสักที )สาวๆ หลายคนละเลยการหวีผมก่อนสระ สระผมทุกวันเพราะอากาศร้อน ใช้ผ้าเช็ดผมแรงๆ เพราะอยากให้แห้งเร็ว ทำผมแต่ไม่ใช้สเปรย์หรือเซรั่ม ยีผมฟูเพราะอยากมีผมหนาๆ หรือเสียดาย ไม่ตัดปลายผมเสียออก ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ผมไม่สวยนุ่มลื่นอย่างใจค่ะ
แค่หยุดทำพฤติกรรมเหล่านี้แล้วทำตามคำแนะนำของเรา เธอก็มีผมนิ่มสลวยสวยเก๋ สะบัดผมอวดคนรอบข้างได้อย่างมั่นใจได้ไม่ยากแล้วล่ะค่ะ
เพราะเรารู้ดีว่าเสน่ห์ของผู้หญิงส่วนหนึ่งอยู่ที่ ' ผม ' ดังนั้นต้องบำรุงให้ผมสวยๆ อยู่กับเราไปนานๆ นะคะ ><
====================
Cr. The 10 Biggest Hair Care Mistakes [ womenshealthmag ]
http://www.womenshealthmag.com/beauty/hair-care