รูปภาพ:https://thumbs.gfycat.com/ThunderousAngryKingsnake-small.gif

ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeคนที่ ( อยากจะไม่ ) โสดทั้งหลาย (´• ω •`) ♡อยากจะมีใครสักคนที่รู้ใจ นั่นคือสาเหตุที่สาวซิสหลายคนเข้าแอปหาคู่, ให้เพื่อนแนะนำให้, ไปสถานที่พบเจอผู้คนใหม่ๆ ซึ่งบางส่วนก็ได้เจอคนที่คุยแล้ว ' ดูเหมือน ' จะคลิกกันได้ดี จึงตัดสินใจนัดเดทครั้งแรกเพื่อศึกษากันให้มากขึ้นแต่หลังจากเจอหน้า เห็นอากัปกิริยา น้ำเสียง mindset ต่างๆ ที่ตอนเจอกันครั้งแรกไม่ได้เป็นแบบนี้ ก็เกิดอาการฝันสลายเสียงในหัวดังขึ้นมาทันทีว่า ' คนนี้ไม่น่าใช่ ' แต่อีกฝ่ายก็เหมือนจะไม่รู้ตัว ยังพยายามเข้าหา จับมือ โผกอด และจัดแจงนัดเดทรอบสองให้เสร็จสรรพ ( แต่ในใจเธอคิดว่า เมื่อไหร่จะได้ออกไปจากตรงนี้ซะที้!!! )ครั้นจะโพล่งออกไปตรงๆ ว่าไม่ชอบแล้ว จะไม่มีรอบสองอีกแล้ว ( ว้อย ) !!  ก็กลัวจะเป็นการหักหน้า ทำร้ายน้ำใจเขาเกินไป ยังไงเขาก็เป็นคนดีคนนึงแต่จะให้มาเที่ยวกับเขาอีกก็ไม่ไหวแล้วอะ น่าเบื่อ น่าอึดอัด หงุดหงิดมาก หรือจะทำเนียนหายไปเงียบๆ ดี? แต่ก็สงสารจิตใจคนรออีกนั่นแหละในบทความนี้เราจึงมาแนะนำ' 7 ทริคปฏิเสธเดทรอบสองอย่างสุภาพ ' เด็ดขาด แต่ยังถนอมความรู้สึกคู่เดทเท่าที่จะทำได้จะต้องทำยังไงบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

1. บอกความจริงไปตรงๆ อย่าพูดอ้อม อย่าโกหก

รูปภาพ:https://img.168upload.com/uploads/20210202/0e7e308d5e61556425960ef12c9c9bb3016ade34.jpg

แม้จะพยายามเลี่ยงในการพูดคำนี้มากแค่ไหน แต่ถ้าจะให้อีกฝ่ายเข้าใจตรงกัน ยังไงก็ต้องบอกความจริงอยู่ดี อย่าโกหก จะยิ่งทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้น! สาวๆ บางคนกลัวจะทำร้ายจิตใจผู้ชาย ก็อ้างไปเรื่อยว่ายังไม่ว่าง งานยุ่ง เลื่อนนัดออกไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด

ซึ่งหนุ่มบางคนอาจจะถอดใจหายเงียบไปเอง แต่ถ้าเจอหนุ่มสายตื๊อหรือรอเก่งขึ้นมา... บางทีเงียบไปเป็นปีเขาก็ยังมีความหวัง กลายเป็นปิดโอกาสทั้งตัวเธอและเขาโดยไม่จำเป็น

การพูดตรงกับโพล่งออกมาแบบไม่สนใจความรู้สึกคู่เดทนั้นต่างกัน เธอไม่จำเป็นต้องบอกว่า " แหวะ คนแบบนี้เหรอจะมาเป็นแฟนฉัน แค่เจอหน้าก็อี๋แล้ว เคมีไม่ได้ ความคิดก็ไม่ตรงกันสักอย่าง " แต่บอกแนวๆ ว่า " พอเจอกันแล้ว รู้สึกว่าเราเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า "

ถ้าเขายังไม่เข้าใจก็ค่อยอธิบายเพิ่มไปตรงๆ ว่ายังไม่รู้สึกถึงขั้นเป็นแฟนด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ให้ชัดเจน ถ้าเป็นคนปกติเขาจะรู้ความหมายและถอยห่างไปเองค่ะ

2. บอกคำชม/ข้อดีของอีกฝ่าย ก่อนจะบอกว่า " เราไม่ไปต่อนะ "

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/fed64324e7bd3252430ff6b0b0d47d06.jpg

ก็ต้องยอมรับว่า ผู้ชายบางคนถ้ามองในฐานะเพื่ิอนหรือพี่ชาย ก็ถือเป็นคนที่มีข้อดีหลายอย่าง ทั้งสปอร์ตชอบเปย์ เลี้ยงข้าวเลี้ยงขนม เทคแคร์ ถือของให้ เธอป่วยก็รีบไปซื้อยามาให้กิน ทัศนคติก็ไม่ได้แย่ แต่ทำยังไงก็รัก หรือหลงใหลในฐานะแฟนไม่ได้ เคมีไม่สปาร์คใดๆ เหมือนมาเที่ยวกับเพื่อนคนนึง


ซึ่งมันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่บังคับกันยาก แต่เมื่อเดทจบแล้ว หรือเขาเริ่มพูดเรื่องเดทสอง ก็ต้องรวบรวมความกล้าบอกไปตรงๆ ว่า " เธอจะไม่ไปต่อ "

เริ่มเกริ่นด้วยคำชมถึงความดีงามในตัวเขาก่อน " เธอเป็นคนดีมากเลยนะ ไปเที่ยวกันก็รู้เลยว่าเธอมีน้ำใจมากๆ ดูแลเอาใจใส่ตลอด " แล้วค่อยๆ ขมวดปมเข้าเรื่องว่า " ถ้าใครได้เป็นแฟนเธอคงโชคดีมากๆ เลย คือเราไม่ได้รู้สึกกับเธอแบบนั้นจริงๆ แต่เธอไม่ผิดอะไรเลยนะ ยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ต้องใจตรงกับเธอแน่นอน "


แม้สุดท้ายจะต้องห่างกันไป แต่เขาจะเข้าใจและไม่จมอยู่กับคำถามว่าเขาทำอะไรผิดรึเปล่า? และสามารถมูฟออนไปต่อทั้งสองฝ่ายได้แบบไม่ค้างคาค่ะ

3. ไม่จำเป็นต้องบอกว่า " เราเป็นเพื่อนกันได้นะ " ถ้าในใจไม่ได้คิดแบบนั้น

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/690c2b501a779d6dc4564a0ab33429aa.jpg

สำหรับหนุ่มบางคนที่นิสัยชิลล์ๆ ดูเป็นคนเข้าใจง่าย ไม่คิดอะไรมาก คุยกันถูกคอระดับหนึ่ง ถ้าเดทแล้วไม่เวิร์ก ก็แค่บอกปัดไปว่าเป็นเพื่อนกันจะเหมาะกว่า เขาก็จะถอยและมูฟออนหาสาวคนอื่นไปเอง เธอก็จะลงเอยด้วยการมีเพื่อนหรือพี่ชายเพิ่มอีกหนึ่งคน จบ


แต่สำหรับผู้ชายที่นิสัยจริงจังสุดๆ แค่เดทแรกก็พร่ำเพ้อถึงแพลนกับเธอในอนาคตเป็นวรรคเป็นเวร หรือนิสัยไม่โอเคมากๆ แบบที่ถึงเป็นเพื่อนก็ไม่อยากคบ สองไทป์นี้เราแนะนำให้ปฏิเสธไปเลยแบบไม่ต้องให้ความหวังใดๆ ทั้งสิ้น!

ไม่ต้องพูดคำว่า " เพื่อน ", " มิตรภาพ ", " ไว้ค่อยเจอกันวันหลัง " เพราะจะยิ่งเป็นการเติมไฟความหวังให้เขาเหล่านั้น แม้ตัวเราจะไม่คิดอะไรแล้ว แต่ถ้าสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายยังหวัง ยังคิด ยังพยายามเข้าหา หยอดคำหวานอยู่ตลอดเวลา

ก็จะทำให้เธออึดอัดลำบากใจ และจะยิ่งสลัดยากกว่าเดิมด้วยเพราะดันบอกว่าเป็นเพื่อนกันไปแล้ว บอกแค่ว่า " เราขอโทษนะ แต่เราไปต่อกันไม่ได้หรอก " แล้วตัดจบซะ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลังค่ะ

4. อย่าปล่อยเบลอ หรือพูดสิ่งที่ทำให้อีกฝ่าย " มีความหวัง "

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b72b0a9e1035e9cc45c6d4dba79ee96e.jpg

สำหรับสาวๆ ที่รู้ใจตัวเองชัดเจน รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นแค่เพื่อนแน่ๆ หรือไม่อยากคบต่อก็ตาม บอกไปตรงๆ ปัญหาก็เคลียร์ไม่ยากนัก แต่ผู้หญิงมากมายที่ขี้เกรงใจ ใจอ่อน หรือกำลังสับสน อยากกั๊กคนนี้ไว้เป็นตัวสำรอง เห็นหน้าผู้ชายครั้งแรกก็รู้แล้วแหละว่าไม่ใช่ขนาดนั้น แต่เขาก็ดูมีดีหลายอย่าง เก็บไว้ก่อนดีมั้ยนะ? จึงแสดงออกด้วยคำพูดปลายเปิดชวนให้คิด


บางทีก็เผลอพูดไปว่า " ไว้มาที่นี่กันใหม่คราวหน้านะ ", " เดี๋ยวกลับบ้านแล้วทักแชทหานะ ", " ไว้วันหลังเราไปเที่ยวกัน " ทั้งที่ในใจจะเทแล้ว แต่ผู้ชายคิดจริงจังว่าต้องมีเดทสองชัวร์ แบบนี้ไม่โอเค!

นอกจากทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่ายแล้ว เธอก็จะตกอยู่ในสภาพติดบ่วงคำพูดตัวเอง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะมูฟออนหาคนใหม่ซะหน่อย คนนี้ก็มาชวนไปเดทยิกๆ ใช้เสียงอ่อนเสียงหวาน ทำดีใส่จนเธอน้ำท่วมปากไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งที่ไม่ได้ชอบแต่ต้นแล้วแท้ๆ...

อย่าปล่อยให้เรื่องไปถึงจุดนั้น และอย่าโลภคิดเก็บใครไว้เป็นตัวสำรองเลยค่ะ ทุกคนมีโอกาสเลือก ถ้ารู้สึกไม่ใช่ก็บอกเขาไปตรงๆ เขาจะได้ไม่เสียเวลา เพราะสุดท้ายเธอก็ไม่เลือกเขาอยู่ดี มันเจ็บเด้อ

5. บอกกับคู่เดทต่อหน้า อย่าบอกทางข้อความ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/9792139531b8eb6f5e1ffa0fbb129d5b.jpg

คนสมัยนี้ที่อยู่กับเทคโนโลยี หลายคนก็กลัว เวลาต้องบอกเรื่องสำคัญหรือมีแววดราม่าแน่ๆ ก็จะใช้การบอกผ่านโซเชียลแทน ทักแชท ทักไลน์ หรืออย่างมากสุดก็คอลแบบเห็นหน้า เพราะคิดไปเองว่า " ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็แค่กดตัดสาย " ต่างจากไปเจอหน้าที่จะหนีได้ยากกว่า


หรือขั้นแอดวานซ์กว่านั้น คือไม่บอกอะไรสักอย่าง เงียบหายไปเลย ให้อีกฝ่ายรออย่างไม่มีจุดหมาย ทักแชทไปก็อ่านไม่ตอบ หวังว่าผู้ชายจะเข้าใจและหายไปเอง ยิ่งทำให้ปัญหาคาราคาซังไปเรื่อยๆ

ทางที่ดีที่สุด ( แต่ต้องรวบรวมความกล้านานที่สุด ) คือบอกตรงๆ ต่อหน้านี่แหละค่ะ นัดเจอกันข้างนอก ทำใจให้สงบ แล้วบอกไปตรงๆ ว่า


" ไม่อยากเจอกันอีก รู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่อยากไปต่อในฐานะแฟน " ให้เขาเข้าใจชัดเจน อาจจะดูเป็นคนใจร้าย แตในระยะยาวเขาจะต้องขอบคุณเธออย่างแน่นอน

6. ถึงเขาจะโกรธ ร้องไห้ฟูมฟายยังไง ก็อย่าใจอ่อนเด็ดขาด!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/713ae8dd0399717b65fe1e3923881d26.jpg

ผู้ชายมีหลายประเภท หลายคนเมื่อบอกไปตรงๆ ก็เข้าใจและถอยห่างทันที, บางคนมีฟูมฟายบ้าง แต่สุดท้ายก็ทำใจได้ในวันนั้น แต่บางคนก็ร้องไห้ไม่หยุด เป็นสัปดาห์ เป็นเดือนๆ ก็ไม่ยอมมูฟออน ส่งข้อความหรือโทรมาอ้อนวอนทุกวันว่าเขาทำผิดอะไร? คบกันต่อไม่ได้จริงๆ เหรอ?

พอตอบกลับด้วยการนิ่งเงียบ จากที่ร้องไห้ใส่ก็เริ่มใช้ถ้อยคำหยาบคายรุนแรง ตัดพ้อต่อว่า หาว่าเธอทำเป็นเลือกมาก ถ้าเขาไม่คบ แล้วใครเขาจะเอา etc. ( ไทป์หลังนี่น่ายันให้หงายจริงๆ )

ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรมาก็ตาม สาวๆ จงยึดมั่นใจจุดยืนของตัวเอง ถ้าในใจรู้สึกไม่ใช่ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนไปคบกับเขาเพราะทนรำคาญไม่ไหว ไม่มีใครขาดใจตายเพียงเพราะผู้หญิงที่เจอกันไม่นานหรอก ก่อนหน้าจะเจอเธอเขาก็อยู่มาได้ ต่อไปเขาก็จะอยู่ได้เองคนเดียวเช่นกัน


จำไว้นะคะ อย่าปล่อยให้ความใจอ่อนครอบงำ จนได้แฟนที่เธอไม่มีความสุขที่จะอยู่ด้วยเลย ระยะยาวก็ทรมานทั้งสองฝ่าย และสุดท้ายก็ต้องจบด้วยการเลิกรา

7. ถ้าเจอคนขี้ตื๊อมากๆ " บล็อกโซเชียล/เบอร์โทร " ไปเลยก็ดีนะ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/272d002128d0f2b28c6db7ed37ed0200.jpg

อย่างที่บอกว่าคนมีหลายประเภท ถ้าสาวๆ ดันโชคร้ายไปเจอสายแข็ง สายตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก พูดปฏิเสธไปแล้วก็ไม่ฟัง ทำหูทวนลม ยังคงมาหยอด มาคุยคำหวานสามเวลาหลังอาหาร เธอจะมูฟออนไปเจอคนใหม่ก็กันซีน ทำตัวเป็นหมาหวงก้างทั้งที่ไม่ได้มีสิทธิ์ใดๆ ในตัวเธอเลย

ถ้าเรื่องเริ่มจะเลยเถิด อาจจะถึงเวลาที่ต้อง ' บล็อก ' โซเชียลทุกชนิดและเบอร์โทรของเขาทิ้ง ไม่ต้องมาเจอะมาเจอกันอีก แม้แค่ในโลกออนไลน์ก็ตาม!

ผู้หญิงบางคนใจอ่อน หรือใจดีเกินกว่าจะตัดใครออกไปจากชีวิต ถือคติมีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด แต่ลองคิดมุมกลับนะว่า ถ้าเก็บคนนี้ไว้แล้วคนดีๆ ในอนาคตที่จะเข้ามาหายไปหมด คนนี้จะยังคุ้มที่เก็บไว้ไหม แถมเก็บไว้ก็ทำอะไรไม่ได้


คบเป็นเพื่อนก็กลัวลามปาม ได้คืบจะเอาศอก จะคบเป็นแฟนก็ไม่ได้รู้สึกรักในแง่นั้น แถมอึดอัดทุกครั้งที่เขามาไลก์ มาคอมเมนต์ หรือทักมอร์นิ่ง ฝันดีทุกวัน ขนลุก! ตัดไฟแต่ต้นลมไปเลยดีกว่า จะมาทนทุกข์กับคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเพื่อออ

รูปภาพ:https://i.imgur.com/mFiQBNT.gif

--------------------------------------------

ความรักจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก หากถึงคราวเจอคนที่ใช่ เคมีจุดติดทั้งสองฝ่ายแบบไม่ต้องพยายามก็ถือว่าโชคดี แต่สำหรับหลายๆ คน ที่ค้นหาคู่ชีวิตจากมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เจอคนดีบ้างไม่ดีบ้าง บางคนเป็นเพื่อนที่ดีมากแต่คบเป็นแฟนไม่รอด บางคนแค่เห็นหน้าแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ควรไปต่อ ถ้ายังอยู่ในแชทก็ยังตัดจบง่าย แต่ถ้านัดเดทเจอตัวจริงกันข้างนอกแล้วก็จะปฏิเสธได้ยากขึ้น แม้บรรยากาศจะกระอักกระอ่วนแค่ไหน ถ้าเธอใจอ่อนแล้วไปเจอผู้ชายตามตื๊อ ก็จะเจอปัญหาสลัดไม่หลุด เผลอๆ โดนมัดมือชกเป็นแฟน แล้วไปเลิกกันทีหลังให้เสียเวลาฟรีอีก

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านั้น ถ้ารู้สึกในใจแล้วว่า " ไม่ใช่ " ก็อย่าฝืน รีบบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไปอย่างสุภาพและตรงประเด็นมากที่สุด เพราะนี่ไม่ใช่การซื้อขนมห้าบาทสิบบาท แต่เรากำลังเลือกคู่รักที่จะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต ถ้าไม่รู้สึกก็คือไม่รู้สึก แม้จะทำให้อีกฝ่ายเสียใจแค่ไหน แต่สุดท้ายก็จะมูฟออนได้เอง เจ็บแต่จบ ดีกว่าฝืนคบกันไปทั้งที่รู้ว่าไม่แต่งงานกับคนนี้แน่ๆ เสียเวลาทั้งสองฝ่ายไปเปล่าๆ หากเธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ขอให้เข้มแข็งและเอาตัวเองออกจากจุดนั้นให้ไวที่สุดนะคะ คนใหม่ที่ใช่กว่ารออยู่ ^^