เวลาหนุ่มที่มาจีบเราเริ่มตีตัวออกห่างหรือหายหน้าไปเฉย ๆ คุณสาว ๆ คงอยากร้องกรี๊ดให้ลั่นโลกใช่ไหม แต่บางทีสาเหตุอาจจะมาจากคุณเองก็ได้นะ ถ้าพฤติกรรมของคุณทำให้เขารู้สึกว่าถึงเดินหน้าจีบต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ผู้ชายมักจะไม่ทน แต่จะหายหน้าไปโดยไม่มีคำอธิบายอย่างนี้ล่ะ
1 ส่งข้อความแล้วไม่ตอบกลับ
ข้อความแรกก็แล้ว ข้อความที่สองก็แล้ว คุณก็ไม่ตอบ หรือตอบบ้างไม่ตอบบ้างแบบขอไปที ถ้าเป็นอย่างนี้ผู้ชายจะคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากคุณไม่สนใจเขา ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายที่มีอีโก้แรงมาก ๆ แค่ผู้หญิงไม่ตอบแมสเสจครั้งเดียว ไม่ว่าจะเพราะมัวแต่ยุ่ง ไม่มีเวลา หรืออะไรก็ตามที เขาก็อาจจะคิดว่าเป็นการหักหน้าเขา ว่าแล้วก็ไปจีบคนอื่นซะเลย
2 ความรู้สึกมันบอก
ถึงผู้ชายจะไม่ละเอียดอ่อนเท่าผู้หญิง แต่ความรู้สึกก็บอกได้ว่าเขากับผู้หญิงคนนี้คลิกกันหรือเปล่า ถ้าเวลาอยู่กับคุณแล้วเขาไม่รู้สึกว่าอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ แต่กลับอยากรีบกลับบ้าน อยากไปเตะบอล ไปหาเพื่อน ก็แปลว่าคุณไม่ใช่คนที่จูนกับเขาติด แล้วเขาจะเสียเวลาจีบคุณต่อไปทำไมกัน
3 คุณยังหวานใส่คนอื่น
เขาอาจจะรับได้ถ้าพวกคุณเพิ่งเดทกันเป็นครั้งแรก แต่ถ้าความสัมพันธ์พัฒนาไปในระดับที่กำลังศึกษาดูใจกัน การที่คุณไปอ่อยคนนั้นนิด ไปแอ๊วคนนี้หน่อย อันนี้เริ่มไม่ใช่แล้ว เขาจะเริ่มสงสัยว่าคุณจะวางเขาไว้ในฟังก์ชั่นการใช้งานแบบไหน ตัวสำรอง กิ๊ก แฟน หรืออะไร ณ จุดนี้ถ้าเขาไม่ใช่พวกที่ชอบคบซ้อน เขาก็จะเสกคาถากำบังกายแล้วหายแว๊บไปในทันที
4 พฤติกรรมเธอเปลี่ยนไป
เวลาจีบใครผู้ชายจะสังเกตว่าความสัมพันธ์มีโอกาสจะพัฒนาหรือเปล่า ถ้าหากตอนเริ่มคุยกันใหม่ ๆ ทุกอย่างราบรื่น คุณพูดจาปราศรัยด้วยดี แต่พอคบ ๆ ไปพฤติกรรมของคุณเริ่มไม่เหมือนเดิม อย่างเช่น มีข้ออ้างไม่ยอมมาตามนัด เวลาเจอก็ไม่ค่อยคุย ไม่ค่อยสบตา จะไปส่งบ้านก็ไม่ยอม ไม่ว่าคุณจะทำไปโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามเถอะ แต่สำหรับผู้ชายจะถือว่าความสัมพันธ์ไม่คืบหน้า คุณอาจจะไม่ได้ชอบเขาอย่างที่เขาคิดก็ได้
5 ไม่เคยให้ของขวัญ
ไม่ใช่ว่าเขางกอยากได้เสื้อหรูพร้อมนาฬิกาแบรนด์ดังจากคุณหรอกนะ แต่เพราะธรรมชาติของผู้หญิงจะชอบมีของกุ๊กกิ๊กเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปให้คนที่ตัวเองพอใจ แต่ถ้าคุยกันมาตั้งเป็นเดือน เขายังไม่เคยเห็นแม้แต่คุกกี้สักกล่องจากคุณ สัญญาณเตือนภัยในหัวเขาจะดังทันทีว่าคุณคงไม่ต้องการให้เขามีข้าวของอะไรมายืนยันความสนิทสนมกับคุณได้นั่นเอง
6 ไม่ยอมให้แตะเนื้อต้องตัว
ไม่ถึงกับต้องพากันไปค้างอ้างแรมตามชายทะเลหรอกนะหนู เอาแค่เดินจูงมือกันตามห้างนี่ล่ะ ถึงแม้ผู้หญิงบางคนจะมีฮอร์โมนเพศชายสูงเลยออกแนวแมน ๆ ไม่ค่อยชอบแสดงความรักเหมือนสาว ๆ ทั่วไป แต่คนเป็นแฟนกันก็ต้องมีโมเมนต์อยากจะจับมือจับไม้กันบ้าง แต่ถ้าคุณไม่ให้เขาแตะแม้แต่ปลายเล็บ แถมดูอาการแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะเขินอายอะไร แต่มาแนวรังเกียจ รำคาญ ไม่อยากให้สัมผัสมากกว่า สิ่งที่จะวิ่งเข้ามาในสมองเขาคงมีสองเรื่อง หนึ่งคือคุณไม่ชอบเขา และสองคือคุณเป็นทอม แต่ไม่ว่าเป็นข้อไหนเขาก็คงทนจีบคุณต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ
7 คุณชอบโกหกเขา
สิ่งแรกที่คนรักต้องการจากอีกฝ่ายคือความซื่อสัตย์ แต่ถ้าคุณชอบโกหกเขาเขาก็ต้องเสียความรู้สึกแน่นอน ถึงคุณจะบอกว่าฉันแค่ไม่ได้พูดความจริงในเรื่องจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันทั่วไปเท่านั้นเอง แต่โกหกก็คือโกหกนะจ๊ะ ขนาดอยู่ในขั้นจีบคุณยังมีลับลมคมนัยกับเขาได้ แล้วถ้าเป็นแฟนกันเขามิถูกหลอกจนมิกล้าไว้ใจคนทั้งโลกไปเลยหรือ
8 ความเอาใจใส่ไม่มี
ไม่ใช่ว่าเขาคาดหวังให้คุณหนูอย่างคุณมาคอยเทคแคร์หรอกนะ แต่เขาก็ต้องรู้สึกบ้างละถ้าคุณจะเอาแต่สบายฝ่ายเดียว แล้วปล่อยให้เขาเซอร์วิสทุกสิ่งอย่าง ทั้งขับรถรับส่ง คอยโทรหา ซื้อขนมมาฝาก ไหนจะต้องพยายามทำตัวกลมกลืนกับเพื่อนคุณ ปรับตัวให้เข้ากับที่บ้านคุณได้อีกล่ะ ส่วนคุณน่ะหรือ ขนาดเขาชอบกินอะไรก็ยังจำไม่ได้ ถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้จะเหมือนไม่สำคัญ แต่ถ้าคุณเอาใจใส่เขาบ้าง คุณก็น่าจะจำได้สิ จริงไหม
9 เมื่อเธอไม่ชัดเจน
ถ้าออกเดทสวีทหวานกันมาได้สักพักจนเพื่อนทางฝั่งเขารู้กันหมดแล้ว แต่พอหันไปมองทางคุณบ้าง เพื่อนฝูงของคุณไม่มีใครรู้เลยว่าเขากับคุณกำลังคบกัน เพราะคุณไม่เคยลงรูปคู่กันในเฟสบุ๊ค ไม่ยอมลงรูปดอกไม้ที่เขาส่งให้ เจอเพื่อนก็ไม่แนะนำว่าเขาเป็นใคร ผู้ชายส่วนใหญ่จะแอบจำกัดเวลาอยู่เงียบ ๆ และถ้าถึงเส้นตายแล้วคุณยังมีท่าทีเหมือนเดิม ก็แปลว่าคุณไม่ได้คิดจะจริงจังกับเขา แล้วแบบนี้เขาจะยอมเป็นของเล่นให้เสียศักดิ์ศรีทำไมล่ะ
10 ความเหงากำลังทำงาน
ที่เขามาจีบคุณก็เพราะไม่อยากอยู่กับความเหงา แต่ถ้าคบกันแล้วคุณทำให้เขารู้สึกว่าเขากับความเหงายังแยกจากกันไม่ได้ เพราะคุณชอบผิดนัด ติดเพื่อน หรือเข้าข้างคนอื่นตลอดเวลา ก็แปลว่าต่อให้มีคุณ ชีวิตเขาก็ไม่มีความสุขเพิ่มขึ้นมาเลย มีแต่จะนอยด์ น้อยใจ และเหงามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ถ้าคุณทำให้ผู้ชายของคุณรู้สึกเช่นนี้ มั่นใจเถอะว่าสักวันเขาต้องเดินออกไปจากชีวิตคุณชัวร์
การที่ผู้ชายเงียบหายไปโดยไม่บอกกล่าว มันหมายถึงการบอกลาแบบเงียบ ๆ นั่นเอง อาจเป็นเพราะเขาทนเราไม่ได้ เขาอาจเจอคนใหม่ หรือเขาอาจจะไม่คิดจริงจังกับใคร แต่ไม่ว่าเขาจะเงียบหายไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณต้องเข้มแข็งและก้าวเดินต่อไป มองสิ่งสวยงามรอบ ๆ ตัว โลกใบนี้ยังมีผู้ชายดี ๆ รอคุณอยู่ค่ะ