ต้องยอมรับกันว่าในยุคนี้ ที่คนใส่ใจเรื่องรายละเอียดของสินค้าและผลิตภัณฑ์มากขึ้น การตัดสินใจเลือกจึงไม่ใช่แค่ชื่อแบรนด์ สูตร และคุณสมบัติอีกต่อไปซึ่งเห็นได้ชัดว่า ตอนนี้การให้ความสำคัญเรื่องส่วนผสมตัวเด่น หรือActive Ingredientจึงเป็นเทรนด์ และกำลังมาแรงเลยทีเดียว เพราะจากการรู้จักActive Ingredientของผลิตภัณฑ์แต่ละตัว ก็เหมือนได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงภายในของตัวนั้น ๆ ที่สำคัญเลยก็คือ การรู้จักและเข้าใจActive Ingredientแต่ละตัวจะช่วยให้เราเลือกสิ่งที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของเราได้อย่างตรงจุด !
ตัวที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือ“ Glycolic Acid ”ซึ่งเป็นตัวที่กำลังถูกพูดถึงว่าน่าจับตามองสุดในปีหน้า เพราะสารสกัดตัวนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จนพูดได้เลยว่าเป็น" 1 of Secret Use Of Dermatologist "เกาะเทรนด์ derma สุด ทางเราเลยอยากจะมาเล่าให้ฟังกันหน่อยว่าGlycolic Acidคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง ไปทำความรู้จักกันเลยดีกว่าค่ะ
รู้มั้ย ? Active Ingredient คืออะไร ?
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับ“ Glycolic Acid ”ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจความหมายก่อนว่าActive Ingredientคืออะไร?
Active Ingredientก็คือสารตัวหลักที่ใช้เป็นสารออกฤทธิ์ให้เกิดผลลัพธ์ต่าง ๆ ต่อความต้องการนั่นเองค่ะ ซึ่งActive Ingredientหนึ่งตัว ไม่จำเป็นจะต้องมีเพียง 1 สาร สามารถมีมากกว่านั้นก็ได้ เพื่อเป็นตัวชูโรง เพื่อให้ได้ผลตามคำเคลมของผลิตภัณฑ์ โดยสารแต่ละตัวที่นำมาใช้เป็น Active Ingredient ได้นั้นจะต้องมีการวิจัยจากสถาบันผิวหนังและศูนย์วิจัยเครื่องสำอาง ยิ่งตัวไหนที่มีงานวิจัยรองรับมาก เราก็ยิ่งสามารถมั่นใจในการใช้สารนั้น ๆ ได้ค่ะ อย่างปัจจุบัน ก็มีหลายตัวมาก ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ ได้อย่างเช่น
กลุ่มต่อต้านริ้วรอย ยกกระชับ ชะลอวัย ( Anti-Wrinkle )ได้แก่ Vitamin B3 หรือ Niacinamide, Retinol
กลุ่มให้ความชุ่มชื้นให้กับผิวได้แก่ Hyaluronic Acid
กลุ่มช่วยลดเม็ดสีผิว จุดด่างดำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้แก่ AHA รวมถึง Glycolic Acid,
“ Glycolic Acid คืออะไร ”
Glycolic Acidหรือ กรดไกลโคลิค เป็นสารประกอบส่วนหนึ่งที่พบได้ใน กรดอัลฟาไฮดรอกซี หรือAlphahydroxy Acidsที่เรารู้จักกันในชื่อAHAs
คุณสมบัติของ Glycolic Acid
Glycolic Acidซึ่งเป็นสารที่สามารถละลายน้ำได้ ด้วยโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกได้ดี มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิว กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวหนังชั้นบน เสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้เซลล์ผิวชั้นล่าง ลดเลือนริ้วรอย พร้อมกับช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อีกด้วยGlycolic Acidยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือด ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงสามารถช่วยลดรอยสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้า ในด้านผู้เชี่ยวชาญ Glycolic acid ถูกใช้เป็นสารออกในการรักษาและบำรุงในคอร์สชื่อดังหลายตัวเพื่อผลลัพธ์ความต้องการที่แตกต่างกันเช่น-การทำพิลลิ่งเพื่อผิวโกลว์และกระจ่างใสโดย Glycolic Acid สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก และขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขน ลดการอุดตันผิว ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ผิวดูโกลว์และ กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ- การช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว หลังการกดหรือเลเซอร์Glycolic Acid ไม่เพียงแค่ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ลดปัญหาการเกิดฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ และรอยสิวบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในทางคลินิกก็ได้ใช้ AHA ตัวนี้เป็นส่วนประกอบหลักในการรักษา โดยที่คุ้นเคยกันก็คือการ mask AHA Glycolic เพื่อลดรอยแดงหลังจากรักษาเลอเซอร์ หรือกดสิวนั่นเอง
Glycolic Acid เหมาะกับใคร
เนื่องจากคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว จึงทำให้สามารถใช้ได้ในผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ โดยGlycolic Acidช่วยทำให้หัวสิวแห้ง และเป็นสิวหัวเปิดได้ง่ายขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการความกระจ่างใส มีปัญหา ฝ้ากระ และจุดด่างดำที่เกิดจากสิวค่ะ
Glycolic Acidถือเป็นActive Ingredientอีกตัวที่ได้รับความนิยม และได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างทางการแพทย์ผิวหนังเลย ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ผลจริง มีงานวิจัยรับรองที่น่าเชื่อถือ ใครที่กำลังมองหาActive Ingredientที่ช่วยเรื่องปัญหาจุดด่างดำ รอยสิว ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระGlycolic Acidจึงเป็นอีกตัวที่น่าสนใจและตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ