เข้าสู่หน้าฝน เชื่อว่าหลายๆ คนอยากจะซดน้ำซุปร้อนๆ ให้ร่างกายอบอุ่น แต่ถ้าจะให้อุ่นใจคุณ ซดเราก็ได้นะ ฮี้ว~~~~~ ( เสี่ยวไม่เลือกที่ ) แต่หมวยโสดไง หมวยเลยพาลหมวยเปิดดูคลิปเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นประชดความโสด ซะเลย
ดูไปดูมาก็เกิดความอยากกิน อยากกินปลาดิบบ้าง ราเมนบ้าง ซูชิบ้าง อยากกินไปหมด ( พูดง่ายๆ คือตะกละ ) แต่สิ่งที่อยากกินที่สุดคือจัมปง เพราะนึกถึงตอนไปเที่ยวแถบนางาซากิ ไม่ได้กินนานแล้ว ไม่ได้ไปญี่ปุ่นนานแล้ว และในเมืองไทยมันก็หากินยาก แต่ แต่ แต่.....คติของสาวโสดอย่างหมวยคือ“ เราอยากกินอะไรเราต้องได้กินค่ะ! ”
ดังนั้นหมวยได้ทำการโทรไปถามเพื่อนผู้เชี่ยวชาญเรื่องกินทันที โดยคุณเพื่อนแนะนำที่ Ringer Hut คุณเพื่อนยังการันตีมาอีกว่า “ถ้าชอบรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ร้านนี้ไม่ผิดหวัง แกจะต้องชอบ!”
เห~ ในเมื่อคุณเพื่อนการันตีมาขนาดนี้ มีหรือที่หมวยจะพลาด! พอถึงวันหยุด หมวยเตรียมตัวเพื่อหลอก เอ๊ย! พาผู้ใหญ่ไปกินจัมปงด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสงบสุขของพยาธิในพุงหมวย ( และกระเป๋าตังค์ของหมวย ) และสาขาที่หมวยหลอก เอ๊ย! พาครอบครัวมาก็คือสาขา K-Village นะคะ
บรรยากาศในร้านก็เป็นญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น และเท่าที่หมวยสังเกต ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่น หมวยจึงคิดว่ารสชาติน่าจะเหมือนที่กินที่ญี่ปุ่นแน่ๆ งั้นเรามาเริ่มที่เมนูของร้านเลยดีกว่า
มาที่จานแรก อันนี้ของหมวยเอง ซึ่งนั่นก็คือ“ นางาซากิ จัมปง ” (長崎ちゃんぽん)
ดูสีของน้ำซุปสิคะท่านผู้โช้ม~ ( เสียงสูง ) ความเข้มข้นของน้ำซุปผสมกับความเหนียวนุ่มของเส้นจัมปงที่เด้งสู้ปากของหมวย ตอนแรกหมวยกลัวว่าน้ำซุปจะเข้มข้นจนเลี่ยน ( เพราะสีของซุปมันเข้มจริงๆ ค่ะ ) แต่พอลองซดซักคำ อู้วหูว~ อร่อยค่า~ ไม่ได้เลี่ยนอย่างที่คิด เค็มกำลังดีเข้า ยิ่งกินพร้อมกับเส้นจัมปง ดีงามไปอี๊ก ( เสียงสูงอีกรอบ )
และนอกจากเส้นและซุปแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือความอร่อยของผักที่มากับเนื้อหมูและกุ้งแบบจัดเต็มแบบไม่หวงของ ทำให้การกินของหมวยเพลิดเพลินยื่งนัก
ต่อด้วย“ ชิรูนาชิ จัมปง ” (汁無ちゃんぽん)
เห็นแห้งๆ แบบนี้ แต่พอกินเข้าจริงๆไม่แห้งนะคะ ความอร่อยของจานนี้ต้องยกให้หมูค่ะ เนื้อหมูของ Ringer Hut ไม่มีกลิ่นเหม็น และรสชาติของหมูมีความเผ็ดนิดๆ และความหวานของผัก ยังช่วยชูรสของหมูและเส้นจัมปงให้เด่นขึ้น ที่สำคัญคือทานจานนี้แล้วไม่รู้สึกหิวน้ำเลยค่ะ อร่อย〜
เมื่อมีเส้นก็ต้องมีข้าว และหมวยขอแนะนำ แทแท๊น〜“ ข้าวผัด ” (チャーハン)
ใช่แล้วค่ะ “ ข้าวผัด ” อาจจะสงสัยว่าทำไมหมวยถึงแนะนำข้าวผัด ขอบอกเลยค่ะ ร้านอาหารไหนอร่อยหรือไม่อร่อย หมวยจะตัดสินที่ข้าวผัด เพราะเป็นเมนูง่ายๆ แต่ทำให้อร่อยนั้นยาก ยิ่งถ้าเป็นข้าวผัดที่ต้องมีกลิ่นไหม้นิดๆ ของกระทะยิ่งหายากค่ะ แต่ที่นี่หมวยให้ 3 ผ่าน!
ข้าวผัดของRinger Hut นอกจากจะมีความหอมของกะทะไหม้นิดๆ แล้ว กลิ่นของไข่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย ข้าวก็แห้งกำลังดี ไม่ได้แห้งจนไม่มีความนุ่มของข้าว จานนี้หมวยว่าเด็กๆชอบแน่นอน100%
ตามด้วย“ ข้าวหน้าหมูผัดซอสขิง ” (豚生姜焼き丼)
ชามนี้หมวยชิมไม่ทัน เพราะมัวแต่ถ่ายรูป T_T แต่คุณอาบอกว่าอร่อย เนื้อหมูออกรสเค็ม แต่พอกินกับข้าวแล้วกำลังดี
จบจานหลักก็ต้องมีของทานเล่น มาเริ่มกันที่“ กุ้งชุบแป้งทอดจานเดี่ยว ” (海老かつ単品)
กุ้งที่มาทั้งตัว ชุบเกล็ดขนมปังทอด จิ้มด้วยซอสมะเขือเทศและมายองเนส ไม่อธิบายมากกว่านี้ เพราะยิ่งอธิบายหมวยยิ่งหิว เข้าใจกันเนอะ
ต่อไปคือ“ เกี๊ยวซ่า ” (ぎょうざ)
นี่ก็เป็นอีเมนูที่หมวยประทับใจ เพราะสิ่งที่คุณเห็นคือ เกี๊ยวซ่าที่นำเข้าจากญี่ปุ่น! และที่ไม่เหมือนใครคือก้อนสีเขียวๆ ตรงมุมจาน ไม่ใช่วาซาบิ แต่เป็น“ ยูสุ โคโซ ”อะงงเด้ งงเด้ มันคืออะไรหว่า? มันคือส้มยูซุ ผิวมะกรูด พริกไทยและเกลือ มาคลุกเคล้ารวมกัน
รสชาติที่กินเพียวๆ คือ เค็มและเปรี้ยว มีความหอมของพริกไทยนิดหน่อย (>w<) แต่พอลองกินพร้อมกับเกี๊ยวซ่า กลับลงตัวซะงั้น ตัวเกี๊ยวซ่าก็มีความหอม และแป้งเกี๊ยวนุ่มกำลังดี
ตัดใจจากเกี๊ยวซ่าไปซบ“ เต้าหู้เย็น ” (冷奴)แทนก็ได้ เชอะ~
และเต้าหู้เย็นไม่ทำให้หมวยผิดหวัง เพราะด้วยความที่เป็นเต้าหู้ขาวส่วนใหญ่จะมีกลิ่นของถั่วเหลืองแรงมากๆ หมวยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่พอลองกินของ Ringer Hut กลับไม่พบกลิ่นของถั่วเหลือง ยิ่งราดโชยุลงไป ผสมกับความนุ่มนิ่มของเต้าหู้และตามด้วยปลาแห้งขูดฝอย บอกได้เลยว่า Perfect! (パーフェクト!)
มื้อนี้เสียหายไป 1,xxx บาท ซึ่งหมวยจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ( เพราะหมวยไม่ได้เป็นคนจ่าย สบายพุงและกระเป๋า )
สรุปแล้ว จังปงของ Ringer Hut หมวยให้ผ่านค่ะ! รสชาติไม่ต่างจากที่เคยไปกินจากญี่ปุ่นเลย ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงเทียบเท่ากับร้านราเม็งทั่วๆ ไปในไทย แต่คุณภาพและปริมาณนี่เกินราคาไปเยอะ ที่สำคัญคือ ทุกชามและทุกจานทำสดใหม่และขึ้นเสิร์ฟเร็วดี ทำให้เวลาซดน้ำซุปถึงก้นชามแล้ว ชามยังอุ่นๆ อยู่เลย ดีต่อใจหมวยยิ่งนัก
คราวหน้าไปชิมร้านไหนมาอีก หมวยจะมาเล่าให้ฟังอีกนะ วันนี้ไปก่อนค่ะ บ๊ายบาย